ไอเดีย บรรหาร เสนอให้ยุบกกต.

ไอเดีย บรรหาร เสนอให้ยุบกกต.

เทพเทือก ตอกกลับจิตสำนึก ทรท.

เมื่อเวลา 14.30 น. วันเดียวกัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคไทยรักไทยกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์บิดเบือนและขัดขวางการเลือกตั้งว่า แม้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ได้ตั้งเวทีอธิบายเหตุผลและขอให้ประชาชนไปลงคะแนนเลือกตั้ง โดยบอกว่าอย่าเลือกคนชั่ว โกงและทุจริต ถ้าคำพูดอย่างนี้ทำให้พรรคไทยรักไทยโกรธก็ช่วยไม่ได้ เพราะสิ่งที่พูดไปตรงกับใจประชาชน การที่พรรคไทยรักไทยกล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์จับมือกับ กกต.จังหวัดภาคใต้ล้มล้างการเลือกตั้งนั้น ขอตำหนิว่าเป็นสำนึกของคนเลวที่ประเมินวิญญูชน เข้าใจว่าพรรคไทยรักไทยคงโกรธที่คนใต้ไม่เลือก จึงพาลไปหมด ต่อไปอาจจะพาลอาหารทะเล กุ้งหอยปูปลา ลมฟ้าอากาศ จึงขอเตือนสติให้คิดอะไรพอดิบพอดี ไม่เช่นนั้นจะเลอะเทอะไปกันใหญ่

นายสุเทพกล่าวด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ สร้างความสับสน แต่คนที่ทำคือ กกต. พรรคการเมืองและนักการเมืองเลวๆ บางคน ทำให้เกิดการเวียนเทียนผู้สมัคร ย้ายเขตย้ายจังหวัดลงสมัครรับเลือกตั้ง สาเหตุที่ต้องโทษเป็นความผิดของ กกต. เพราะเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา กกต.ได้ส่งหนังสือไปตามจังหวัดภาคใต้ เนื้อหาคลุมเครือทำนองว่าให้ผู้สมัครเขตหนึ่งไปสมัครอีกเขตได้ การดำเนินการเช่นนี้ขัดรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้ง เมื่อ กกต.ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งต้องถือว่าผู้สมัครยังไม่สิ้นสภาพ มิฉะนั้นคนเดียวอาจได้เป็น ส.ส. 2 เขตพร้อมกัน ดังนั้น ได้ทำหนังสือถึง กกต.ขอให้สืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง และวินิจฉัยชี้ขาดกรณีเกิดการเวียนเทียนลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้มีเหตุที่ กกต.จะต้องสืบสวนสอบสวนตามกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 19 เพื่อหาข้อเท็จจริงและวินิจฉัยโดยพลัน หาก กกต.ไม่ดำเนินการก็อาจเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 24 และมีโทษตามมาตรา 42 การที่ตนทำอย่างนี้ไม่ได้ประสงค์ บ่อนทำลาย แต่ต้องการทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม พรรคประชาธิปัตย์ประณามการเปิดรับสมัครใหม่อย่างมีเลศนัย เปิดช่องให้มีการเวียนเทียนลงสมัคร และยังเว้นเบอร์เดิมให้พรรคไทยรักไทย สิ่งเหล่านี้ผิดทำนองคลองธรรม

ออกเงินให้ 3 ผู้สมัครพรรคเล็กสู้คดี

นายสุเทพกล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่ กกต.มีมติดำเนินคดีกับ 3 ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ที่ออกมาแฉว่าถูกจ้างวานให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งที่คุณสมบัติไม่ครบถ้วนนั้น ความจริงทั้ง 3 คนมีสปิริต ถ้าไม่ออกมาเปิดโปงข้อมูล กกต.ก็ยังงมโข่งอยู่ แทนที่จะขอบคุณกลับไปเอาผิดทางอาญา ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์จะออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้กับทั้ง 3 คนในการสู้คดี พรรคประชาธิปัตย์จะอยู่ข้างหน้าคนเหล่านี้ ไม่ใช่เป็นอีแอบอยู่ข้างหลัง นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้ กกต.เร่งสืบสวนขยายผลกรณีพรรคแผ่นดินไทยและพรรคพัฒนาชาติไทย ปลอมแปลงเอกสารในการเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย. เรื่องนี้มีเอกสารหลักฐานแน่นหนา ถ้าปล่อยให้ล่าช้าจะเกิดความเสียหายต่อประชาธิปไตยและประเทศชาติ การที่ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต. ระบุว่าไม่ต้องเร่งสืบสวนสอบสวนเพราะคดีมีอายุความ 1 ปีนั้น อยากให้ พล.ต.อ.วาสนาไปดูกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 19 เสียก่อน เป็น กกต.ประสาอะไรถึงได้ออกโทรทัศน์ท้าประชาชนให้ฟ้องร้อง ถ้าทำหน้าที่ กกต.ไม่ได้ก็ลาออกไปเถอะ อย่าให้ถึงกับต้องไล่ออกเลย

