ออกโรงโต้ ธีรยุทธ ยันรบ.จริงจัง ปราบคอร์รัปชั่น

การประเมินต้องดู 2 ส่วนคือ ข้อเท็จจริงและความรู้สึก

วันนี้ (18 ก.ย.) นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายธีรยุทธ บุญมี อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้คะแนนรัฐบาลสอบตกในการบริหารงานครบ 1 ปี ว่า ในการประเมินต้องดู 2 ส่วนคือ ข้อเท็จจริงและความรู้สึก ซึ่งในเรื่องความรู้สึกนั้น ยอมรับว่า หลายเรื่องยังไม่เห็นผลในรัฐบาลชุดนี้ เพราะรัฐบาลมีวาระอยู่ประมาณหนึ่งปีเศษ ไม่ใช่รัฐบาลไม่มีวิสัยทัศน์ แต่ผลงานบางเรื่องต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปี


ส่วนที่ระบุรัฐบาลไม่จริงจังในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า

เรื่องนี้ต้องดูข้อเท็จจริง เพราะรัฐบาลออกกฎหมายหลายฉบับเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต อาทิ ร่างกฎหมายป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน ร่างกฎหมายแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและออกกฎหมายใหม่ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น

“เรื่องการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นต้องให้อาจารย์ธีรยุทธ ยกตัวอย่างมาว่ามีอะไรบ้าง เพราะรัฐบาลดำเนินการปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง โดยยึดหลักกฎหมายและหลักนิติธรรม เรื่องนี้อาจจะดูพื้น ๆ แต่สังคมไทยขาดเรื่องการยึดหลักกฎหมายและหลักนิติธรรม ก็ไม่รู้ว่า อาจารย์ธีรยุทธจะให้คะแนนเรื่องนี้เพิ่มหรือไม่ และเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาล 3-4 เดือนจะให้รัฐบาลสอบซ่อมได้หรือไม่” นายธีรภัทร์ กล่าว


ด้านนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า


นายธีรยุทธ เป็นนักวิเคราะห์ รัฐบาลควรรับฟังไว้ แต่รัฐบาลนี้ทำสิ่งหนึ่งคือการให้เสรีภาพในการพูดและเขียน ซึ่งเดิมในอดีตมีน้อยมาก นี่คือผลงานของรัฐบาลอย่างหนึ่ง คือ การให้เสรีภาพ และยินดีรับฟังความคิดเห็นทุกฝ่าย


“อาจารย์ธีรยุทธน่าจะพอใจข้อดี รัฐบาลนี้จะไม่ไปดูถูกดูหมิ่นอาจารย์ธีรยุทธ แต่จะรับฟังด้วยความเคารพ ยืนยันว่ารัฐบาลได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว อย่างน้อยก็ไม่ทำการทุจริต นั่นคือผลงานอีกอย่างหนึ่งของรัฐบาล” นายไพบูลย์ กล่าว


นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า การวิเคราะห์ทุกสถานการณ์ จะมีทั้งส่วนดี และส่วนที่เป็นจุดอ่อน ถ้าหยิบเฉพาะจุดอ่อน ก็จะวิจารณ์ได้ทุกเรื่อง

ส่วนตัวคิดว่า ขณะนี้เป็นสังคมสร้างสรรค์ ควรพยายามค้นหาจุดแข็ง ค้นหาข้อดี เอามาส่งเสริมให้ข้อดีนั้นเป็นที่รับรู้ และช่วยกันทำให้ดีมากขึ้น ถ้าทำในสิ่งดีมากขึ้น สิ่งที่ไม่ดีก็จะลดลง รัฐบาลคิดว่าได้ทำงานอย่างเต็มที่ เรื่องปัญหาที่สะสมมานาน ก็พยายามจะแก้ไข รวมถึงพยายามจะทำเรื่องสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่
 

“ต้องยอมรับว่า การแก้ไขปัญหาที่สะสมมา ต้องใช้พลังไม่ใช่น้อย ใช้ต้นทุน ใช้งบประมาณ หลายเรื่องรัฐบาลได้แก้ไขปัญหาไปได้เป็นที่น่าพอใจ ทำให้เกิดการพัฒนา แต่การดำเนินการ คนอาจมองเห็นได้ยาก ซึ่งจะเห็นผลอย่างยั่งยืน ก็คงเป็นอนาคต” นายไพบูลย์ กล่าว


นายไพบูลย์ กล่าวถึงการทำงานของรัฐบาล ว่า ต้องการให้ผู้วิเคราะห์ดูเป็นรายกระทรวง ค้นหาสิ่งที่ดี

ซึ่งมีอยู่ทุกกระทรวง และดูว่าตรงไหนเป็นจุดอ่อนก็มาแก้ไข ถ้าวิเคราะห์แบบนี้จะเกิดประโยชน์ และยืนยันว่ารัฐบาลนี้ทำงานดีกว่ารัฐบาลที่ผ่าน ๆ มา โดยเฉพาะข้อดีต่าง ๆ แต่ยอมรับว่าอาจจะมีบางส่วนที่ยังไม่ดีนัก ดังนั้น การวิเคราะห์ หากวิเคราะห์ในจุดอ่อนก็จะเห็นปัญหา


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์