สนธิพูดชัด ให้ปชช.ตัดสิน นิรโทษ111

หลังจากที่หัวหน้าพรรคพลังประชาชนได้ออกมาประกาศว่า


ถ้าได้เป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะเสนอแก้กฎหมายนิรโทษกรรมให้กับ 111 คนอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น เรื่องนี้ทั้ง คมช.และ คตส.ต่างระบุว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนจะตัดสินใจ เพราะประชาชนเป็นผู้เลือก ส.ส.และรัฐบาล 

คมช.ไม่หวั่น “สมัคร” ขู่ตลบหลัง

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. เวลา 10.30 น. ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ระบุเป็นรัฐบาลจะยุบ คตส. และยกเลิกมติ ครม. ว่า เป็นกุศโลบายทางการเมืองปกติ ไม่ต้องตกใจ และตนก็ไม่ตกใจเป็นเพียงกุศโลบายทางการเมือง เรื่องการทหาร เรื่องความมั่นคงเราคงไม่เข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องเหล่านี้ เพราะงานคนละเรื่องกัน

โบ้ย ปปช.ตัดสินปล่อยผี 111 คน


เมื่อถามว่า หากกลุ่มนายสมัครเป็นรัฐบาลจะมีการนิรโทษกรรม 111 คณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย พล.อ.สนธิตอบว่า อยู่ที่สภาฯ ประชาชนเป็นคนเลือก ส.ส. หากยกเลิกก็ต้องยกเลิก ถือเป็นมติของประชาชน เมื่อถามว่า ดูแล้วน่ากลัวหรือไม่ที่นายสมัครประกาศกลับมาเป็นตัวแทนแก้แค้น พล.อ.สนธิตอบว่า นั่นคือนโยบายทางการเมือง เมื่อถามว่า จะดำเนินการอย่างไร คมช. กังวลใจหรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า ไม่สนใจ พูดไปเดี๋ยวไปลงข่าวไม่ดีอีก

สารภาพงานที่ทำยังไม่สำเร็จ


วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.30 น. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธาน คมช. เดินทางเยี่ยมอำลาตำแหน่งที่หน่วยบัญชาการกำลังสำรอง (นสร.) โดยมี พล.ท.สมเกียรติ สุทธิไวยกิจ ผบ.นสร.ให้การต้อนรับ โดยกล่าวกับกำลังพลว่า ในเวลา 2 ปี ในฐานะผู้บัญชาการทหารบกมีภาระหน้าที่ต้องทำมากมายมหาศาล โดยเฉพาะความมั่นคงของประเทศ เป็นเรื่องที่อยู่ในสภาวะที่อ่อนแอ จำเป็นต้องทำให้ความเข้มแข็งและความมั่นคงของประเทศที่น่าเป็นห่วงกลับมาสู่สภาพที่มีความเข้มแข็ง นี่คือภาระหน้าที่ของกองทัพ ใน 2 ปีที่ผ่านมาถึงวันนี้ ถือเป็นการทำงานที่หนักที่สุดในชีวิตรับราชการ ถามว่าถดถอยหรือท้อแท้หรือไม่ ไม่มีเลยแม้แต่น้อย เพราะภาระหน้าที่ของชายชาติทหาร จะต้องปกปักรักษาชาติบ้านเมืองให้มีความเข้มแข็ง


“เราต้องจำไว้อย่างหนึ่งว่า ชาติบ้านเมืองจะเข้มแข็งได้ด้วยพลังอำนาจตัวหนึ่งคือพลังอำนาจทางทหาร  เป็นตัวแปรในการสร้างความมั่นคงของประเทศ ถือว่าเป็นภาระหน้าที่ของเราที่จะต้องทำงานร่วมกัน ณ เวลานี้ถือว่าเดินมาใกล้ปลายทางของความสำเร็จเต็มที่แล้ว ตามที่ผมตั้งใจและหวังไว้มันใกล้สำเร็จ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ ขอฝากประเทศชาติฝากบ้านเมืองให้กับพวกเรา เพราะพี่ๆทุกคนที่เกษียณอายุราชการไปแล้วยังรักกองทัพ รักประเทศชาติอยู่ เราจะต้องเห็นกับชาติบ้านเมือง อย่าเห็น แก่อามิสสินจ้าง ขอให้เรามีอุดมการณ์อุดมคติช่วยกันสร้างบ้านเมืองกันต่อไป” พล.อ.สนธิกล่าว


