กกต.อ้างกม.บังหน้าชี้เลือกตั้งซ่อมไม่ถึง20%จัดใหม่อีกรอบได้
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 16 เมษายน 2549 16:06 น.
ปริญญา นาคฉัตรีย์ ตีความกฎหมาย หากผลคะแนนเลือกตั้งรอบใหม่ไม่ถึงร้อยละ 20 สามารถจัดเลือกตั้งได้อีกรอบ สั่งสอบผู้สัมครส.ว.อยู่ใต้อานัติพรรคการเมือง ยันไม่กลั่นแกล้งทำทุกอย่างตามหลักฐานที่มี ครวญทำก็ด่าไม่ทำก็ถูกด่าเหมือนเดิม ตอก บรรหารขู่ยุบกกต.ทิ้ง อ้างก.มหาดไทยเท่านั้นที่สั่งได้ ไม่ใช่ใครคนใดจะตัดสินใจ
วันนี้(16 เม.ย.) นายปริญญา นาคฉัตรีย์ กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงการจัดการเลือกตั้งส.ส.ใหม่ในวันที่ 23 เมษายนนี้ซึ่งพรรคฝ่ายค้านระบุว่าอาจะมีบางเขตที่มีผู้สมัครคนเดียวอาจจะได้คะแนนไม่ถึงร้อยละ 20 ตามที่กฎหมายกำหนดว่า ต้องรอผลเลือกตั้งออกมาก่อน หากมีบางเขตที่มีคะแนนไม่ถึงเกณฑ์จริง กกต.คงต้องมาพิจารณากันว่าจะดำเนินการกันอย่างไร จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ เพราะถือว่ากกต.ยังมีเวลาดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดไปถึงวันที่ 1 พฤษภาคม สำหรับการเลือกตั้งที่จ.สมุทรสาคร เขต 3 ที่บัตรเลือกตั้งกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิไม่ตรงกันนั้น ขณะนี้กำลังมีการสอบสวนข้อเท็จจริงกันอยู่ หากพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย และหากมีหลักฐานโยงไปถึงผู้สมัครก็ต้องรับโทษด้วยเช่นกัน
นายปริญญา กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยการจัดเลือกตั้งล่วงหน้าของส.ว. และการหาเสียงเลือกตั้งส.ส.ว่า เรียบร้อยดี ไม่มีปัญหา เพียงแต่ในส่วนของการเลือกตั้งส.ว.นั้นมีความพยายามที่จะดึงพรรคการเมืองให้เข้ามามีส่วนร่วม หรือออกหน้าในการแนะนำตัวเพื่อหวังคะแนน ซึ่ง กกต.ท้องถิ่นได้ดำเนินการเก็บข้อมูลและพฤติกรรมเหล่านั้นเพื่อมาประกอบการพิจารณาวินิจฉัยแล้ว อย่างไรก็ตาม กกต.ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ส.ส.หรือพรรคการเมืองจะถูกผู้สมัครดึงเข้าไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้
กกต.ต้องสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อนถึงจะตัดสินใจได้ ผมยอมรับว่าเป็นกกต.ลำบากเหมือนกัน เพราะเราต้องสอบเรื่องร้องเรียนทุกเรื่อง หากเรื่องใดมีหลักฐานอ่อน เราก็สั่งลงโทษไม่ได้ ซึ่งทำให้คนที่ไม่พอใจออกมาต่อว่า แต่ก็ไม่รู้จะให้กกต.ทำอย่างไร เพราะการสั่งลงโทษต้องยึดหลักฐานเป็นหลัก สรุปว่าเอาผิดก็ถูกด่า ไม่เอาผิดก็ถูกด่าเหมือนเดิม แต่ยืนยันได้กกต.ไม่ได้ทำไปเพื่อกลั่นแกล้งใครนายปริญญา กล่าวและว่า สำหรับรายงานข่าวที่ว่าอาจจะมีผู้สมัครส.ว.ตกอยู่ใต้อานัติของพรรคไทยรักไทย จำนวน 140 คนนั้น ความจริงอาจจะมีมากกว่านั้นก็ได้ ขณะนี้กกต.กำลังตรวจสอบอยู่
