แม้ว แก้เคล็ดใส่เสื้อแดงสู้ม็อบ ฮัมเพลง ไม่แข่งยิ่งแพ้
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 กุมภาพันธ์ 2549 16:41 น.
แม้ว ใส่เสื้อแดง แก้เคล็ดวันแดงเดือดสนามหลวง ร่ายยาวชีวิตรันทด กล่อมชาวลาดกระบัง ยกเพลง เบริ์ด ไม่แข่งยิ่งแพ้ หยันฝ่ายค้าน ไม่ส่ง ส.ส.ลงสนามเลือกตั้ง เผยธาตุแท้ยึดครอบครัวมาก่อน ไม่แคร์เสียงด่าข้างนอก ลั่นแค่ของปลอม อ้างเหมือนเดิมประชาชนใช้ พร้อมทำงานต่อ
เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเดินทางไปเป็นประธานในพิธีส่งมอบอาคารบ้านเอื้ออาทรลาดกระบัง ต.หลวงแพ่ง แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง โดยมีประชาชนชุมชนบ้านเอื้ออาทรลาดกระบังกว่า 1,000 คน เอาดอกกุหลาบสีแดงมาให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และมีการกระโดดห้อมแก้มนายกรัฐมนตรี จนลิปสติกสีแดงติดอยู่ที่แก้มซ้าย ของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ใส่เสื้อคลุมสีแดงสด โดยกล่าวว่า วันนี้ตนใส่เสื้อแดงมาตั้งใจเป็นพิเศษ เพราะอยากแสดงความยินดีให้เป็นมงคลให้กับ ผู้ที่เข้าอยู่บ้านใหม่ ความจริงพรรคพวกซื้อมาฝากนานมากแล้ว ไม่มีโอกาสใช้สักที เพราะสีมันแรงมาก แต่วันนี้คิดว่าพี่น้องจะย้ายเข้ามาอยู่บ้านใหม่ มันเป็นมงคล และเป็นความรู้สึกเวลาที่ตนย้ายบ้านแต่ละครั้ง
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า ขอเล่าชีวิตของตนในการมีบ้านหรือการอยู่อาศัย เพื่อให้เป็นกำลังใจต่อท่านทั้งหลายที่พึ่งจะมีบ้านหลังแรกในวันนี้ ตนจำความได้ตอนเด็ก ๆ พ่อขายกาแฟอยู่ห้องแถวชั้นบน ไม่ได้กั้นเป็นห้อง อยู่มุมใครมุมมัน พ่อแม่มุมลูกมุม ต่อมาพ่อไปปลูกบ้านในสวน ขายร้านกาแฟ บ้านในสวนเป็นเรือนไม้มุงหลังคาสังกะสี มี 2 ห้องนอน มี 7 คน เวลาฝนตกจะได้ยินแต่เสียงฝนลงบนสังกะสี บางครั้งรั่วต้องเอาถังน้ำมารองบางทีตนอาจจะหูไม่ค่อยดีบ้าง เพราะบ้านนอกฝนตกบ่อย แต่วันนี้ตนนอนหลับสบาย ไม่ว่าเสียงจะดังอะไร เพราะมันชินมาตั้งแต่เด็ก หลังจากนั้นพ่อได้เข้าไปค้าขายในเมือง มีตึกแถวใหญ่หน่อย พอการค้าล้มเหลวก็ต้องกลับไปสร้างบ้านอยู่บ้านนอกหลังประมาณ 8 แสนบาท ตอนนั้นเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจแล้ว ตนมาอยู่ที่กรุงเทพฯได้อาศัยบ้านป้าอยู่ ห้องหนึ่งอยู่กัน 3-4 คน หลานทั้งนั้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พอเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจก็ไปอยู่หอพักที่สามพราน ตอนจบมาไม่มีที่อยู่ ตอนนั้นเป็นร้อยตำรวจตรีอยู่ตำรวจชายแดน เช่าห้องแถวอยู่ที่บางโพ เป็นห้องที่เขากั้นแบ่งให้อยู่ ห้องน้ำใช้ร่วมกัน เดือนละ 300 บาท ตอนนั้นปี 2516 พึ่งจบนักเรียนนายร้อย มีตู้เสื้อผ้าเข้าไปได้ 1 ตู้ มีเตียงเล็กๆนอนได้คนเดียว มีพระต้องเอาไว้หลังตู้เสื้อผ้า เพราะไม่มีที่กั้นหิ้งพระ อาบน้ำก็ต้องรอคิวกัน ตนเงินเดือน 1800 บาท ยศร้อยตำรวจตรี เดี๋ยวนี้ค่าเช่าห้องแพงขึ้น ตอนตนกลับจากอเมริกา จบปริญญาเอก มาแต่งงานมีลูกคนโตอายุ 5 เดือน ไม่มีบ้านอยู่ ต้องไปอาศัยบ้านพ่อตาอยู่ วันนั้นพยายามคิดอย่างยิ่งที่จะซื้อบ้าน พอจะหาเงินผ่อนแต่ไม่มีปัญญาหาเงินดาวน์ นี่คือความรู้สึกของคนมีรายได้น้อย สมัยนั้นดอกเบี้ยก็แพง
