บิ๊กบังบอกใบ้ ผบ.ทบ.คนใน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ก.ย. ที่วิทยาลัยการทัพบก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธาน คมช. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2550 ว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับ พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม ตอนนี้บัญชีรายชื่อยังอยู่ในอำนาจของหน่วยในกองทัพในการพิจารณา จะต้องว่ากันไปตามกรอบของกองทัพ ส่วนการเชื่อมโยงระหว่างเหล่าทัพจะต้องมีการพูดคุยกัน คาดว่าประมาณวันที่ 10 ก.ย.นี้ถึงจะเสร็จเรียบร้อย ทั้งนี้ จะต้องหารือร่วมกับ ผบ.ทหารสูงสุด และ ผบ.เหล่าทัพ ก่อนนำรายชื่อส่งให้กับ รมว.กลาโหม ส่วนกรณีสเปก ผบ.ทบ.คนใหม่ ที่ระบุว่า “ต้องทั้งดี และเก่ง” หมายถึงใคร พล.อ.สนธิตอบว่า อันนั้นเป็นเพียงสเปก เมื่อถามว่าจะมีการกำหนดกรอบเวลาหรือไม่ เนื่องจากกำลังพลเฝ้ารอคอยกับผู้บังคับบัญชาคนใหม่ พล.อ.สนธิตอบว่า ทหารไม่คอย ถ้าคอยก็ผิด ทหารไม่มีสิทธิ์คอยนาย ผู้บังคับบัญชาคนไหนมาทุกคนจะต้องยอมรับ เมื่อถามว่า ผบ.ทหารสูงสุดได้นัดพูดคุยกันหรือยัง พล.อ.สนธิตอบว่า คุยกันอยู่ตลอด ส่วนจะส่งให้กับ รมว.กลาโหม วันไหนยังไม่ได้บอก 

บอกใบ้ว่า ผบ.ทบ.คนใหม่เป็นคนใน

เมื่อถามว่านายกฯและ รมว.กลาโหมจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการพิจารณาการปรับย้ายหรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า ทุกคนมีส่วนหมด เมื่อถามต่อว่าความจริงท่านเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง น่าจะเห็นการทำงานของแคนดิเดต ผบ.ทบ. มากกว่านายกฯ และ รมว.กลาโหม พล.อ.สนธิตอบว่า ผู้บังคับบัญชามีการมองภาพที่กว้างกว่า เมื่อถามว่า นอกจากแคนดิเดตทั้ง 3 คนในกองทัพ มีความเป็นไปได้ที่จะเอาคนนอกขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ.ได้หรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า ก็แล้วแต่ แต่ขณะนี้คิดแต่คนในก่อน เมื่อถามว่าขณะนี้ พล.อ.สพรั่งหมดสิทธิ์กับตำแหน่ง ผบ.ทบ.คนใหม่แล้วหรือไม่ พล.อ.สนธิปฏิเสธที่จะตอบคำถาม เพียงแต่ยิ้มและเดินเลี่ยงผู้สื่อข่าวทันที ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สเปก ผบ.ทบ.ที่ต้องดีและเก่ง มอง พล.อ.มนตรีเหมาะสมหรือไม่ พล.อ.สนธิยิ้มและปฏิเสธที่จะตอบคำถาม 

“สพรั่ง” พร้อมลาออกจากบอร์ด รสก.
 

พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วย ผบ.ทบ.และผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. กล่าวว่า หากได้รับแต่งตั้งเป็น ผบ.ทบ. คนใหม่ จะลาออกจากการเป็นประธานกรรมการรัฐวิสาหกิจทั้งหมด เนื่องจากถือว่าเป็นความตั้งใจเดิมอยู่แล้วว่าจะเข้ามาในช่วงสั้นๆ และเข้ามาตามความต้องการของผู้บังคับบัญชา