ไล่ ทักษิณ ไปอังกฤษไม่ต้องกลับ

ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุก่อนเดินทางไปประเทศอังกฤษ ให้พรรคประชาธิปัตย์ใช้สมองซีกขวาทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ นายสุเทพตอบว่า ขอให้เป็นสุขเป็นสุข ไปอยู่นานๆ ไม่ต้องกลับประเทศไทยหรอก เพราะมาแล้วเป็นปัญหาต่อบ้านเมือง การชูประเด็นปฏิรูปการเมืองของพรรคไทยรักไทยเป็นของเก๊ เก่งแต่เรื่องการตลาด เอาเรื่องใหม่มากลบเรื่องเก่า

ขณะที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณขอพบผู้นำประเทศต่างๆ เพื่อเจรจาโครงการเมะโปรเจกต์ ในระหว่างที่เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศว่า ได้เห็นความจริงแล้วว่ามีความพยายามติดต่อขอเข้าพบผู้นำประเทศ อังกฤษและสหรัฐอเมริกา การทำอย่างนี้ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะการเลือกตั้งยังไม่สมบูรณ์ อะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่รู้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีความสง่างามพอที่จะทำอย่างนี้ และยังบอกเองว่าเป็นการไปเที่ยวพักผ่อนส่วนตัวกับครอบครัว ไม่มีผู้นำประเทศไหนทำกันอย่างนี้ แม้จะอ้างว่าไปพบเพื่อน แต่ก็ยังมีสถานะนายกฯอยู่ ตามระเบียบวิธีการทูตจะต้องมีการรักษาความปลอดภัยและอื่นๆ ดังนั้น อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณทบทวนใหม่ อย่าทำลายประเทศไทยมากกว่านี้เลย หรือเพียงแค่ต้องการแสดงส่งสัญญาณให้นานาประเทศว่าตัวเองยังทรงอิทธิพลมีอำนาจอยู่ แต่เชื่อว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ผิด

นายองอาจกล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่พรรคไทยรักไทยระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องถูกยุบพรรค เพราะขัดขวางการเลือกตั้งด้วยการยื่นฟ้องศาลปกครองให้ระงับการเลือกตั้ง และประณาม กกต.นั้น เรื่องนี้ควรให้ กกต.ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา พรรคไทยรักไทยไม่ต้องออกตัวแทน กกต. ไม่ควรทำตัวเป็นหัวหน้า กกต. หรือว่าขณะนี้ กกต.กลายเป็นสาขาของพรรคไทยรักไทยแล้ว

วาสนา ไม่สนคำขู่ ปชป.

ด้าน พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต. กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ขีดเส้นตายให้ กกต.พิจารณาสืบสวนสอบสวนเรื่องร้องเรียนเลือกตั้งให้เสร็จภายใน 3 วันว่า กกต.ไม่มีเจตนาดึงเรื่องเอาไว้เพื่อประโยชน์ของใคร อีกทั้งการทำงานของ กกต.มีเงื่อนเวลากำกับอยู่ ถึงแม้พรรคประชาธิปัตย์ขู่จะฟ้องร้องเอาผิดก็ไม่เป็นไร เป็นสิทธิที่จะทำได้ แต่ยืนยันว่า กกต.ทำตามกฎหมาย ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตใจ เมื่อถามว่ามีบางประเด็นที่หมิ่นเหม่กับการทำผิดกฎหมาย พล.ต.อ.วาสนาตอบว่า แล้วแต่จะมอง ความคิดเห็นทางกฎหมายอาจมีความแตกต่างกันได้ เหมือนกับการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น ที่อาจจะมีคำพิพากษาลงโทษ แต่ศาลอุทธรณ์อาจจะยก ฟ้อง แต่เมื่อเรื่องไปศาลฎีกาอาจจะกลับมาลงโทษก็ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีการเลือกตั้งที่ จ.กาญจนบุรี เมื่อปี 2548 ที่นายเรวัติ สิรินุกูล อดีตผู้สมัคร ส.ส. กาญจนบุรี พรรคไทยรักไทย กลายเป็นผู้สมัครคนเดียว หลังจากคู่แข่งถูกตัดสิทธิการเป็นผู้สมัครก่อนประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.ได้สั่งให้เลือกตั้งใหม่ แต่ ไม่เปิดรับสมัครใหม่อีก ดังนั้น การตัดสินใจให้รับสมัครใหม่ใน 39 เขตครั้งนี้อาจจะขัดกฎหมาย เพราะไม่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใหม่ พล.ต.อ.วาสนาตอบว่า ในกฎหมาย เลือกตั้งมาตรา 74 ระบุถึงการเลือกตั้งที่มีผู้สมัครคนเดียว ว่าจะต้องได้คะแนนถึง 20% แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าจะต้องทำอย่างไร จะให้ใช้ผู้สมัครรายเดิมหรือเปิดรับสมัครใหม่ แต่ด้วยเหตุผลง่ายๆว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่เห็นชอบกับผู้สมัครรายเดิมที่ลงสมัครไปแล้ว แสดงว่าไม่เลือกคนดังกล่าวแล้ว กกต.จึงเห็นว่าควรจะเปิดโอกาสให้ผู้สมัครจากพรรคการเมืองอื่นเสนอตัวเข้ามาให้ประชาชนเลือก โดยไม่ได้ตัดสิทธิผู้สมัครคนเก่า ยืนยัน ว่าการดำเนินการของ กกต.เป็นไปโดยความบริสุทธิ์ใจ ไม่คิดอุ้มใครหรือพรรคการเมืองใด

