จาตุรนต์เยาะครบ1ปี ให้คะแนนรัฐบาลไม่ถูก

หลังรัฐประหารเรื่องอนาคตการเมืองไทย:วิกฤตที่รออยู่ โดยมีนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เป็นผู้ปาฐกถาว่า ที่ผ่านมามีความพยายามทำให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังก้าวพ้นวิกฤต แต่จริงแล้วประเทศไทยกำลังเจอวิกฤตการเมืองหนักหน่วงกว่าเดิม ตนไม่สามารถให้คะแนนการบริหารประเทศของรัฐบาลได้ เพราะการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมาเหมือนเป็นการส่งกระดาษเปล่าในการสอบ ไม่มีผลงานอะไรเลย ซึ่งปัญหาหลักก็อยู่ที่ตัวของรัฐบาลเองคือมีที่มาไม่ชอบ ไม่ได้รับการยอมรับโดยเฉพาะจากต่างชาติ ส่วน คมช.ก็เห็นชัดแล้วว่าข้ออ้าง 4 ข้อในการยึดอำนาจล้มเหลวหมด การตั้งชื่อทั้ง คปค.และคมช. ที่ประกาศว่าจะเข้ามาปฏิรูปการเมือง สะท้อนว่าเป็นการตั้งชื่อให้โก้ๆ เท่านั้น

1.ทำประชาธิปไตยถอยหลังไปถึง 10 ปี 2.ทำเศรษฐกิจประเทศเสียหายยับเยิน 3. ตั้งรัฐบาลที่ไม่มีประสิทธิภาพ 4.ยึดอำนาจประชาชนแล้วคืนมให้บางส่วน 5. ทำลายความเป็นนิติรัฐ นิตธรรม 6.ส่งเสริมระบอบอมตายาธิปไตย 7.ทำให้ระบบการการเมืองระบบรัฐสภาอ่อนแอ 8. ทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ ประชาชนเสียโอกาสที่จะเลือกพรรคด้วยนโยบาย 9.คมช.ประสบความสำเร็จอย่างมากในการทำลายล้างกลุ่มคนบางกลุ่ม กรณีล่าสุดก็มีความพยายามผลักดันให้เกิดการรวมขั้วการเมือง และกำหนดพรรค รัฐบาลล่วงหน้า  นอกจากนี้การแต่งตั้งผบ.ทบ. แทนที่จะลือกคุณสมบัติของผู้จะมาเป็นผบ.ทบ. ต้องเป็นผู้บริหารกองทัพได้ดี กลับกำหนดประเด็นสำคัญว่าผบ.ทบ.คนใหม่ จะต้องเป็นผู้ที่มีผลงานจัดการกับอำนาจเก่าได้ดี จัดการการเมืองให้นิ่งได้ ซึ่งถือเป็นการทำลายเกียรติภูมิกองทัพ อีกทั้งขณะนี้มีการประโคมข่าวว่าการเลือกตั้งเป็นเต็มไปด้วยการซื้อเสียง สร้างภาพในนักการเมืองเลวร้าย ทั้งที่สิ่งที่เกิดขึ้นกับนักการเมืองเป็นผลพวงมาจากการใช้อำนาจเผด็จการ เหมือนกับสร้างความชอบธรรมในการยึดอำนาจอีกครั้ง หากพรรคที่กลุ่มพันธมิตรฯและคมช. ไม่ชอบ ได้รับเลือกเป็นเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล
  
นายจาตุรนต์ กล่าวเสนอทางออกสำหรับแก้ปัญหาระยะสั้นว่า 

คมช.และรัฐบาลควรจะเลิกสกัดกั้นพรรคการเมืองบางพรรคหรือเข้าไปอยู่เบื้องหลังการจัดการทางการเมืองของบางพรรค เลิกปิดกั้นการนำเสนอข่าวของบาพรรค ขณะที่พรรคการเมืองบางพรรคก็ไม่ควรเสนอแนวคิดแค้นต้องชำระ รวมทั้งขอให้ กกต.และข้าราชการมีความเป็นกลางมากขึ้นกว่าการลงประชามติ นอกจากนี้ คมช.รัฐบาลควรเปิดโอกาสให้ต่างชาติและตัวแทนพรรคการเมือง เข้าร่วมสังเกตการณ์เลือกตั้งเพื่อเป็นการรองรับผลการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นอีกทาง และตนเสนอว่าควรจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งใหญ่ ตามที่รัฐบาลและ คมช.เคยประกาศไว้ นอกจากนี้เมื่อมีรัฐธรรมนูญใหม่ก็ควรมีองค์กรอิสระที่ตรวจสอบการทุจริตขึ้นมาใหม่ เพราะที่ผ่านมาองค์กรเหล่านี้ตั้งขึ้นมาจาก คมช.และเพื่อจะจัดการกลุ่มอำนาจเก่าเพียงกลุ่มเดียว จะปล่อยให้ทำหน้าที่จนครบเทอมไม่ได้