"เสนาะ"อัดยับ แม้วโกงทุกอย่างที่ขวางหน้าพร้อมออกแถลงการณ์ขอโทษ ปชช.หลังสนับสนุนคนผิด
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 เมษายน 2549 22:18 น.
ศูนย์ข่าวศรีราชา เสนาะ เทียนทอง ขึ้นเวทีปราศรัยต่อต้านระบอบทักษิณร่วมแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อัดยับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่รู้คุณไม่เป็นไรแต่ทรยศประเทศยอมไม่ได้ เผยไม่มีรัฐบาลชุดไหนเลวทรามเท่าปัจจุบัน ซ้ำยังมีนายกฯ ที่โกงทุกอย่างที่ขวางหน้าโดยเป็นการโกงที่ถูกต้องตามกฏหมาย พร้อมออกแถลงการณ์ขอโทษประชาชน ที่ให้การสนับสนุนคนทรยศต่อชาติ
นายเสนาะ เทียนทอง แกนนำกลุ่มวังน้ำเย็น กล่าวปราศรัยบนเวทีต่อต้านระบอบทักษิณ ร่วมกับแกนนำพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้วว่า ปัญหาบ้านเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เกิดจากความดื้อรั้นของหัวหน้าพรรคไทยรักไทย จนถูกคว่ำบาตรจากพรรคฝ่ายค้านและผู้ไม่เห็นด้วย ขณะที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันให้อำนาจมากเกิน ส.ส., ส.ว และองค์กรอิสระมากเกินไปจึงจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข หลังจากที่ตนได้ใช้เวลากว่า 10 ปีในการต่อต้านรัฐธรรมนูญฉบับนี้จนได้รับฉายา "เต่าล้านปี"
พร้อมกับชี้เหตุที่ไม่สามารถอยู่กับพรรคไทยรักไทยได้ว่า เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนทรยศต่อคำพูดที่เคยให้ไว้กับตนเรื่องการใช้หนี้แผ่นดิน ที่เคยรับปากจะใช้หนี้แผ่นดินหากได้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่มีรัฐบาลชุดไหนเลวทรามได้เท่ารัฐบาลชุดปัจจุบัน และรู้สึกเสียดายที่เชื่อคนง่ายว่าคนที่ตนให้การสนับสนุนเป็นคนดี แต่กลับเป็นคนที่โกงทุกอย่างที่ขวางหน้าและยังเป็นการโกงที่ถูกต้องตามกฏหมาย ด้วยการใช้อำนาจในทุกรูปแบบเพื่อแก้ไขกฏหมายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการ
เท่าที่ผ่านมาเห็นคนเนรคุณมามาก ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ จะเนรคุณต่อป้าเหนาะก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าทรยศต่อประเทศชาติยอมไม่ได้ ผมอยู่ในเวทีการเมืองมานานกว่า 30 ปี ไม่เคยเห็นรัฐบาลชุดไหนเลวทรามเท่ากับรัฐบาลชุดปัจจุบัน เพราะเป็นรัฐบาลที่โกงทุกอย่างที่ขวางหน้า
นอกจากนั้น นายเสนาะ ยังได้ออกแถลงการณ์ในลักษณะจดหมายเปิดผนึกถึงประชาชนมีใจความสำคัญอยู่ที่การขอโทษประชาชนและชี้แจงขอเท็จจริงที่ครั้งหนึ่งเคยให้การสนับสนุนบุคคลบางกลุ่ม บางคนให้มีอำนาจจนก่อเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ต่อบ้านเมือง โดยใจความหนึ่งกล่าวถึงความผิดพลาดที่ครั้งหนึ่งได้หลงไว้ใจคนผิด รวมทั้งชักชวนประชาชนให้หลงเข้าใจผิดจนทำให้ประชาชนต้องประสบชะตากรรมร่วมกันในวันนี้ รวมทั้งสมาชิกในครอบครัว เทียนทองที่แม้วันนี้จะลาออกจากพรรคไทยรักไทย แต่ก็จะมุ่งมั่นทำงานเพื่อบ้านเมืองในฐานะอื่น
โดยสาเหตุของการออกแถลงการณ์ขอโทษประชาชนในครั้งนี้ก็เพื่อแสดงออกถึงความบริสุทธิ์ใจและหวังประโยชน์แห่งคนในชาติเป็นที่ตั้งเพื่อธำรงไว้แห่งการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเพื่อรักษาคุณค่าในคุณธรรม จริยธรรมของคนในชาติ
ขณะที่นายประมวล รุจนเสรี กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นบุคคลอันตรายซึ่งใช้กติกาเข้าข้างตัวเองเห็นได้จากการยุบสภาและกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน 2549 ถือเป็นความคิดของคนบ้านอำนาจ เนื่องจากสภาไม่มีปัญหากับนายกฯ แต่เป็นที่ตัวนายกฯ เองที่ทุจริต
คำแถลงการณ์ ของนายเสนาะ เทียนทอง
พี่น้อง ประชาชนที่รัก
จดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ถูกทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งข้อเท็จจริงบางประการ ให้พี่น้องประชาชนได้ทราบ ในขณะเดียวกันก็เพื่อกราบขอโทษพี่น้องประชาชน ในฐานะที่ครั้งหนึ่งผมมีส่วนร่วมในการช่วยส่งเสริม สนับสนุนให้บุคคลบางกลุ่ม บางคน มีอำนาจ ก่อเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ให้แก่บ้านเมือง ในครั้งนี้