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนจบปริญญาเอกกลับมาจากอเมริกา คิดจะทำงานไซส์ไลน์ หรือทำงานโรงแรมเวลากลาคืน เพื่อให้มีเงินพอที่จะมีบ้านของตัวเอง ตอนรับราชการ นั่นคือความดิ้นรนที่ได้พยายามมา ในที่สุด ที่มีพื้นฐานของการที่ครอบครัวเป็นคนค้าขายก็เริ่มค้าขาย จึงได้มีวันนี้ ปัจจัย 4 ของคนเรา เป็นเรื่องสำคัญมาก บ้านคือความอบอุ่นของครอบครัว ภาษาบอกว่าเงินสามารถซื้อได้เพียงแค่ เฮ้าส์ ไม่ไช่ โฮม เฮ้าส์เป็นแค่บ้านหรือที่ซุกหัวนอนเท่านั้น แต่โฮม มันมีความอบอุ่นของครอบครัว ฉะนั้นการมีเฮ้าส์หรือบ้าน จะนำไปสู่การมีโฮมหรือครอบครัวที่อบอุ่นได้ ถ้าพ่อแม่ลูกได้กลับมาอยู่ด้วยกัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สังคมทุกสังคม องค์ทุกองค์กร ขับเคลื่อนด้วยมนุษย์เท่านั้น ไม่ได้ขับเคลื่อนในสิ่งที่มองไม่เห็น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่เราเคารพนับถือ ก็เป็นสิ่งที่พักทางใจ ให้เรามีกำลังใจ แต่คนทำงานคือมนุษย์ ถ้าสังคมไทยมีมนุษย์ที่มีแต่ความทุกข์ ไม่มีมนุษย์ที่มีความสุข และมีกำลังใจในการต่อสู้ชีวิต สังคมไทยจะเจริญเติบโตได้ยาก แต่ถ้ามนุษย์ในสังคมไทย มีความสุข ทำงานเหนื่อยไม่เป็นไร แต่กลับไปแล้ว มีบ้านที่เป็นวิมานของเรา มีความเป็นจริงแห่งชีวิต คือพ่อ แม่ ลูก นั่นคือของจริง สิ่งที่อยู่นอกบ้าน ที่ต่อสู้กันทั้งหลาย ที่ด่ากันไป ด่ากันมาทั้งหลาย ของปลอมทั้งนั้น ชีวิตมนุษย์คือที่บ้าน คือความอบอุ่นของพ่อแม่ลูก และกำลังใจที่พึงจะให้ต่อกัน ในการต่อสู้ชีวิต เพื่อความอยู่รอดของครอบครัวเป็นอันดับแรก เพื่ออนาคตของลูก คืออันดับต่อไป
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า รัฐบาลจึงตระหนักที่จะสานนโยบายต่างๆ ตนเป็นคนที่สู้ชีวิต จากไม่มีอะไร มาจนกระทั่งมีมากมาย ฉะนั้นตนจะรู้ว่าช่วงไหนของชีวิต มนุษย์คิดอย่างไร และช่วงไหนของชีวิต เราจะประคองอย่างไร ให้เขาพ้นจุดนี้ได้ นี่คือนโยบายของรัฐบาล พรรคไทยรักไทย วางมาแบบนี้ตลอด วางบนพื้นฐานแห่งความเข้าใจมนุษย์ แบบมนุษย์ ไม่ใช่เข้าใจมนุษย์แบบผู้มีอำนาจ ถ้าเราเข้าใจมนุษย์แบบมนุษย์ แต่เราใช้อำนาจมาเสริมให้ความเป็นมนุษย์เกิดขึ้นจริง นี่คือสิ่งที่คนไม่เข้าใจ นึกว่าตนเรียงลำดับอำนาจมาก่อน อำนาจเป็นตัวประกอบเพื่อให้ความเข้าใจของมนุษย์ สร้างให้มนุษย์ดีให้ได้