ฮือฮาอาทิตย์ทรงกลด สนธิ อำลา


จากนั้นเวลา 10.30 น. พล.อ.สนธิเดินทางเยี่ยมอำลาที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ โดยมี พล.ต. วิลาศ อรุณศรี ผบ.พล.ม. 2 รอ. ให้การต้อนรับ ก่อนที่ขบวน พล.อ.สนธิเข้าสู่บริเวณพิธี ทาง พล.ม.2 รอ. ได้จัดม้าสีขาว 4 ตัว พร้อมนายทหารประจำม้ามาให้การต้อนรับเป็นกรณีพิเศษ นอกจากนี้ ยังนำรถสายพานลำเลียงพลจำนวน 22 คัน เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ พล.อ.สนธิ ซึ่งระหว่างที่ พล.อ.สนธิกำลังกล่าวโอวาทให้กับกำลังพลได้เกิดอัศจรรย์พระอาทิตย์ทรงกลดดวงโตบนท้องฟ้าเป็นที่ฮือฮาของนายทหารระดับสูงและสื่อมวลชนด้วย


ลั่น 2 ปีทำให้ประชาชนอยู่ข้างทหาร
 

พล.อ.สนธิกล่าวโอวาทตอนหนึ่งว่า อยากให้ทุกคนมุ่งมั่นทำงานอุปสรรคที่เกิดขึ้นในการพัฒนากองทัพและประเทศ ขอให้อุปสรรคเรากลายเป็นยาชูกำลังสร้างความมั่นคงเข้มแข็งในการต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ อย่าท้อแท้ เพราะเรามีหน้าที่ต้องทำ คำว่าเลือดเนื้อและชีวิตนั้นเราได้เสียสละมามากมาย เพื่อให้ประเทศไทยคงอยู่ ภาระนี้ไม่จบ อยากให้ทุกคนทุ่มเทเสียสละเลือดเนื้อและชีวิต ต้องปกป้องไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม


“ผมรับราชการเหลือไม่กี่วัน จิตสำนึกภาพรวมยังมีความรู้สึกว่ายังอยู่กับพวกเรา เพราะคำว่าทหารเราไม่มีการจบสิ้น แม้จะออกจากกองทัพ จิตใจที่มีมุ่งมั่นต่อกันหลายสิบปีที่อยู่กองทัพ เป็นสิ่งที่ปลูกฝังเข้ากระดูกดำทำให้เรารักและสามัคคีกัน อยากให้เราแบ่งแยกความคิดและความรู้สึกอะไรก็ตามที่ทำให้ชาติบ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย นั่นคือภาระหน้าที่สิ่งที่เราทำมาถือว่าประเสริฐสุด แม้เราจะปิดทองหลังพระ ถือเป็นหน้าที่อย่าบ่น ปริปากอย่าท้อแท้ เพราะคือภาระหน้าที่ งานข้างหน้าที่จะทำเพื่อชาติมีอีกไม่น้อยขอให้ใช้สติปัญญาความคิด ความสมัครสมานสามัคคี รวมเป็นหนึ่งเดียวในการแก้ปัญหา เราจะชนะได้ไม่ใช่อาวุธในมือเรา เราชนะได้คือประชาชนอยู่ข้างเรา 2 ปีที่ผมทำให้ประชาชนอยู่ข้างเราไม่ง่ายนักเป็นความท้าทายของเรา”
 

ย้ำพูดไม่ได้ ผบ.ทบ.คนใหม่
 

ต่อมา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้เปิดเผยตำแหน่ง ผบ.ทบ. คนใหม่ เพราะทำให้บ้านเมืองเกิดความสับสนว่า อย่าลืมว่าการปรับย้ายของกองทัพสุดท้ายจะต้องออกมาโดยพระปรมาภิไธยฯ ดังนั้นพูดอะไรตอนนี้ไม่ได้ พูดอย่างไรก็ผิด เพราะใครจะมาตัดสิน เพราะพระองค์ท่านเป็นจอมทัพไทย ดังนั้น ไม่พูดตรงนี้ ใครพูดนั่นละผิด ทั้งนี้ โปรดเกล้าฯเมื่อไหร่นั่นคือความชัดเจนขณะนี้ยังไม่มีใครรู้จริง และใครยังบอกไม่ได้ด้วย ถือว่าผิดมารยาท 


