นายสมัคร สุนทรเวช ฟ้องหมิ่นประมาท นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ เรียกค่าเสียหาย 150 ล้านบาท
นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าววันนี้ (16 ก.ย.) ถึงกรณีที่ถูกนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ฟ้องหมิ่นประมาท กรณีกล่าวหาพัวพันทุจริตรถดับเพลิงเรียกค่าเสียหาย 150 ล้านบาท ว่า ไม่เป็นไร ถือเป็นการใช้สิทธิของนายสมัครตามกระบวนการยุติธรรม และขึ้นอยู่กับศาลจะพิจารณา สำหรับกรณีที่มีหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า อายุรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้งจะอยู่ได้แค่ 1-1 ปีครึ่งเท่านั้น ถือเป็นการวิเคราะห์เร็วเกินไป เพราะกว่าการรวมตัวกันของกลุ่มการเมืองจะลงตัว คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง จึงจะเห็นภาพพรรคการเมืองที่ชัดเจนขึ้น และหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นถึงจะวิเคราะห์ได้ว่า ภาพรัฐบาลจะเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า ทาง พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า หากภาพการเมืองยังมีลักษณะการแบ่งขั้วเช่นนี้ อาจจะเกิดการปฏิวัติเกิดขึ้นอีก
นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ถือเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของ พล.อ.บุญรอด แต่ส่วนตัวเห็นว่า การรวมกลุ่มการเมืองเข้าด้วยกัน ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา คล้าย ๆ กันในหลายประเทศ เพียงแต่ถ้าเป็นการรวมกลุ่มกันมากไปอาจจะเป็นพรรคโตเดี่ยวคล้ายกับประเทศญี่ปุ่นหรือมาเลเซีย ซึ่งอาจไม่เหมาะสม เพราะเป็นการผูกขาดทางการเมืองได้ สำหรับประเทศไทยน่าจะเป็นระบบหลายพรรคเหมือนกับในเยอรมนี คือได้รัฐบาลผสม 2-3 พรรค และพรรคใหญ่เป็นฝ่ายค้านอีก 2-3 พรรค ก็น่าเป็นพัฒนาการที่ดี แต่ต้องรอดูหลังการเลือกตั้งว่าจะออกมาในรูปแบบใด และสิ่งสำคัญอยู่ที่นักการเมืองหรือพรรคการเมืองต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติไปสู่วัฒนธรรมการเมืองที่ดีงามตามระบอบประชาธิปไตย
“ถ้านักการเมืองยังไม่เปลี่ยนแปลง ยังไปสู่ยุคเดิมที่แก่งแย่งผลประโยชน์ แย่งตำแหน่งหน้าที่กันโดยมิบังควร ไม่ได้คำนึงถึงประเทศชาติ ก็จะเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยแบบที่ผ่าน ๆ มาได้” นายธีรภัทร์ กล่าว