ธีรภัทร์โต้ข้อหารมต.สายพันธมิตรฯ คอยป่วนรัฐบาล

(2ตค.) เวลา 08.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) บางส่วนเข้าชื่อยื่นเปิดอภิปรายเรื่องจริยธรรมของรัฐบาลและกดดันให้นายกฯและครม.ลาออก ว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะส่งผลต่อการกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 23 ธ.ค. นี้ และยังไม่มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้กำหนดวันเลือกตั้งดังกล่าวแปรเปลี่ยนไป รัฐบาลยังคงยืนยันที่จะสนับสนุนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้มีการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ ส่วนการที่ สนช.จะเปิดอภิปรายรัฐบาลก็เป็นการดำเนินการไปตามหน้าที่ของ สนช. รัฐบาลเองก็ทำตามหน้าที่ของรัฐบาล ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน และไม่น่าจะมีปัญหาที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ทั้งนี้เสียงประชาชนส่วนใหญ่รวมถึงพรรคการเมืองก็อยากให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 23 ธ.ค. นี้ โดยในส่วนของพรรคการเมืองต่างๆก็ได้เตรียมความพร้อมแล้ว แสดงให้เห็นว่าทุกฝ่ายมีความต้องการที่ตรงกันที่จะขับเคลื่อนไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

นายธีรภัทร์ กล่าวว่า คิดว่ารัฐบาลชี้แจงได้ทุกเรื่อง ส่วนที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้นายกฯและครม.ลาออกนั้น คิดว่านายกฯคงชี้แจงเรื่องต่างๆ ได้ ซึ่งคงเหลือเวลาอีกไม่กี่วันกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับก็น่าจะประกาศใช้ได้ หลังจากนั้นก็จะมีการออก พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้ง โดยเมื่อมี พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งแล้ว รัฐบาลก็จะกลายเป็นรัฐบาลรักษาการ โดยจะทำงานเฉพาะในภารกิจที่คั่งค้างอยู่ รวมทั้งเตรียมการเลือกตั้ง แต่จะไม่มีการกำหนดนโยบายใหม่ๆ ทั้งนี้ในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนนั้น ขณะนี้กฎหมายว่าด้วยการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนรวมกับประโยชน์ส่วนตนซึ่งจะมีการขยายฐานความผิดอีกหลายประการที่รัฐบาลเสนอ ได้ผ่านการพิจารณาเรียบร้อยแล้ว และก็จะมีการประสานงานจัดการสัมมนาร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อชี้แจงให้เกิดความเข้าใจแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เพราะเห็นได้ชัดจากปัญหาการถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 5 ขณะนี้ ก็เกิดจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจึงทำให้มีปัญหาขึ้นโดยไม่ได้เจตนา

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ท่านถูกมองว่าเป็นรัฐมนตรีสายพันธมิตรฯและเป็นบุคคลที่ออกมาเคลื่อนไหวกดดันทางการเมืองทั้งการอภิปรายรัฐบาล การกดดันรัฐมนตรีให้ลาออก

นายธีรภัทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเพราะพวกสื่อมวลชนเป็นผู้วิเคราะห์เอง โดยไม่ได้อิงอยู่บนข้อเท็จจริง ตนอยากให้การทำหน้าที่ของสื่ออยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงด้วย เมื่อถามต่อว่าจะนิยามความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับกลุ่มพันธมิตรฯอย่างไร นายธีรภัทร์ กล่าวว่า สำหรับตนแล้วไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพันธมิตรฯเดิมหรือไม่ใช่กลุ่มพันธมิตรฯเดิม ถ้าเป็นคนดี ทำถูกต้อง ก็เป็นมิตรกับตนทั้งนั้น แต่ถ้าใครทำไม่ดีกับประเทศชาติและทำไม่ถูกต้องก็เป็นศัตรูของตน ซึ่งตนมีหลักการอย่างนี้ ส่วนที่มีการโยงเรื่องการตรวจสอบรัฐบาลและการที่รัฐมนตรีลาออกมาเกี่ยวกับตนนั้น ขอยืนยันว่าตนไม่ใช่คนที่จะทำอะไรที่ไม่ตรงไปตรงมา ตนทำทุกอย่างเปิดเผยและโปร่งใส มีอะไรไม่เข้าใจก็ขอให้มาถามได้ และขอให้สื่อมีใจที่เป็นกลาง และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ถ้ามีอะไรที่ยังไม่ชัดเจน ไม่ถูกต้อง ก็อย่าเพิ่งไปกล่าวหา

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีเองก็ได้ออกมาตำหนิรัฐมนตรีที่ออกมาวิจารณ์เพื่อนรัฐมนตรีว่าให้มีความระมัดระวัง เข้าใจว่านายกรัฐมนตรีหมายถึงตัวท่านหรือไม่ นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่อะไรที่เป็นข้อแนะนำของผู้ใหญ่เราก็ต้องรับฟัง และนำมาพิจารณาไตร่ตรองด้วยความเคารพ