ไม่ให้ทหารตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง


เมื่อถามว่า ทำอย่างไรให้สบายใจและไม่ให้เกิดปัญหา พล.อ.สนธิตอบว่า อย่าไปมองว่าการปรับย้าย ผบ.ทบ. จะเป็นปัญหากับบ้านเมืองภาระหน้าที่ด้านความมั่นคงกองทัพกับการเมืองต้องแยกออกจากกัน ตนพูดตรงนี้มาเสมอไม่ใช่จับมาผูกกัน เพราะเมื่อใดที่จับกระแสมาผูกกันหมายถึงว่าเรากำลังตกเป็นเครื่องคือทางการเมือง ดังนั้น เราต้องเป็นตัวของเราในการที่จะพัฒนาในแนว ความคิดการบริหารกองทัพตามกรอบของเรา เพราะเราไม่เหมือนกระทรวงอื่นที่ต้องผ่านคณะรัฐมนตรี แต่กลาโหมไม่มี พล.อ.สนธิกล่าวว่า ขอให้มั่นใจกองทัพว่า เร็วเท่าไหร่นั่นคือความรอบคอบก็จะลดลง ดังนั้น เราต้องพยายามทำให้เกิดความรอบคอบ เมื่อความรอบคอบเกิดขึ้นความมั่นใจในการบริหารกองทัพ โดยการคัดเลือกผู้นำก็จะชัดเจนขึ้น เชื่อได้ว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความเข้าใจ และมั่นใจในการตัดสินใจของกองทัพ ตนเชื่ออย่างนั้น  มั่นใจนายกฯไม่ยุ่งตั้ง ผบ.ทบ.
 

เมื่อถามว่า ผบ.ทบ. ควรเป็นสมาชิก คมช. หรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า

ไม่ใช่ ไม่เกี่ยวกันอย่าปนกัน เพราะหน้าที่ คมช. ดูแลด้านความมั่นคง เมื่อถามว่า โผทหารดำเนินการถึงไหนแล้ว พล.อ.สนธิตอบว่า เมื่อวานพูดว่ายังไม่มีความชัดเจน แต่คนอื่นพูดอย่างไรไม่แน่ เมื่อเช้าถามว่า ไปไหน ตนเดินทางไปกระทรวงกลาโหม หากว่าเรียบร้อยแล้วคงไม่ไปเจอกันบ่อยๆ เพราะขณะนี้ยังไม่เรียบร้อย ยังไม่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ การพบปะรัฐมนตรีกลาโหมพูดปรับภาพรวม ขณะนี้ยังไม่เรียบร้อย เมื่อถามว่า จำเป็นต้องพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ตนคิดว่านายกรัฐมนตรีมีมารยาท ท่านจะปล่อยให้ทางเราตัดสินใจกันและผ่านตามขั้นตอนซึ่งต้องผ่านรัฐมนตรีกลาโหมก่อนถึงนายกรัฐมนตรี

ท้า “สมัคร” เชิญยุบ คตส.


ด้านนายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พปช.) ประกาศจะยุบ คตส.เป็นหน่วยงานแรกหากเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ว่าเป็นสิทธิของเขาก็พูดกันไป แต่ถ้านายสมัครเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลจริงแล้วจะยุบ คตส. หรือจะเช็กบิลย้อนหลัง ก็เชิญทำได้ตามสบาย เพราะที่ คตส.ทำงานกันอยู่นี้ ก็ถูกแต่งตั้งกันขึ้นมาทำเพื่อประเทศชาติ ไม่ได้ทำเพื่อใคร 


ขณะที่นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. กล่าวว่า

คตส.ตั้งขึ้นตามประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 หากจะให้ คตส. ยุติการทำงานต้องทำเสนอเป็นกฎหมายผ่านรัฐสภาขึ้นอยู่ว่าประชาชนจะเลือกบุคคลที่ไม่ให้ความสำคัญในการตรวจสอบการคอรัปชัน เข้ามาทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารหรือไม่ โดยหากมีกฎหมายระบุให้ คตส.หยุดการทำหน้าที่ คตส.ก็พร้อมยุติการทำงาน แม้รัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้งจะมีนโยบายอะไรในอนาคต คตส.ไม่รู้สึกหวั่นไหว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์