และมาตรการเชิงรุก 'ขึ้นบัญชีลับ' บรรดาหัวคะแนนนักการเมือง ที่ นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ประกาศมาล่าสุดนี้ คาดว่าคงทำให้บรรดาพรรคการ เมืองและนักการเมืองที่สบประมาทว่า กกต. 'ไม่ทำอะไรเลย' ชักหนาวๆ ร้อนๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว
เล่ากันว่า แผนการนี้ เตรียมกันมาตั้งสมัยที่ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธาน กกต.
แต่ยังไม่ได้มีการดำเนินการ จนกระทั่งถึงยุคนี้ จึงเห็นเป็นรูปธรรม เมื่อ กกต.สมชัยที่ดูแลด้านสืบสวนสอบสวน เห็นด้วยและสั่งการให้ทีมงานเดินเครื่องเรื่องนี้เต็มที่ ขณะนี้พื้นที่ภาคตะวันออกมี 'ข้อมูล' เชิงลึกของหัวคะแนนนักการเมืองครบทุกจังหวัดแล้ว และเริ่มขยับไปเก็บข้อมูลในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ รวมกันแล้ว 30 กว่าจังหวัด คาดว่าภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน คงมีข้อมูลผู้ให้การสนับสนุนนักการเมืองครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ใน 'บัญชีรายชื่อ' ผู้สนับสนุนหรือหัวคะแนนนักการเมืองนี้ จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ
1.รายชื่อของหัวคะแนน พร้อมด้วยประวัติ 2.ข้อมูลของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ที่เป็นลูกน้องของนักการเมือง ซึ่งเคยมีพฤติกรรมไปข่มขู่ คุกคาม บังคับขู่เข็ญให้ประชาชนในพื้นที่ลงคะแนนไปในทางหนึ่งทางใด และ 3.กลุ่มของข้าราชการ พนักงานของรัฐที่มีพฤติกรรม 'น่าสงสัย' และอยู่ในข่ายว่าไม่เป็น กลางทางการเมือง กว่าจะได้ 'บัญชีลับ' นี้มาได้ ฝ่ายปฏิบัติงานต้องใช้ทุกวิถีทางในการสืบเสาะแสวงหาข้อมูล โดยเป็นการผสมผสานการทำงานทางลับ ระหว่างส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และจะมีการอัพเดตปรับปรุงให้ข้อมูลทันสมัยอยู่ตลอด เพราะหัวคะแนนบางรายในการเลือกตั้งท้องถิ่นช่วยเหลือฝั่งนี้ แต่พอการเลือกตั้งใหญ่กลับเปลี่ยนขั้วไปช่วยอีกฝ่าย หรือในบางรายที่เคยเป็นหัวคะแนน มาครั้งนี้อาจจะเลิกเป็นหัวคะแนน เพราะไม่กล้าออกหน้าช่วยเหลือใครเนื่องจากกลัวโทษอาญาที่กำหนดไว้ในกฎหมายลูกก็ได้
นายสมชัยยอมรับว่า เมื่อออกมาตรการนี้ออกมา นักการเมืองก็คงหลบไปทำอย่างอื่น
แต่เชื่อว่าการซื้อเสียงที่โจ๋งครึ่มเหมือนดังในอดีตคงจะทำกันไม่ได้แล้ว 'เราไม่เพียงแต่จะไล่ล่าคนทุจริตเลือกตั้งมาลงโทษเท่านั้น แต่ กกต.ยังต้องวิ่งแซงหน้านักการเมือง เพื่อหาทางป้องกันทุกวิถีทางอีกด้วย เพราะกกต.ก็อยากได้คนดีๆ เข้ามาบริหารประเทศเหมือนกัน' กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนย้ำ
ประกาศกันชัด-ชัดอย่างนี้แล้ว อยากรู้ว่ายังจะมีใครฝืนกฎเหล็กไปซื้อสิทธิขายเสียงกันอีกหรือเปล่า..!