นายกฯระบุมีรมต.ในใจครบแล้ว - รอในหลวงลงพระปรมาภิไธย

พร้อมถวายในหลวงลงพระปรมาธิไภยในสัปดาห์นี้ ชี้ตำแหน่งรองนายกฯ ด้านความมั่นคงมีความจำเป็น แจงรมต.ลาออกเพราะมีจริยธรรม ยืนยันไม่ลาออกจนกว่าจะมีเลือกตั้ง ภายหลังจากที่พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องรัฐมนตรี 7 คนที่มีปัญหาถือหุ้นในบริษัทเอกชนมากกว่าร้อยละ 5 เสร็จสิ้น พล.อ.สุรยุทธ์ ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม โดยผู้สื่อข่าวถามว่าจะใช้เวลานานเท่าใดในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงใช้เวลาไม่นาน โดยจะต้องทำการกราบบังคมทูลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาธิไภย แต่ก่อนหน้าที่จะมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งครม. จะไม่มีการเปิดเผยรายชื่อครม.ทั้งสิ้นแต่ตนมีบุคคลในใจที่จะแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีครบหมดทุกตำแหน่งแล้ว ทั้งนี้การปรับครม.จะพยายามพิจารณาจากบุคคลในครม.ก่อน และจะมีการแต่งตั้งจากคนนอกเพียงส่วนน้อย และคาดว่าจะสามารถการกราบบังคลทูลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงได้ภายในสัปดาห์นี้

ส่วนคำถามที่ว่าพล.อ.สุรยุทธ์ จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยควบกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น  พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า

การควบตำแหน่งรัฐมนตรีจำนวนกี่กระทรวงนั้น จะดูว่าอะไรเหมาะควรอย่างไร โดยกระทรวงที่มีรัฐมนตรีลาออกก็จำเป็นต้องหาคนมาทำงานแทนให้ได้ สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกระทรวงทรัพยากรรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่มีรัฐมนตรีว่าการ ต้องสั่งให้บุคคลอื่นรักษาราชการแทนไปก่อน เช่น กระทรวงมหาดไทย ให้นายบัญญัติ จันทร์เสนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาราชการไปก่อน  ทั้งนี้ การจะแต่งตั้งให้มีการดำรงตำแหน่งควบหรือไม่นั้น จะต้องดูที่ความเหมาะสม 'นอกจากนั้น ยังได้หารือเกี่ยวกับผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคงมากพอสมควร เพราะเป็นตำแหน่งที่มีความจำเป็น' พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว

พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตำแหน่งประธานคมช.ไม่มีกฎหมายรองรับอยู่แล้วในขณะนี้ เมื่อถามว่าพล.อ.สุรยุทธ์พึงพอใจกับคำชี้แจงเหตุผลของนายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังที่ปฏิเสธลาออกจากตำแหน่งหรือไม่นั้น พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คิดว่าข้อมูลที่ทั้ง 3 ท่านชี้แจงมาเป็นข้อมูลที่มีเหตุผลและทุกคนไม่มีเจตนาปกปิดการถือหุ้น รวมทั้งสามารถอธิบายที่มาที่ไปของเรื่องนี้ได้ นอกจากนี้ เมื่อทั้ง 3 ท่านได้รับทราบเรื่องนี้จากสื่อมวลชนก็ทำการแก้ไขทั้งที่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นทางการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทุกคนพร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย

ส่วนคำถามถึงเหตุที่ทำรัฐมนตรี 5 คนประกาศลาออกจากตำแหน่งนั้น มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไรหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า  

ไม่ทราบเพราะว่าตอนที่เหตุการณ์เกิดขึ้นตนอยู่ที่ต่างประเทศ และไม่สามารถบอกเจตนาของคนอื่นได้ แต่ผมสามารถบอกเจตนาของครม.ที่ได้พูดคุยด้วยได้ว่า ทุกคนไม่มีเจตนาในการปกปิดใดๆ ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม คิดว่าจำเป็นต้องชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน นอกจากนี้ ได้พูดคุยกับนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เกี่ยวกับการสร้างความเข้าใจว่ามีบุคคลใดบ้างที่อยู่ในข่ายที่ต้องถูกดำเนินการและขอให้ปปช.แจ้งให้เจ้าตัวทราบ เพราะการแจ้งผ่านสื่อไม่อยู่ในกระบวนการของการดำเนินการ  ส่วนรัฐมนตรีที่ได้ตัดสินใจลาออกไปคิดว่าทำไปด้วยความมีคุณธรรมและจริยธรรม เพราะการลาออกก่อนที่จะได้รับแจ้งเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ

ส่วนคำถามที่ว่ามีความพยายามกดดันให้พล.อ.สุรยุทธ์ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อแสดงความรับผิดชอบด้านจริยธรรมนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า

เราไม่มีเจตนาในการกระทำผิดแต่อย่างใด แม้กระทั้งผู้ที่ทำความผิดอุกฉกรรจ์ เช่น การฆ่าคนตายโดยไม่มีเจตนา กฎหมายยังลดหย่อนโทษให้ เช่นเดียวกับเราที่ไม่มีเจตนาทำความผิดแต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามสิ่งที่เหมาะสม จึงคิดว่าแค่นี้ก็เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงคุณธรรมอยู่แล้ว ส่วนที่มองว่า กระแสกดดันให้นายกฯลาออกเพื่อต้องการให้มีการเลื่อนการเลือกตั้งนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า เราตั้งใจที่ทำงาน แต่เมื่อมีปัจจัยอื่นใดที่ทำให้เราไม่สามารถดำเนินการได้ เมื่อถึงจุดๆนั้น ก็เป็นเรื่องที่เราไม่สามารถพูดได้ แต่ความตั้งใจของทุกคนคืออยากให้บ้านเมืองพ้นวิกฤตและมีการจัดเลือกตั้งที่โปร่งใสและเป็นธรรม แต่หากมีอะไรอื่นนอกเหนือจากนี้ที่ส่งผลกระทบจนไม่สามารถทำตามความตั้งใจได้ ก็เป็นเรื่องที่นอกเหนือจากความสามารถของเราเพราะทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา