ตนสนับสนุนพล.อ.สนธิขึ้นเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เพราะตำแหน่งรัฐมนตรียังว่างอยู่อีก 1 ตำแหน่ง แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับนายกรัฐมนตรี ว่าจะปรับคณะรัฐมนตรี หรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน อย่างไรก็ตาม การเสนอตั้งพล.อ.สนธิเป็นรองนายกฯ คงไม่ถูกวิจารณ์ว่าไม่ปล่อยวางอำนาจ เนื่องจากที่ผ่านมาพล.อ.สนธิก็ดูแลงานด้านความมั่นคง และเข้าร่วมประชุมกับนายกฯอยู่แล้ว ขณะนั้นจะแต่งตั้งพล.อ.สนธิเป็นรองนายกฯก็ได้ เพราะรัฐธรรมนูญชั่วคราวเปิดช่องให้ แต่พล.อ.สนธิไม่ขอรับตำแหน่ง ดังนั้นเมื่อหลังเกษียณจึงมีโอกาสเป็นไปได้มากทีเดียว
ต่อข้อถามว่า การแต่งตั้ง พล.อ.อนุพงศ์ เป็นผบ.ทบ. ถือเป็นการปูนบำเหน็จที่ร่วมปฏิวัติหรือไม่ พล.อ. บุญรอด กล่าวว่า
การปูนบำเหน็จได้กระทำมาตั้งแต่การโยกย้ายหลังปฏิวัติใหม่ๆ ที่ได้ตั้งพล.อ.อนุพงศ์ เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก พร้อมพล.อ.สพรั่ง แต่ครั้งนี้เป็นการปรับให้สูงขึ้นอีก ซึ่งคนที่จะเป็นผบ.ทบ.ต้องเป็นคนที่เหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน คนที่ขึ้นมาในตอนนี้ต้องทำให้ทหารเป็นปึกแผ่น เป็นหลักประกันให้ประเทศได้ และทำให้สังคมยอมรับ