เป็นที่ทราบกันดีว่าการเข้ามาบริหารของรัฐบาล พ.ต.ท.ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่การเลือกตั้ง 2544 จนกระทั้งครั้งที่ 2548 ซึ่งสามารถนำพาสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรเข่าสูสภา ได้มากที่สุด อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทยนั้น ขึ้นอยู่กับฐานความคิดบางประการที่พี่น้องประชาชนมีให้กับนายกรัฐมนตรีท่านนี้ ประการสำคัญก็เนื่องจากคุณสมบัติส่วนตัวของท่านที่ถึงพร้อมด้วยชาติวุฒิ คุณวุฒิ ประกอบกับความสำคัญในทางธุรกิจ ทำให้พี่น้องประชาชน รวมทั้งตัวตนเอง เชื่อมั่นมั่นในลำดับแรกว่า ท่านสมควรได้รับการไว้วางใจให้บริหารประเทศในวันที่ประเทศของเราอยู่ในภาวะที่อ่อนแอ จากภาวะสงครามทางเศรษฐกิจและที่สำคัญจากประโยคบอกเล่าของใครบางคนบางประโยคที่แม้ว่าในวันนี้ยังคงก้องอยู่ในหูโสตประสาทของผม นั้นคือ ตนพร้อมแล้วตนจะใช้หนี้ให้แผ่นดิน ทำให้ตนไม่ลังเลที่จะตัดสินใจเข่าร่วมอุดมการณ์ภายใต้ความเชื่อมั่นคือ ผมพร้อมแล้วผมจะใช้หนี้ให้แผ่นดิน
ทำให้ตนไม่ลังเลที่จะตัดสินใจเข่าร่วมอุดมการณ์ภายใต้ความเชื่อมั่นในตัว ท่านผู้นำ ท่านนี้ยิ่งไปกว่านั้น ไม่เพียงแต่ตนที่มอบความไว้วางใจให้กับท่าน ตนยังได้ชักชวนเชื่อเชิญ รวมทั้งช่วงโหมการโฆษณาประชาสัมพันธ์สรรพคุณของท่านผู้นำ แก่สมาชิกลูกหลาน กลุ่มการเมืองที่ร่วมอุดมการณ์กันมา รวมทั้งประชาชนทั่วไป ให้สมัครใจที่จะช่วยกันทุ่มเททำงานให้บ้านเมืองภายใต้การนำของ ท่านผู้นำ ท่านนี้จนนำไปสู่การชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น ในครั้งที่ผ่านมา
จากเหตุการณ์ข้างต้น จนมาถึงวันนี้ วันที่ตน วันที่พี่น้องประชาชน ได้ประจักษ์แก่ตัวเอง แล้วว่าสิ่งที่พวกเราเชื่อว่าวันนั้น มันเป็นเพียง ภาพลวงตา มันเป็นเพียง กลไกทางการตลาด เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจจากความเชี่ยวชาญในเชิงธุรกิจจนประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดบนฐานความคิดของ ทุนนิยมสุดขั้ว ถูกนำมาใช้ในการบริหารประเทศ เพื่อชักนำผลประโยชน์ ให้กลับสู่ตนและพวกพ้อง อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในช่วงกว่า 30 ปี ของการทำงานทางการเมืองของผม ฐานความคิดดังกล่าวจะไม่ได้มีเพียงมิติทางตังเลข มิติทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดี่ยว การคำนึงถึงความเป็นแบบอย่างที่ดี ความเป็นชาติ ซึ่งไม่ได้มีเพียงมิติทางตังเลข มิติทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดี่ยว การคำนึงถึงความเป็นแบบอย่างที่ดี ความเป็นผู้ยึดมั่นอยู่ในคุณธรรมจริธรรม ด้วยการปฏิบัติ ไม่ใช่ด้วยคำพูดเพื่อสร้างภาพที่ ดูดี ให้ปรากฏต่อสังคม เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก สำหรับคนที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำของคนทั้งชาติซึ่งหลายครั้งหลายหน จากความเป็นคนเชื่อมั่นในตนเองสูงมาก จนไม่อาจมีใคร บังอาจ ให้ความเห็นหรือตักเตือนได้ ทำให้ท่านดูจะให้ความสำคัญในเรื่องนี้ด้อยไปกว่าตัวเลขอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งก็ยังเป็นข้อกังขาว่าเป็นเศรษฐกิจของชาติหรือเศรษฐกิจขอชาติหรือเศรษฐกิจของท่านกันแน่
พี่น้องประชาชนที่รัก การทำงานให้กับส่วนรวม โดยเฉพาะการทำงานให้ใหญ่ให้กับประเทศชาติคงหลีกเลี่ยงกับความล้มเหลวความผิดพลาดไปไม่ได้ เหตุเพราะมันเป็นธรรมชาติของคนทำงาน แต่ความผิดพลาดจาการทำงานที่เกิดจากผลของการวางแผนไตร่ตรองไว้ก่อน โดยใช้ข้ออ่อนด้อยใช้ว่างของกฎหมาย แล้วภายหลังถูกสังคม จับได้ เป็นสิ่งที่ผมไม่อาจยอมได้ และผมก็เชื่อว่าเพราะพวกเราไม่อาจยอมจำนนกับสิ่งเหล่านี้ได้เช่นกัน จึงเป็นที่มาของวันนี้ วันที่พวกเราต้องพร้อมใจกันตะโกนดังๆที่ข้างหูของท่านว่าท่านหมดเวลา หมดความไว้วางใจที่จะเป็นผู้นำประเทศแล้ว