วันนี้ตนอยากเห็นคนไทยทุกคนมีปัจจัย 4 ครบ ปัจจัยแรกคือบ้าน นกกระจอกยังต้องมีรังหยิบหญ้าทีละชิ้นทักทอเป็นรังนก ด้วยความอุตสาหะ เพื่อให้ความอบอุ่นในการมีลูก คำว่าบ้านจึงเป็นปัจจัย 4 เบื้องต้น จากนั้นมีอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ซึ่งตนได้มีโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคให้ประชาชนแล้ว แต่เรื่องอาหารและเครื่องนุ่งห่มนั้นคือเศรษฐกิจ ใครกินดีอยู่ดี ได้มีงานทำ อันนั้นคือสิ่งที่ต้องทำให้เข้มแข็งต่อเนื่อง เพราะเศรษฐกิจมันมีวูบมีวาบ ถ้าจะวูบเราก็ต้องดันขึ้น ไม่ให้วูบ
อย่างที่ผมไปประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพราะผมรู้ว่าขณะนี้คนบางกลุ่มสนใจการเมืองมากกว่าสนใจชีวิตประชาชน เมื่อสนใจการเมืองมาก โอกาสที่จะกระทบเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นมีสูง ผมจึงต้องเรียกประชุมเพื่อเตรียมการไว้ว่าความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจต้องไม่ถูกกระทบในขณะที่คนกลุ่มหนึ่งกำลังสนใจเรื่องการเมือง แต่ไม่ได้หมายความว่าคนสนใจเรื่องการเมืองเป็นเรื่องผิด แต่มันเป็นสิ่งที่ต้องสร้างความสมดุลในสังคม การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมต้องไปด้วยกัน เสา 3 ต้นนี้ ต้องโตขึ้นพร้อมๆกัน ต้นไม้เศรษฐกิจ ต้นไม้การเมือง และต้นไม้สังคม ต้องโตไปด้วยกัน ถ้าเมื่อไรที่ต้นไม้ 3 ต้นนี้ โตไปไม่พร้อมกันเป็นปัญหาแน่ ฉะนั้นเราจะพยายามดึงให้ไปด้วยกัน การสร้างความสมดุลเป็นเรื่องสำคัญพ.ต.ท.ทักษิณกล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ตนเข้าใจจึงมาให้กำลังใจ เริ่มตั้งแต่ใส่เสื้อ เพื่อให้เป็นสิริมงคล เพราะจะได้รู้สึกว่านายกรัฐมนตรีตั้งใจมาอวยพรจริงๆ เพื่อให้ท่านได้ตั้งหลักชีวิตใหม่ วันที่ย้ายเข้าบ้านใหม่ คนที่มีความสุขมากที่สุดแต่ไม่พูด คือหัวหน้าครอบครัว คือพ่อ เพราะมีความรู้สึกว่าข้าได้พาครอบครัวเดินมาอีก 1 ขั้นตอนของชีวิต แต่ไม่พูดอยู่ในใจ แต่คนที่แสดงออกอย่างชัดเจนที่สุดคือลูก เพราะเหมือนรู้สึกอยู่ที่ใหม่ แล้วคนที่จะมีความสุขคือแม่ เพราะเห็นลูกมีความสุข ฉะนั้นตนจึงอยากเห็นทุกคนมีความสุข เพราะทำให้เรามีความสุขไปด้วย แต่ถ้าเห็นคนที่มีความทุกขเวทนา จะทำให้เราทุกข์ไปด้วย แต่ก็เต็มใจที่จะเห็นภาพเวทนาเพื่อช่วยและจะสุขใจที่เห็นภาพคนมีคนสุข และไม่หนีภาพเวทนา ไปอำเภออาจสามารถเห็นคนพิการ ยากจน โชคร้ายทั้งหลาย รู้สึกเวทนา แต่พอได้ช่วยแล้วก็มีความสุข
วันนี้หวังอย่างยิ่งว่าบ้านเอื้ออาทรแห่งนี้ จะอยู่บนครอบครัวที่มีความสุข เพราะความรักของพ่อแม่ลูกคือสิ่งพิเศษสุด การเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน ถือว่าวิเศษสุดอย่าไปหวังกำลังใจจากใคร ขอให้พ่อแม่ลูกให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ในยามที่พายุมากลมแรง กำลังใจที่ดีที่สุดคือกำลังใจในครอบครัว