ยันการเลือกตั้งไม่เป็นโมฆะ

เมื่อถามว่ามีการเตรียมยื่นเรื่องต่อศาลปกครองให้สั่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ประธาน กกต.ตอบว่า คงตอบคำถามนี้ไม่ได้ แต่ไม่เข้าใจว่าการเลือกตั้งจะเป็นโมฆะได้อย่างไร จะเอาเรื่องการทำธุรกรรมที่เป็นโมฆะมาจับกับกฎหมายเลือกตั้งอย่างไร จะเอาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายมาพิจารณากันอย่างไร ยืนยันว่าไม่กังวลเรื่องที่ศาลปกครอง เพราะถือว่าบ้านเมืองไม่ใช่ของตนเพียงคนเดียว หากเกิดเรื่องขึ้นแล้วส่งผลกระทบ ก็ต้อง กระทบคนทั้งประเทศ

พล.ต.อ.วาสนากล่าวด้วยว่า กกต.ยังมีเวลาที่จะพิจารณาเรื่องร้องเรียนทุจริตเลือกตั้ง เพราะการประกาศผลเลือกตั้ง ส.ส.ต้องทำตามกรอบของเวลา เรื่องร้องเรียนใดที่พิจารณาเสร็จแล้วก็สามารถวินิจฉัยไปก่อนได้ ส่วนเรื่องใดยังไม่เสร็จก็มีเวลาพิจารณาอีก 1 ปี สำหรับข้อร้อง เรียนกรณีการจ้างวานพรรคการเมืองขนาดเล็กให้ลงสมัคร และการร้องเรียนพรรคไทยรักไทยและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น ยังพิจารณาไม่เสร็จ แต่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงสืบ สวนหาข้อมูลในต่างจังหวัด ตั้งใจว่าสัปดาห์หน้าจะให้จบ

เติ้ง นัดเฉลยผลเจรจา ทักษิณ

ที่ จ.สุพรรณบุรี นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ว่า มีสมาชิกพรรคหลายคนสอบถามว่าได้ไปกินข้าวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคไทยรักไทยหรือยัง ซึ่งจะเล่าให้ฟังในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพรรคชาติไทยวันที่ 17 เม.ย.นี้ ตอนนี้ไม่เล่า บอกได้แค่วันไปกินมาแล้วตั้งแต่หลายวันก่อน แต่นั่นแค่รอบแรก ยังจะมีรอบสองอีก ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้แนะนำอะไรให้ พ.ต.ท.ทักษิณบ้าง นายบรรหารกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า เอาไว้วันที่ 17 เม.ย. ค่อยฟังพร้อมๆกันทีเดียว ต่อข้อถามว่าบรรยากาศการกินข้าววันนั้นชื่นมื่นหรือไม่ นายบรรหารตอบว่า พูดยาก จะว่าชื่นก็ได้ ไม่ชื่นก็ได้ เอาเป็นว่าเห็นใจ พ.ต.ท.ทักษิณ วันนั้นไปกันแค่ 2 คน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะชี้แจงให้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และหัวหน้าพรรคมหาชนเข้าใจหรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า ไปแน่ กำลังจะนัดกันในสัปดาห์หน้า ได้สั่งนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย ไปประสานงานแล้ว ให้นัดพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมร่วมกินข้าวกันหลังจากที่พรรคชาติไทยเสร็จสิ้นการประชุมวันที่ 17 เม.ย. แล้ว จะได้ชี้แจงว่าทำไมตนถึงไปกินข้าวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ โถ..นายกฯไม่เลี้ยงหูฉลามผมมา 6 เดือนแล้ว ถ้าเลี้ยงติดๆกันหน่อย ปัญหาบ้านเมืองก็คงไม่หนักขนาดนี้