ผู้สี่อข่าวถามถึงกรณีนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เรียกร้องให้มีการยุบกกต. นายปริญญา กล่าวว่า หากจะยุบกกต.ได้ และหากยุบจริงก็ต้องให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งแทน ไม่ใช่ว่ายุบ กกต.เพื่อไปสร้างองค์กรใหม่ขึ้นมา เพราะปัญหาก็จะเกิดขึ้นมาเหมือนเดิม ขอยืนยันว่าการดำเนินการของกกต.ทำตามกฎหมาย ไม่ได้ใช้อำนาจเกินขอบเขตของกฎหมายที่ให้อำนาจไว้เลย
ด้านนายชัยณรงค์ เทียนมงคล ผอ.กต. กทม. กล่าวถึงกรณีการติดป้ายแนะนำตัวของผู้สมัครส.ว.ริมถนนจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตว่า เรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องไปสืบสวนหาผู้กระทำผิด และตนขอให้ผู้สมัครส.ว.ทุกคนได้กำชับทีมงานได้ระมัดระวังในการติดป้ายแนะนำตัวริมถนน เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย รวมถึงผู้สมัครก็รู้ข้อกฎหมายและวิธีแนะนำตัวว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
ดังนั้นขอให้กำชับทีมงานด้วย หากผิดพลาดขึ้นมาไปหาเสียงอาจจะถูกตัดสิทธิได้ใบเหลืองใบแดงได้หากได้รับเลือกตั้งเป็นส.ว. ทั้งนี้ ผู้สมัครควรใช้ดุลยพินิจในการพิจารณาที่จะปิดแผ่นป้าย โดยเฉพาะเกาะกลางถนน และสะพานลอย กทม.ห้ามไว้เด็ดขาดว่าไม่ให้ติด อย่างไรก็ตาม ไม่อยากวิจารณ์ที่ผู้บริหารกทม.ได้ยกเลิกประกาศห้ามปิดป้ายแนะนำตัวตามเสาไฟฟ้าและริมถนน
นายสุวิทย์ ญาตินิยม ผอ.กต.บุรีรัมย์ ให้สัมภาษณ์กรณีเกิดเหตุการณ์อุ้มผู้ใหญ่บ้านที่ให้การสนับสนุนผู้สมัครส.ว.รายหนึ่งไปทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสว่า เบื้องต้นตนได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่ให้ไปหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว และประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนำข้อมูลการสืบสวนสอบสวน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา หากมีการยื่นร้องเรียนเข้ามายังกกต. แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับว่าเจ้าทุกข์จะให้ข้อมูลไปในทิศทางใด เบื้องต้นสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นแค่การทำร้ายร่างกายก็ได้ ตนไม่รู้จักผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว แต่สื่อมวลชนอาจจะรู้จักและนำไปโยงกับผู้สมัครส.ว.
อย่างไรก็ตาม หากเป็นการกระทำโดยบุคคลใดก็เป็นความผิดทางอาญา โดยอำนาจของกกต.จะพิจารณาเฉพาะในประเด็นว่าเป็นการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 44 ซึ่งเกี่ยวกับการข่มขู่คุกคาม หากนำสืบได้ว่าผู้สมัครส.ว.รู้เห็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะถูกเพิกถอนสิทธิ หากได้รับเลือกตั้งจะต้องถูกใบแดง แต่ถ้าเป็นการกระทำของทีมงานหรือคนสนิทใกล้ชิดซึ่งเจ้าตัวไม่รู้เห็นด้วย ก็อาจจะโดนแค่ใบเหลือง แต่ทั้งนี้ จะมีการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาประกอบกับเรื่องร้องเรียนและส่งให้กกต.จังหวัดพิจารณาต่อไป