"วาสนา"อ้างกม.ลากยาวสอบโกงเลือกตั้งชี้"แม้ว"ผิด-ไม่ผิดสัปดาห์หน้า
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 13 เมษายน 2549 16:38 น.
วาสนา ยันกกต.ไม่เตะถ่วง ไม่เข้าด้วยช่วยเหลือพรรคใด อ้างบางครั้งการสอบสวนล่าช้าเพราะต้องรอบคอบและยังสามารถดำเนินการได้นานถึง 1 ปี ขณะที่ข้อร้องเรียน"ทักษิณ"ทำทุจริตเลือกตั้งเตรียมสรุปภายในสัปดาหน้า หลังถูกกระทุ้งหนัก
วันนี้( 13 เมษายน) พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ขู่ฟ้องอาญากกต.โดยให้เวลากกต. 3 วันให้พิจารณาสืบสวนสอบสวนเรื่องร้องเรียนการทุจริตเลือกตั้ง ว่า ก็ไม่เป็นไร แต่เรื่องนี้หากมีกรณีใดที่ผลการสืบสวนเสร็จแล้วกกต.ก็สามารถที่จะวินิจฉัยได้ อย่างไรก็ดี บางครั้งแม้เรื่องที่สอบสวนเสร็จแล้วหากที่ประชุมกกต.เห็นว่ายังมีประเด็นที่น่าสงสัยก็สามารถสั่งให้สอบสวนข้อมูลเพิ่มเติมได้ซึ่งเป็นหลักการทั่วไปของการสืบสวนสอบสวน ไม่ใช่มีเจตนาที่จะดึงเรื่อง เอาไว้เพื่อประโยชน์ของใคร
อย่างไรก็ตามประธานกกต.ย้ำว่า การทำงานของกกต.มีเงื่อนเวลากำกับอยู่ เรื่องร้องเรียนเลือกตั้งสามารถพิจารณาได้ถึง 1 ปี เรื่องไหนสอบสวนเสร็จก่อน ก็พิจารณาวินิจฉัยก่อน เหมือนกับกรณีมีการจ้างวาน 3 คนให้ลงสมัครรับเลือกตั้งที่ จ.ตรัง ทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีคุณสมบัติ เมื่อเรื่องเสร็จก่อนและกกต.พิจารณาแล้วว่ามีพยานหลักฐานที่จะเอาผิดเพียงพอก็สั่งดำเนินการเอาผิดทางอาญา
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ขู่ว่าจะฟ้องร้องเอาผิด กกต.หากทำไม่เสร็จตามกำหนด ประธานกกต.กล่าวว่า ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นสิทธิที่จะทำได้ แต่ตนยืนยันว่าได้ทำตามกฎหมาย และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตใจ เมื่อ
ถามย้ำว่า มีบางประเด็นที่หมิ่นเหม่กับการทำผิดกฎหมาย พล.ต.อ.วาสนา กล่าวว่า ก็แล้วแต่จะคิด แล้วแต่จะมอง ปัญหาคือกกต.ได้ดำเนินการตามกฎหมายด้วยความสุจริตใจหรือไม่ ความคิดเห็นทางกฎหมายอาจจะมีความแตกต่างกันได้ เหมือนกับการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น ที่อาจจะมีคำพิพากษาลงโทษ แต่ศาลอุทธรณ์อาจจะยกฟ้อง แต่เมื่อเรื่องไปศาลฎีกาเรื่องเดียวกันนั้นอาจจะกลับมาลงโทษก็ได้ หรือพนักงานสอบสวนอาจจะสั่งฟ้อง แต่อัยการอาจจะเห็นต่างไม่ฟ้องก็ได้ ดังนั้น เรื่องความคิดเห็นทางกฎหมายจะไปบอกว่าความคิดเห็นอย่างนั้นผิด อย่างนี้ถูกคงพูดไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีการเลือกตั้งที่จ.กาญจบุรี ที่ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2548 ที่นายเรวัติ สิรินุกูล อดีตผู้สมัครส.ส.กาญจนบุรี พรรคไทยรักไทย กลายเป็นผู้สมัครคนเดียวหลังจากคู่แข่งจากพรรคมหาชนถูกตัดสิทธิการเป็นผู้สมัครก่อนที่กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง โดย กกต.