ชี้ ทรท.ยังลูกผีลูกคนอีก 16 เขต

ผู้สื่อข่าวถามถึงการทำงานของ กกต.ที่ถูกวิจารณ์มากในช่วงนี้ นายบรรหารตอบว่า รู้สึกมึนกับวิธีการทำงานของ กกต.เหมือนกัน แต่อีกทางหนึ่งก็เห็นใจที่จะทำงานอย่างไรให้เกิดความเรียบร้อย ทำให้มี ส.ส.พอเปิดสภาผู้แทนราษฎรได้ แต่จะถูกต้องหรือไม่ ตอบไม่ได้ ในสายตาของประชาชนคงรู้สึกไม่ชอบมาพากล เรื่องคนที่สมัครเขตหนึ่งไม่ได้ แต่ไปสมัครอีกเขตนั้น ถือว่าไม่ถูกต้องชอบธรรม ต้องเป็นคนใหม่ที่สมัคร ไม่ย้ายไปย้ายมา นอกจากนี้ ไม่แน่ใจว่า 16 เขต ที่มีผู้สมัครพรรคไทยรักไทยพรรคเดียวจะได้คะแนนถึง 20% หรือไม่ ตรงนี้ต้องแก้รัฐธรรมนูญหลายประเด็นที่ทำให้เกิดเงื่อนตาย การรวบรัดยุบสภาทำให้เกิดปัญหาอย่างนี้ก็ดีไปอย่าง ทำให้เห็นว่าปัญหาเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เสนอแก้รัฐธรรมนูญยุบ กกต.

นายบรรหารกล่าวว่า ถ้าการเลือกตั้งวันที่ 23 เม.ย. ยังได้ ส.ส.ไม่ครบอีก ก็ต้องมีเลือกตั้งอีกรอบในวันที่ 30 เม.ย. ซึ่งเป็นวันถึงกำหนดตามกรอบกฎหมายพอดี และถ้ารอบนั้นไม่ได้อีก คราวนี้เกิดปัญหาใหญ่แน่ นักกฎหมายจะตีความอย่างไรคงต้องไปว่ากันอีกครั้ง คาดว่าคงต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ผู้สื่อข่าวถามว่า การปฏิบัติของ กกต.จะถึงขั้นให้ถอดถอนได้หรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า อย่าไปถอดถอนเลย เพราะหมดเวลาแล้ว ถ้าจะถอดถอนก็ควรทำตั้งนานแล้ว หากจะบอกว่าเอียงหรือเปล่า ก็ต้องมีบ้าง แต่ตอบไม่ได้ว่าเอียงมากหรือเอียงน้อย ถ้ามีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยากเสนอว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่ามี กกต.เลย ยุบให้หมด ให้ไปสิ้นสุดที่ศาลฎีกาดีกว่า หรือให้เป็นศาลเฉพาะพิจารณาคดีฟ้องร้องเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า ตอนนี้รูปแบบขององค์กรที่จะมาแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่ชัดเจน นายบรรหารกล่าวว่า ต้องเป็นคนกลางจริงๆ รัฐบาลอย่าเข้าไปควบคุมการแต่งตั้งองค์กรที่จะมาแก้ไขรัฐธรรมนูญและเมื่อร่างแก้ไขเข้าสู่สภาฯแล้ว ต้องมีแค่หรือไม่รับเท่านั้น จะแก้ไขร่างไม่ได้ เพราะ ส.ส. 500 คน เป็นของพรรคไทยรักไทยทั้งหมด เดี๋ยวแก้อีลุ่ยฉุยแฉกก็แย่อีก ถ้าทำอย่างนั้นจะมีการเดินขบวนอีก อย่างไรก็ตามคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงเข้าใจอย่างที่คุยกัน จะลองยกตัวอย่างสักข้อหนึ่ง เช่นเรื่องสังกัดพรรค 90 วัน พ.ต.ท.ทักษิณเห็นด้วยว่าจะเลิกแล้ว ส่วนข้ออื่นต้องไปฟังวันที่ 17 เม.ย.นี้

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์