นายกฯยันให้อียูสังเกตเลือกตั้ง โยนกกต.เป็นผู้ชี้ขาดเงื่อนไข

แต่รายละเอียดข้อตกลงต่างๆเป็นเรื่องกกต.จะพิจารณา ย้ำรัฐบาลต้องการให้มีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม เพื่อพูดได้เต็มปากว่ามีรัฐบาลที่มาจากประชาชน ไม่ใช่จากอำนาจอื่น (8กย.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ยังคงยืนยันในรายการ“เปิดบ้านพิษณุโลก”วันนี้ ว่า ถึงเวลานี้ การเลือกตั้งจะเป็นวันที่ 23 ธันวาคม ตามที่กำหนดไว้ และรัฐบาลมีความเห็นสอดคล้องกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คือ ต้องการจัดให้มีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนต้องการเห็น เพื่อจะได้พูดอย่างเต็มใจว่า เรามีรัฐบาลที่มาจากประชาชนจริง ๆ ไม่ใช่มาด้วยพลังอย่างอื่น ส่วนที่สหภาพยุโรป (อียู) ต้องการเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โดยหลักการเราเห็นด้วย แต่เรื่องการทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เป็นเรื่องที่ กกต.จะพิจารณา
 

“นี่เป็นเรื่องที่อยากจะทำ ดังนั้น ถ้าจะมีผู้ที่จะมาช่วยสังเกตการณ์ เราก็ยินดี อยากจะให้มาช่วยกัน จะได้ช่วยกันตรวจสอบ ช่วยกันดูว่า การจัดการเลือกตั้งเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ ผู้ที่มาลงคะแนนเสียงมีการตุกติก หรือมีอะไรหรือไม่ ขั้นตอนต่าง ๆ ถูกต้องหรือไม่ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่อยากจะให้ได้มีผู้มาช่วยกันดูให้มากที่สุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาล นอกจากจะดูแลเรื่องการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรมแล้ว ยังสนใจเรื่องปัญหาของเกษตรกร และจะทุ่มเทกับปัญหาสถานการณ์ทางภาคใต้ ลงไปพบปะทำความเข้าใจกับประชาชน แต่ไม่กล้าที่จะรับรองว่าสถานการณ์จะคลี่คลายได้มากน้อยแค่ไหน
 

“ผมยังไม่กล้าที่จะรับรองในส่วนนี้ คงจะต้องพยายามกันต่อไปอีก ที่จะทำให้ความรุนแรงลดระดับลงให้ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อีกเรื่องที่ให้ความสำคัญคือ การเตรียมจัดงานในปีมหามงคล

เพื่อดำเนินการต่าง ๆ ให้เรียบร้อย สมพระเกียรติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สำหรับปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ที่ในต่างประเทศสามารถนำคนระดับนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี มาลงโทษอย่างชัด หากกระทำความผิด แต่ในประเทศไทยยังไม่ชัดเจน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และหน่วยงานของรัฐ กำลังดำเนินการตรวจสอบ และดำเนินคดีอยู่ ซึ่งจะมีผลออกมาในระยะเวลาสั้นๆ ข้างหน้านี้ คิดว่าน่าจะไปสู่ขั้นของการพิจารณาของศาลยุติธรรมได้ในหลายเรื่อง ๆ และสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวอย่างที่ดี

“เมื่อเราอาศัยหลักนิติธรรม ก็จำเป็นต้องมีหลักฐาน จึงต้องมีการรวบรวมหลักฐานก่อน แต่ผมพูดหลายครั้งแล้วว่า ถ้าหัวไม่ส่าย หางไม่กระดิก ทีนี้ถ้าหัวส่ายเมื่อไร ก็ไปกันทั้งขบวน นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่อยากจะบอกว่า บ้านเรา ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นหัว จะต้องมีคุณธรรม จะต้องเป็นผู้ที่บริหารงานโดยหลักของธรรมาภิบาล ถ้าเราไม่มีตรงนี้ ก็ต้องไปแน่ ๆ นั่นเป็นส่วนที่อยากจะฝากไว้ด้วยว่า เราคงจะต้องช่วยกัน หาผู้ที่มาบริหารบ้านเมืองของเรา ที่อาศัยหลักของธรรมาภิบาล” นายกรัฐมนตรี กล่าว.

ด้านนายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์เช้าวันนี้ (8กย.) ก่อนการเดินทางลงพื้นที่ จ.นราธิวาส

ในกรณีที่ นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีสหรัฐ ปราศรัยต่อที่ประชุมสภานักธุรกิจเอเปก ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ครั้งที่ 15 คาดหวังว่าจะได้เห็นการเลือกตั้งที่เสรี และมีความเป็นธรรมเกิดขึ้นในประเทศไทย ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่เรื่องการเลือกตั้ง รัฐบาลต้องดำเนินการอยู่แล้ว เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะส่งผลดีต่อสายตาของต่างประเทศ เพราะเราไม่ได้ปฏิเสธการเลือกตั้ง เราต้องการถอนตัวให้เร็วจะตายอยู่แล้ว