เสธ.หนั่นเย้ย พปช.นิรโทษฯไม่ง่าย

ที่ประกาศว่า หากได้เป็นรัฐบาล จะขอนิรโทษกรรมให้กับอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน ว่า ขอให้พรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาลก่อนแล้วค่อยพูด และถ้าได้เป็นแล้วจะทำได้หรือไม่ ไม่ทราบว่าพรรคพลังประชาชนมั่นใจอะไรถึงคิดว่าจะได้เป็นรัฐบาล ส่วนการขอนิรโทษกรรมจะทำให้ได้แนวร่วมจากกลุ่มสมานฉันท์ รวมใจไทย หรือกลุ่มอื่นหรือไม่นั้น คนที่เป็นนักการเมือง ถ้าคำพูดตลบตะแลง ประชาชนจะเชื่อถืออะไร เพราะไม่ทราบว่าอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่แยกจากพรรคไทยรักไทยไปตั้งกลุ่ม และประกาศว่าจะไม่กลับไปร่วมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย จะกลับไปรวมกับพรรคพลังประชาชนได้หรือไม่ เพราะวันนี้เห็นด่ากันปาวๆ แต่หากมารวมกันได้ก็ถือว่าเป็นโชคร้ายของประเทศ และเชื่อว่า ที่ท้องสนามหลวงน่าจะมีคนมารวมตัวกัน เหตุการณ์รุนแรงต้องเกิดขึ้นแน่ 

แขวะ “สมัคร” ระวังฝันร้าย 

พล.ต.สนั่นกล่าวว่า ท่าทีของนายสมัครที่มั่นใจ ว่าพรรคพลังประชาชนจะได้เป็นรัฐบาลผสม ขณะนี้ความฝันมีกันมากทุกคน ก็ไขว่คว้าหาประโยชน์สูงสุดให้กับตัวเอง และก็ฝันไป บางทีฝันดีก็นอนหลับสบาย แต่ถ้าฝันร้าย ตื่นมาก็แย่หน่อย และที่บอกว่าเก้าอี้นั่งประชุมแทบไม่พอ ต้องบอกว่าที่ประชุมมีคนมาก ไม่ได้หมาย ความว่าจะได้กลับมาเป็น ส.ส.มาก

ย้ำเชื่อมั่นความเป็นเพื่อนของ ชท.
 

พล.ต.สนั่นยังกล่าวว่า ยังเชื่อใจในความเป็นพันธมิตรกับพรรคชาติไทย เพราะคบกันมาเป็นเพื่อน เห็นว่าหนักแน่น และจากประสบการณ์ที่ทำงานการเมืองมา คิดว่าพรรคชาติไทยเชื่อถือได้ พูดคำไหนเป็นคำนั้น รักษาคำพูด ไม่เช่นนั้นคงตั้งรัฐบาลชวน 2 ไม่ได้ แต่ที่เคยมีข่าวท่าทีเหมือนจะสลายขั้วทางการเมือง ตนไม่อยากให้มองตอนให้สัมภาษณ์แล้วมาจับประเด็น เพราะคนที่พูดมากก็มักจะพลาดมาก

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ประกาศออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน พร้อมยุบ คตส. หากได้เป็นรัฐบาลว่า ถ้านายสมัครจะทำต้องได้รับเสียงข้างมากเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล และต้องแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 68 ก่อน จากนั้นจึงค่อยออกกฎหมายนิรโทษกรรม ไม่ใช่เรื่องพูดกันเล่นๆ คำพูดของนายสมัครอาจเป็นวิธีการต่อสู้ทางการเมืองในการรณรงค์เรื่องการเลือกตั้ง อยู่ที่ใครจะใช้วิธีการหาเสียงอย่างไร แต่การรณรงค์หาเสียงและประกาศจุดยืนทางการเมือง ต้องระวังว่าจะไปกระทบต่อรัฐธรรมนูญ และกระทบการแบ่งแยกองค์กรนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการหรือไม่ ไม่ใช่พูดอะไรที่สักแต่หาเสียงแล้วทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย เกิดกลียุค แตกร้าว การจะมารับผิดชอบบ้านเมืองต้องมีวิสัยทัศน์ ความรับผิดชอบ คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม ถ้าพูดอะไรแล้วทำไม่ได้ พูดแล้วเกิดกลียุคต้องระวัง

แกล้งมึน 2 รมต.ถือหุ้นเกิน 5%
 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีการวิจารณ์บทเฉพาะกาลมาตรา 298 ของรัฐธรรมนูญที่เอื้อประโยชน์ให้ ครม.เรื่องการถือหุ้นในบริษัทเอกชนเกิน 5% การเป็นหุ้นส่วนในบริษัทเอกชนที่รับสัมปทานจากรัฐ โดยไม่มีความผิด นายธีรภัทร์ตอบว่า ขอศึกษาก่อนว่ามีการเอื้อประโยชน์จริงหรือไม่ และการเอื้อประโยชน์ต่างๆจะทำให้เกิดปัญหาหรือไม่ ขณะนี้เหตุยังไม่เกิดจะเกิดก็ต่อเมื่อ ครม.ไปทำอะไรที่ทำให้เกิดผลดังกล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย กับนายสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.ไอซีที เข้าไปถือหุ้นในบริษัทเอกชนเกิน 5% โดยไม่มีความผิด เพราะมีบทเฉพาะกาลมาตรา 298 คุ้มครองจะเข้าข่ายว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองหรือไม่ นายธีรภัทร์ตอบว่า ขอดูรายละเอียดก่อนว่า บทเฉพาะกาลนี้เอื้อประโยชน์จริงหรือไม่ แต่การเขียนบทเฉพาะกาลนี้เพื่อใช้กับรัฐบาลชุดปัจจุบันเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการทำงาน