บก.ลายจุดท้าสพรั่ง ไม่หวั่นสู้คดีบนศาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด แกนนำกลุ่มพลเมืองภิวัฒน์ ซึ่งเคลื่อนไหวต่อต้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ร่วมกับแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ถูก พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. แจ้งข้อหาหมิ่นประมาท
 
ล่าสุด วันนี้ (31 ส.ค.) นายสมบัติ ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.สพรั่ง พร้อมกับเผยแพร่ในเว็บไซต์ www.nocoup.org

โดยระบุยศของ พล.อ.สพรั่งเป็น พล.ท.สพรั่ง  แม่ทัพภาคที่ 3 โดยระบุว่านั่นคือตำแหน่งที่แท้จริงของ พล.อ.สพรั่ง ส่วนตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ได้มาโดยมิชอบ เกียรติยศที่ได้รับภายหลังการทำรัฐประหารนั้น เป็นสิ่งที่มิควรได้รับ   

นายสมบัติระบุในจดหมายเปิดผนึกว่า

ดีใจที่ได้เป็นคดีความกับ พล.อ.สพรั่ง และจะขอเป็นทนายให้ตนเองในการสู้คดีบนชั้นศาล เพราะมีเรื่องจะซักถาม พล.อ.สพรั่ง หลายประการ และว่าหาก พล.อ.สพรั่ง รักและหวงแหนในศักดิ์ศรี ก็ขอเรียกร้องให้เคารพในศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ของคนไทยทั้งชาติด้วยเช่นกัน เพราะศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ 

"ระหว่างประชาชนที่ถูกอำนาจรัฐกระทำ กับ ผู้ปกครองที่ลุแก่อำนาจ ใครคือคนที่จะนิยามคำว่า “ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์” และหากเราต่างก็นิยามไปในทิศทางของตนเอง นิยามของทั้งสองฝ่ายจะเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร" นายสมบัติกล่าว   

 เมื่อครั้งที่ตนถูกจับขณะปราศรัยบนหลังคารถบรรทุก 6 ล้อ ที่ จ.เชียงราย นั้น ทหารซึ่งเป็นลูกน้องของ พล.อ.สพรั่ง ที่ถูกส่งมาจากกองทัพภาคที่ 3 ข่มขู่ว่าจะกระทำกับตนในฐานะที่เป็นศัตรูของชาติ และจะใช้อำนาจทางกฎหมายดำเนินการในระดับรุนแรงที่สุดเท่าที่กฎหมายจะเปิดช่องทางไว้ให้ และจะสอบสวนตนย้อนหลังไปตั้งแต่เกิด หรือ แม้กระทั่งโคตรเหง้าของตน 

"ท่านทราบหรือไม่ว่า ผู้อำนวยการกองข่าว กองทัพภาคที่ 3 ได้ให้ความกรุณากับผมอย่างไร ท่าน ผอ. กองข่าวกล่าวกับผมว่า หากท่านจะกลั่นแกล้งผมนั้นง่ายมาก เพียงแค่นำวัตถุผิดกฎหมายมาไว้ในตัวผม เช่น ยาเสพติด ฯ ขณะที่ควบคุมตัวในค่ายทหาร ผมก็ติดคุกหัวโตแล้ว แต่เขาไม่อยากทำ จริงๆ แล้วผมสับสนอยู่เหมือนกันว่า ผมจะเรียกการกระทำนั้นว่า ความกรุณาได้หรือเปล่า เหมือนกับที่ท่านพลโทสพรั่ง ให้สัมภาษณ์เรื่อง ยกเว้นโทษตายให้กับคนหลายคนแล้ว ส่วนเรื่องปืนกลยิงหมาที่สนามหลวงนั้น ผมในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่ใช้ชีวิตหลายเดือนที่ผ่านมาอยู่แถวสนามหลวง ผมบอกได้เลยว่า 'ท่านลุแก่อำนาจ' " นายสมบัติกล่าว  

ในช่วงท้ายของจดหมายเปิดผนึก นายสมบัติ ประกาศว่าจะขอขัดขืนต่ออำนาจรัฐซึ่งได้มาโดยไม่ชอบ

โดยเฉพาะ คณะทหารการเมือง คมช. จะขัดขวางการสืบทอดอำนาจของ คมช. และขัดขืนต่อกฎอัยการศึกที่มีการประกาศใช้หลังการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 เพื่อยืนยันศักดิ์ศรีแห่งพลเมืองไทย ซึ่งจะต้องอยู่เหนือความมั่นคงของ คมช. "และกรุณาอย่าถอนฟ้องผมในคดีนี้ เพราะนี่เป็นโอกาสที่เราทั้งสองจะได้พบกันที่ศาล"  นายสมบัติระบุในที่สุด