สั่งให้เลือกตั้งใหม่ แต่ไม่มีการเปิดรับสมัครอีก ดังนั้น การตัดสินใจให้รับสมัครใหม่ใน 39 เขตอาจจะขัดกฎหมายเพราะไม่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใหม่ พล.ต.อ.วาสนา กล่าวว่า อยากชี้แจงว่าในกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 74 ระบุถึงการเลือกตั้งที่มีผู้สมัครคนเดียว ว่าจะต้องได้คะแนนถึง 20 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่ได้บอกรายละเอียดว่าจะต้องทำอย่างไรหากลงคะแนนเลือกตั้งรอบแรกแล้วไม่ได้ตามเกณฑ์ ว่าจะใช้ผู้สมัครรายเดิม หรือเปิดรับสมัคร ด้วยเหตุผลง่ายๆว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่เห็นชอบกับผู้สมัครรายเดิมที่ลงสมัครไปแล้ว แสดงว่าไม่เลือกคนดังกล่าวแล้ว กกต.จึงเห็นว่าควรจะเปิดโอกาสให้ผู้สมัครจากพรรคการเมืองอื่นได้เสนอตัวเข้ามาให้ประชาชนเลือก โดยไม่ได้ตัดสิทธิผู้สมัครคนเก่า เป็นการดำเนินการของกกต.ที่เป็นไปโดยความบริสุทธิ์ใจ ไม่คิดว่าจะเป็นการอุ้มใครหรือพรรคการเมืองใด
กรณีนายเรวัตินั้นเป็นเรื่องที่ยังไม่มีการรับรองผลการเลือกตั้ง แต่กฎหมายไม่ได้บอกเอาไว้ว่าจะต้องทำอย่างไร มาครั้งนี้ก็อาจจะบอกว่าแตกต่างกัน แต่ผมยืนยันได้ว่าไม่ได้ทำไปเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคนั้น พรรคนี้ ผมไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้นพล.ต.อ.วาสนา กล่าว
เมื่อถามว่า มีการเตรียมยื่นเรื่องต่อศาลปกครองให้สั่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ประธาน กกต.กล่าวว่า ตนคงตอบคำถามนี้ไม่ได้ ตนไม่เข้าใจว่าการเลือกตั้งจะเป็นโมฆะได้อย่างไร จะเอาเรื่องการทำธุรกรรมที่เป็นโมฆะมาจับกับกฎหมายเลือกตั้งอย่างไร จะเอาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายมาพิจารณากันอย่างไร และที่สำคัญตนไม่เห็นว่าการเลือกตั้งจะเป็นโมฆะได้อย่างไร การจัดการเลือกตั้งนั้น อย่าลืมว่ากกต.ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ทำตามกฎหมายและพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ดังนั้นการเลือกตั้งจะเป็นโมฆะได้อย่างไร ตนไม่กังวลเรื่องศาลปกครอง เพราะถือว่าบ้านเมืองไม่ใช่ของตนเพียงคนเดียว หากเกิดเรื่องขึ้นแล้วส่งผลกระทบ ก็ต้องกระทบคนทั้งประเทศ ไม่ใช่มีผลกระทบต่อตนเองเพียงคนเดียว
พล.ต.อ.วาสนา กล่าวว่า กกต.ยังมีเวลาที่จะพิจารณาเรื่องร้องเรียนทุจริตเลือกตั้ง เพราะการประกาศผลเลือกตั้งส.ส.ต้องทำตามกรอบของเวลา เรื่องร้องเรียนใดที่พิจารณาเสร็จแล้วกกต.ก็สามารถวินิจฉัยไปก่อนได้ ส่วนเรื่องใดยังไม่เสร็จก็ยังมีเวลาที่จะพิจารณาอีก 1 ปี ซึ่งไม่ใช่ว่ากกต.จะรอเวลาให้ใกล้ 1 ปีแล้วค่อยมาพิจารณา อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าการสืบสวนเรื่องร้องเรียนนั้นไม่ใช่ว่าจะดูว่าผู้ถูกร้องผิดหรือไม่ผิดตามข้อกล่าวหาเท่านั้น จะต้องดูหลักฐานพยานอื่นๆ และให้เวลาในการสืบสวนสอบสวนด้วย โดยขณะนี้เรื่องการจ้างวานพรรคการเมืองขนาดเล็กให้ลงสมัคร การร้องเรียนพรรคไทยรักไทยและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังพิจารณาสอบสวนสืบสวนไม่เสร็จ
