ปชป.จี้ รัฐบาล คตส. อัยการสูงสุด อย่านิ่งเฉยกับ เกม "ทักษิณ" ใช้สื่อนอก เขียนบทความโจมตีประเทศ ทั้งที่คดีคอรัปชั่นอยู่ในชั้นศาลแล้ว
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ดิ เอเชี่ยน วอลล์สตรีท เจอร์นัล ในวาระครบ 1 ปีรัฐประหาร มีหลายเรื่องที่บิดเบือนข้อเท็จจริง สร้างความเสียหายให้ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกรณีการอ้างว่า คดีคอรัปชั่นของตนเองไม่มีความผิด
ทั้งที่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า มีหลายคดีที่เข้าสู่การพิจารณาของศาลแล้ว และหลายคดีสรุปว่าผิดจริงในชั้นสอบสวน ไม่ว่าจะเป็นการสอบสวนของดีเอสไอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คตส. และ ป.ป.ช. และยังมีการคอรัปชั่นทางการเมืองในลักษณะคอรัปชั่นเชิงนโยบาย ใช้มติ ครม.เอื้อประโยชน์พวกพ้องปรากฏชัด เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ เอ็กซิมแบงก์ ที่ปล่อยกู้พม่า 4,000 ล้านบาท หรือคดียุบพรรค ที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า กกต.ชุดที่แล้วเป็นผู้ชี้มูลความผิดนำไปสู่การวินิจฉัยยุบพรรค
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า กรณีการโจมตีว่ารัฐบาลไทยสกัดกั้นสหภาพยุโรป (อียู) ไม่ให้มาสังเกตการณ์การเลือกตั้งจะสร้างความเสียหายให้ภาพลักษณ์ของประเทศ ทั้งที่ข้อเท็จจริงประเทศไทยสนับสนุนองค์กรเอกชนทั้งในและนอกประเทศในการสังเกตการณ์การเลือกตั้งภายใต้กฎหมายไทยและการดูแลของ กกต. แต่ไม่ประสงค์จะถูกบังคับให้ทำบันทึกข้อตกลง อันจะมีสภาพเป็นสัญญาระหว่างประเทศ
“จากข้อบิดเบือนดังกล่าว เห็นว่ารัฐบาลและองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องทั้ง ป.ป.ช. สตง. กกต. ตุลาการรัฐธรรมนูญ คตส. อัยการสูงสุด ไม่ควรนิ่งเฉยเพราะจะทำให้ประเทศเสียภาพลักษณ์ โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศกำลังจะกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย และขอให้เร่งเสนอข้อเท็จจริงชี้แจงต่อสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เพราะมีข้อเท็จจริงที่โต้แย้งได้ชัดเจน” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ด้าน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ขึ้นอยู่กับประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจว่า จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมามีอำนาจอีกครั้งหรือไม่ หากคดีความต่างๆ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วและมีการตัดสินว่าไม่มีความผิด เช่นเดียวกันกับบทบาทของกองทัพ ที่ไม่ควรเกี่ยวข้องกับการเมือง ส่วนนักการเมืองนั้น เมื่อรวมกลุ่มกับขั้วทางการเมืองกันแล้ว ไม่ควรจะแตกแยกออกจากกัน ควรอยู่ด้วยกันอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า จะรับคำฟังวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะจาก นายธีรยุทธ บุญมี เพราะเป็นอีกแง่มุมหนึ่ง ซึ่งไม่รู้สึกโกรธหรือคิดตอบโต้ใดๆ เพราะคำติเตียนนั้นสามารถนำไปสู่การปรับปรุงให้ดีขึ้นได้