“เป็นความตั้งใจของผมมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เพื่อเข้ามาสะสางเรื่องต่างๆ แต่ไม่อยากพูดเรื่องนี้มาก เดี๋ยวจะเป็นการกดดันผู้บังคับบัญชาเกี่ยวกับตำแหน่ง ผบ.ทบ. เอาเป็นว่า ผมลาออกก่อนครบเทอมอยู่แล้ว เพื่อให้คนดีได้เข้ามาทำหน้าที่ต่อไป” พล.อ.สพรั่งกล่าวและยืนยันไม่ได้มีเจตนาวิวาทะกับนายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ และประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ยังให้ความเคารพนายชวนในฐานะผู้ใหญ่ ที่ผ่านมาพูดในภาพรวมทั่วไป ไม่มีเจตนาให้กระเทือนคนดี สิ่งที่พูดมีเจตนาส่งไปถึงคนที่กวนบ้านเมืองเท่านั้น หากคำพูดของตนทำให้ นายชวนเข้าใจผิดก็ขอโทษ

เมื่อถามว่า ผบ.ทบ.คนใหม่ควรจะเป็นคนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันใช่หรือไม่ พล.อ.บุญสร้างตอบว่า โดยจรรยาบรรณผู้บังคับบัญชาจะต้องเลือกคนที่เหมาะสมที่สุด เราพยายามทำหน้าที่ในการคัดเลือกคนให้ดีที่สุด เมื่อถามว่า ผบ.ทบ.คนใหม่ จำเป็นต้องเป็นคนที่มีส่วนร่วมในการปฏิวัติหรือไม่ พล.อ.บุญสร้างตอบว่า บอกไม่ได้

แต่ในหลักการเราจะต้องพิจารณาคนที่จะเป็นประโยชน์ให้ชาติในอนาคตมากที่สุด

ไม่ใช่จะต้องไปตอบแทนเรื่องโน้นเรื่องนี้ ส่วนจะทำอะไรมาหรือไม่เป็นอีกเรื่อง การกระทำที่เขาทำในอดีตเป็นตัวบ่งบอกว่าเขาเป็นคนอย่างไร แล้วนำมาพิจารณาโดยเก็บจากข้อมูลในอดีตว่า คนไหนจะทำประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมืองได้ดีกว่ากัน เมื่อถามว่าจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องเหลืออายุราชการ 2 ปีขึ้นไป พล.อ.บุญสร้างตอบว่า ในหลักการไม่มีเขียนไว้ เรื่องนี้ไม่เกี่ยว แต่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะคนที่เหลืออายุราชการ 1 ปี ก็จะทำประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมืองยากหน่อย แต่ไม่ได้ หมายความว่าเขาจะเป็นไม่ได้ เพียงแต่เป็นข้อเสียเปรียบ ทั้งนี้เขาอาจจะเสียเปรียบข้อนี้ แต่มีข้ออื่นดีก็ได้  

โผล่าสุด “มนตรี” นั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. วันเดียวกัน พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด ได้นัดพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. หารือถึงการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี 2550 ที่บ้านพักรับรอง ผบ.ทบ. เชิงสะพานเกษะโกมล เป็นที่หารือกันโดยใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ทั้งนี้ การหารือกันครั้งนี้ไม่ได้มีการถกเถียงกัน เนื่องจาก ผบ.เหล่าทัพแต่ละคนได้จัดทำบัญชีโยกย้ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะส่งบัญชีรายชื่อให้ ผบ.ทหารสูงสุดในวันที่ 7 ก.ย.นี้ ก่อนที่จะส่งให้ พล.อ. บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม ในสัปดาห์หน้า 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การหารือครั้งนี้ พล.อ.สนธิได้ชื่อ พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสธ.ทบ. ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.

เนื่องจาก พล.อ.มนตรีเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ และมีความเหมาะสมกับสถานการณ์มากที่สุด รวมถึงได้รับความไว้วางใจจากบรรดาเหล่าทหาร นอกจากนี้ได้เสนอให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ขึ้นมาดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ทบ. และโยก พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ไปดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ทหารสูงสุด อย่างไรก็ตาม การหารือครั้งนี้เป็นเพียงข้อสรุปเบื้องต้นเท่านั้น