โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ประกาศว่าจะผันตัวเองไปทำงานด้านสังคม
วันที่ 29 ส.ค. ที่อาคารไอเอฟซีที ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อดีต ส.ส.กทม. พรรคไทยรักไทยที่ย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชาชน ได้ประชุมเพื่อวางโครงสร้างใหม่ โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานภาค กทม.พรรคไทยรักไทย ได้เป็นประธานในที่ประชุมเป็นครั้งสุดท้าย และประกาศว่าจะผันตัวเองไปทำงานด้านสังคม หลังจากถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี โดยระบุว่า ได้ทำภารกิจลุล่วง พาอดีต ส.ส.กทม.ถึงฝั่ง ด้วยการมาเป็นสมาชิกพลังประชาชนทั้งหมด พร้อมทั้งเปรยว่า มีความสบายใจอย่างมาก จากนี้จะไปเน้นทำงานด้านสังคมกับมูลนิธิไทยพึ่งไทย ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2540 โดยเดือนหน้าจะมีการจัดงานใหญ่ของมูลนิธิฯ
น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี อดีต ส.ส.กทม. พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า
อดีต ส.ส.กทม. พรรคไทยรักไทย ที่ย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชาชน ได้จัดวางโครงสร้างใหม่ และอยู่ระหว่างการคัดเลือกตัวประธานภาคคนใหม่ คาดว่าจะเป็นนายสุวัฒน์ วรรณศิริกุล หรือไม่ก็นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ จากนี้ไปจะมีการประชุมกันทุกวันพุธ ยืนยันว่า อดีต ส.ส.กทม.ทุกคน จะดำเนินงานภายใต้พรรคพลังประชาชนต่อไปแน่นอน ส่วนอดีต ส.ส.กทม.ที่ย้ายออกไปมีเพียง 2 คน คือ ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร และนายกฤษฎา สัจจกุล
จัดทัพอีสานสู้เกมสลายขั้วอำนาจ
ขณะเดียวกัน ได้มีการประชุมอดีต ส.ส.ภาคอีสาน พรรคพลังประชาชน โดย ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมเห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ทุกพรรคทุกกลุ่มให้ความสำคัญในพื้นที่ภาคอีสานเป็นอย่างมาก ล่าสุดได้มีความพยายามที่จะตั้งกลุ่มการเมืองขึ้นมา คือกลุ่มแทนคุณอีสาน เพื่อมุ่งสลายฐานเสียงของพรรคพลังประชาชน ถือเป็นการดำเนินการทางการเมืองแบบยุคเก่าๆ เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในช่วงหลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 ที่มีการรวมตัวของนักการเมืองกลุ่มต่างๆเข้าไปอยู่ด้วยกัน แล้วเชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจ ที่ประชุมภาคอีสานได้เห็นความสำคัญในเรื่องนี้ และมีมติร่วมกันว่า จะมีการจัดโครงสร้างการบริหารจัดการเรื่องผู้สมัคร ส.ส. และการเลือกตั้ง
นายประสพ บุษราคัม อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ สมาชิกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า
มั่นใจว่าจะได้ ส.ส. กลับมาไม่น้อยกว่าเดิม คือ 126 คน จาก 137 คน ในภาคอีสาน เนื่องจากพรรคเน้นนโยบายเป็นหลัก และเมื่อนายสมัคร สุนทรเวช ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชนคนใหม่ ก็มีเสียงตอบรับจากคนอีสานทันที ที่สำคัญ เมื่อดูผลโนโหวตรัฐธรรมนูญ ที่มีพื้นที่สีแดงไม่รับรัฐธรรมนูญ 17 จังหวัด ขณะที่สีเขียวมีแค่ 2 จังหวัด ประกอบกับคะแนนสงสารที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณด้วยแล้ว เชื่อว่าพรรคจะได้รับเลือกไม่ต่ำกว่าเดิม