เรื่องร้องเรียนของนายสุริยะใส กตะศิลา ตัวแทนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งร้องเรียนพ.ต.ท.ทักษิณ กำลังสืบสวนสอบสวนอยู่ วันหยุดผมก็ยังส่งเจ้าหน้าที่ลงสืบสวนหาข้อมูลในต่างจังหวัด ตั้งใจว่าสัปดาห์หน้าจะให้จบพล.ต.อ.วาสนา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.10 น. พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้เดินทางไปตรวจความเรียบร้อยการลงคะแนนเลือกตั้งส.ว.ล่วงหน้าที่ สำนักงานเขตพญาไท กทม. เพราะพล.ต.อ.วาสนา มีชื่ออยู่ในหน่วยเลือกตั้งที่ 42 เขตพญาไท ลำดับที่ 130 โดย พล.ต.อ.วาสนาได้ยืนเข้าคิวรอลงคะแนนกับประชาชนผู้มาใช้สิทธิคนอื่นๆ ซึ่งภายในคูหาเลือกตั้งนั้น กกต.กทม.ได้จัดคูหาเลือกตั้งกลับไปแบบเดิม หลังจากที่ในการเลือกตั้งส.ส.เมื่อวันที่ 2 .ย. ที่ให้ผู้ใช้สิทธิหันหลังออกข้างนอก ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นความลับ เพราะผู้ที่ยืนรอลงคะแนนเดาได้ว่าลงคะแนนเลือกใคร อย่างไรก็ตามในคูหาเลือกตั้งนั้นมีทั้งปากกา และตรายางไว้ให้ใช้ทำเครื่องหมายกากบาท ทั้งนี้ ประธาน กกต.ได้สอบถามความรู้ความเข้าใจของประชาชนเกี่ยวกับการใช้สิทธิซึ่งปรากฏว่าส่วนใหญ่เข้าใจการลงคะแนนดีว่าถึงแม้ กทม.จะมีส.ว.ได้ถึง 18 คน แต่สามารถกากบาทเลือกผู้สมัครได้เพียง 1 คนเท่านั้น
พล.ต.อ.วาสนา กล่าวว่า จากการตรวจความเรียบร้อยของการเลือกตั้งล่วงหน้า ส.ว.พบว่าส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและยังไม่มีเรื่องร้องเรียนพฤติกรรมที่ผิดปกติหรือเข้าข่ายผิดกฎหมายเข้ามา อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าการจัดเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้านั้นอาจจะน้อยเกินไป ทำให้ผู้มาใช้สิทธิต้องยืนเข้าคิวรอนานเกินไป หากเป็นไปได้ในการเลือกตั้งครั้งต่อๆไปควรจะมีการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ให้มากขึ้น ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้ต้องเพิ่มงบประมาณขึ้นบ้าง แต่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มาใช้สิทธิก็ถือว่ามีความจำเป็นที่จะต้องทำ
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนเชื่อว่าประชาชนให้ความสนใจและตื่นตัวมาลงคะแนนกันมากพอสมควร แต่อย่างไรก็ตามในการลงคะแนนนั้นตนอยากขอให้ผู้ใช้สิทธิระมัดระวังในการลงคะแนน เพราะช่องลงคะแนนเล็กมาก และเนื่องจากกทม.มีผู้สมัครถึง 260 คน