มีชัยดัดหลังกกต.อืดหนุนประกาศผลเลือกตั้งภายใน7วัน

ประธานสนช. เสนอแก้ไขให้กกต.เร่งประกาศผลเลือกตั้งใน 7 วัน

จวกกกต.ชอบปล่อยผีส.ส.เข้าไปเลือกนายกฯก่อนแล้วสอยทีหลัง ด้าน “บวรศักดิ์”ติงอย่ากำหนดโทษแบบมีอคติ (8กย.) การประชุมคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) นอกสถานที่เป็นวันที่ 2





โดยคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.

และการ ได้มาซึ่งส.ว. ที่มีนายยุวรัตน์ กมลเวชช เป็นประธาน ได้พิจารณาทบทวนในประเด็นสำคัญ โดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ได้เข้าร่วมประชุมและเสนอแก้ไขเปลี่ยนแปลงในหลายมาตรา คือ มาตรา 8 เปลี่ยนระยะเวลาการประกาศผลการเลือกตั้งของคณะกรรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)

จากเดิมให้ประกาศผลเลือกตั้งภายใน 30 วัน เป็นภายใน 7 วัน ยกเว้นกรณีมีเหตุอันสงสัยว่ามีการทุจริตแต่ต้องสอบสวนและวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันเลือกตั้ง ซึ่งให้เหตุผลว่าการกำหนดดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการบังคับให้กกต.ต้องประกาศรับรองผลเลือกตั้ง โดยยึดเงื่อนไขของการเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อให้ส.ส.เลือกนายกรัฐมนตรี

เพราะไม่ใช่หน้าที่ กกต.ที่มีหน้าที่เพียงจัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม
 

" รัฐธรรมนูญกำหนดให้ใช้หลักอันควรเชื่อได้ว่า แต่ที่ผ่านมากกต.กลับทำตัวเป็นพนักงานสอบสวน จึงใช้เวลาวินิจฉัยนาน ดังนั้นกกต.ต้องวินิจฉัยตั้งแต่แรกไม่ใช่ปล่อยผีให้เข้าไปเป็นส.ส.ก่อน จนมีการเลือกนายกรัฐมนตรีแล้วมาสอยที่หลัง เพราะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ไปแล้วซึ่งคนเขียนรัฐธรรมนูญไม่ได้นึกถึงประเด็นนี้จึงไม่ได้เขียนไว้ ความจริงต้องเขียนว่าให้เรียกประชุมภายใน 30 วันนับแต่การเลือกตั้งเสร็จสิ้น" นายมีชัย กล่าว


ขณะที่มาตรา 87 เกี่ยวกับผลคะแนนโนโหวตนั้น นายมีชัยเสนอว่า หากในเขตเลือกตั้งนั้นมีพรรคการเมืองส่งผู้สมัครเพียงพรรคเดียวหากผู้สมัครเหล่านั้นได้รับคะแนนน้อยกว่าคะแนนโนโหวตร้อยละ 20 ถึง 2 ครั้ง ให้พรรคการเมืองนั้นต้องเปลี่ยนตัวผู้สมัครใหม่ เพราะถือว่าประชาชนในพื้นที่ไม่ให้การยอมรับในตัวผู้สมัครคนนั้นแล้ว และให้กกต.ประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่และดำเนินเลือกตั้งต่อไปจนกว่าจะมีผู้ได้รับเลือกตั้ง


อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดนายมีชัยได้ขอถอนข้อเสนอดังกล่าว

เนื่องจากมีผู้ท้วงติงว่าการตัดสิทธิผู้สมัคร ที่แพ้โนโหวต 2 ครั้งออกไปอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญได้ นอกจากนี้ยังได้เสนอเพิ่มเติมวรรคสองของมาตรา 55 โดยห้ามมิให้ผู้ใดหรือพรรคการเมืองใดส่งผู้สมัครเข้ารับเลือกตั้งเพื่อผลประโยชน์แก่ผู้อื่นหรือพรรคการเมืองอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงหลักเกณฑ์ตามมาตรา 87 ซึ่งที่ต้องกำหนดไว้อย่างนี้เพราะของเดิมไม่มี จึงต้องกำหนดเอาไว้ให้ชัดเจนเพื่อเป็นหลักการให้ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยต่อไป


ขณะที่คณะอนุกรรมาธิการพิจารรณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาในมาตรา 104 เกี่ยวกับหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค ประธานสาขาพรรคและเหรัญญิกสาขาพรรค ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินหรือแจ้งเท็จ มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งที่ประชุมได้มีความแตกต่างกันในที่สุดจึงขอให้แขวนไว้รอให้ที่ประชุมใหญ่ตัดสิน


ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างการพิจารณา นายบวรศักดิ์ ได้แจ้งเป็นระยะต่อที่ ประชุมว่าหากกำหนดบทลงโทษที่สุดขั้วจนดูเหมือนผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ได้รับความยุติธรรม อาจทำให้บ้านเมืองวุ่นวายขึ้นมาอีกครั้ง


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์