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า มนุษย์ถ้าต้องทำงานแบบหุ่นยนต์ไร้จิตวิญญาณ ทำอย่างไรก็ได้ดียาก แต่เมื่อไรถ้ามนุษย์ขับเคลื่อนด้วยใจ เพราะเรามีพลังใจว่าเราจะต้องสร้างครอบครัวให้ลูก รักลูก รักเมีย ต้องช่วยกัน นี่คือสิ่งที่วิเศษสุด และขอขอบคุณที่มาให้กำลังใจตน นี่คือสิ่งที่วิเศษในวัฒนธรรมไทย อย่าให้มันจางหายไป เพราะการที่ชอบหรือไม่ชอบกัน แต่เราก็คือคนไทยด้วยกัน ไม่ว่าเราจะอยู่ในฐานะอะไร เราเป็นคนไทยด้วยกัน ต้องให้กำลังใจกัน เกื้อกูลกัน ปรองดองกัน ในที่สุดจะนำมาสู่ ประเทศไทยที่เข้มแข็ง ถ้าเราทะเลาะกัน ทำร้ายกัน พอเราอ่อนแอจะไปสู้กับใครเขาได้
อย่าลืมว่าเราต้องอยู่บนโลกแห่งการแข็งขัน ทั้งๆที่เราบอกว่า ผมยังไม่อยากแข่ง มันไม่ได้ กติกาเขาต้องแข่ง เป่านกหวีดปี๊ดต้องแข่ง จำเพลงเบิร์ดได้มั้ย อย่ายอมแพ้ ยังไม่ทันลงแข่งเลย แล้วคนที่รักจะไปรู้กันได้อย่างไร ว่าเราไม่แข่ง คนที่เชียร์จะรู้ได้ไง ฉะนั้นอย่าไปยอมแพ้ โดยยังไม่ทันลงแข่ง ประเทศไทยก็จะไม่ยอมแพ้ และพร้อมจะลงแข่ง ถ้าประเทศไทยพร้อมจะลงแข่ง คนไทยต้องรัก สามัคคีและปรองดองกัน ทุกครอบครัวต้องรักและปรองดองกัน เป็นกำลังให้กันและกัน 1 ครอบครัวเป็นกำลังใจให้กัน 1 ชุมชน เป็นกำลังให้กันและกัน 1 ประเทศเป็นกำลังใจให้กัน ประเทศจะเข้มแข็ง อย่าทำลายน้ำใจ ซึ่งกันและกัน รักกันไว้ เพลงดีๆ เก่าๆ มีเยอะ หลวงวิจิตรวาทการแต่งไว้หลายเพลง แต่วันนี้ลืมหมดพ.ต.ท.ทักษิณกล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ตนเป็นคนอาสามารับใช้ประชาชนตราบใดที่ประชาชนใช้ตน ตนก็ทำงาน ถ้าประชาชนไม่ใช้ ถือว่าเป็นกติกา อาสามาแล้วเขาไม่ใช้ ก็ไปทำอย่างอื่นซะ แต่ถ้าเขาใช้ต้องทำและทุ่มเทต่อ นั่นคือหลักทั่วไป มันคือแค่นี้ ฉะนั้นขอเรียนพี่น้องประชาชนว่าตนอาสาตราบใดที่ประชาชนอยากใช้ทำเต็มที่ ขอฝากการเคหะแห่งชาติความเป็นชุมชนต้องเกิด เพราะเรากำลังรวมคนที่มาจากหลากหลายที่ มาอยู่ตึก 1 ตึก ต้องสร้างความเป็นชุมชน ความเป็นปึกแผ่น มีความรักความสามัคคี มีจิตวิญญาณการอยู่ร่วมกัน อย่าให้แห้งเหมือนตึกแท่งๆ จะไม่มีความสุข ถ้าในตึกมรน้ำใจให้กัน ทักทายกัน เด็กๆมีที่วิ่งเล่นด้วยกัน โตขึ้นหน่อยเป็นเพื่อนกัน ถือเป็นสิ่งวิเศษสุด ดังนั้นต้องรีบสร้างความเป็นชุมชน
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวด้วยว่า ถ้าจำได้ว่าตนได้ส่งเสริมในเรื่องบ้านมือสอง ก็เพราะบ้านเก่าต้องขายต่อจึงมีโครงการระบบภาษีบ้านมือสอง สามารถขายได้ หักภาษีได้ ก็จะได้ไปซื้อบ้านใหม่ใหญ่ขึ้น ถ้าอยากจะอยู่บ้านหลังกว้างขึ้น ใหญ่ขึ้นมีเงินก็สามารถขายบ้านมั่นคง มาซื้อบ้านเอื้ออาทร ขายบ้านเอื้ออาทรซื้อทาวส์เฮ้าส์ ก็ต้องเป็นไปตามกำลังเศรษฐกิจ ตนจึงส่งเสริมโครงการบ้านมือ 2 เป็นพิเศษ จึงต้องให้กำลังใจมุ่งมั่นทำงาน ในอนาคตอาจจะเป็นแบบตน หรือใครๆ ก็ได้ แต่ต้องไม่ต้องบีบตัวเองมากนัก ทำอย่างเดียว ตื่นเช้ามามีกำลังใจ ทำในสิ่งที่ดีที่สุด แล้วจะประสบความสำเร็จตามจังหวะของชีวิต