เตือนนายกฯให้รอบคอบก่อนเดินหน้า JTEPA
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (23 ก.ย.) กลุ่มศึกษาเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA-Watch) นำโดย น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นายจักรชัย โฉมทองดี และนายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ แถลงข่าว เรื่อง JTEPA ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น: เมื่อนายกรัฐมนตรีละเมิดรัฐธรรมนูญ ประชาชนจะทำอะไรได้บ้าง โดยระบุว่า การที่รัฐบาลตัดสินใจเดินหน้าทำหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูตกับรัฐบาลญี่ปุ่นในวันที่ 2 ต.ค.2550 เพื่อให้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) มีผลบังคับใช้สมบูรณ์ในวันที่ 1 พ.ย.2550 โดยจะไม่นำความตกลงเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ถือได้ว่ารัฐบาลกำลังจะละเมิดรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มาตรา 190 วรรค 2 ที่กำหนดให้การทำหนังสือสัญญาที่มีผลผูกพันด้านการค้าการลงทุนหรืองบประมาณของประเทศ ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน น.ส.สารี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีอาจจะฟังความเห็นจากกฤษฎีกาว่า ไม่ต้องนำเรื่องเข้า สนช. แต่กระทรวงการต่างประเทศได้ทำหนังสือเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วว่า JTEPA น่าจะเข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาที่มีผลผูกพันด้านการค้าและการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ ตามมาตรา 190 ดังนั้นนายกรัฐมนตรีต้องใช้ความรอบคอบทบทวนเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน และนำเรื่องเข้า สนช.ตามขั้นตอน ไม่เช่นนั้นทางกลุ่มก็พร้อมดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
ด้าน นายบัณฑูร กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีประกาศพร้อมลาออกจากตำแหน่ง หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาที่จะตามมาใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นการกดดันศาลรัฐธรรมนูญ และเสมือนกับการเอาประเทศไทยเป็นตัวประกัน ยืนยันว่าการชะลอการเจรจาออกไปไม่กระทบภาคธุรกิจมาก แต่จะสร้างความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีความเป็นประชาธิปไตย