นายกรัฐมนตรีได้ขอให้การประชุม ครม.เป็นประชุมลับอย่างไม่เป็นทางการ
วันที่ 28 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ในการประชุม ครม. ซึ่งมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอให้การประชุม ครม.เป็นประชุมลับอย่างไม่เป็นทางการ โดยใช้เวลานานประมาณ 1 ชม.ครึ่ง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกเรื่องการดำเนินการร่วมกับต่างประเทศหลายประเด็นมาเล่าให้ ครม.ฟังอย่างอารมณ์ดี อาทิ การเดินทางไปประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคผลการเยือนมาเลเซีย ตลอดจนการเดินทางไปในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงกรณีที่จะมีการลงนามความร่วมมือกับมาเลเซียน่าจะทำให้ช่วยแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ นายกฯยังแจ้งให้ ครม.ทราบถึงผลการหารือเพื่อเตรียมกำหนดวันเลือกตั้งร่วมกับทาง กกต.ว่า เท่าที่หารือกับทาง กกต.ก็เห็นพ้องกันว่าวันที่เหมาะสมที่จะจัดการเลือกตั้งคือวันที่ 23 ธ.ค. 50
ในหลวงมีพระพลานามัยสมบูรณ์
ด้าน นพ.วัลลภ ไทยเหนือ รมช.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.ว่าในการประชุม ครม.ครั้งนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีได้ขอประชุม ครม.ลับเป็นเวลา 2 ชั่วโมง โดยเล่าให้ ครม.ฟังถึงการเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าพระองค์ทรงมีพระสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ดี เสด็จพระราชดำเนินได้ มากขึ้นจึงมาเล่าให้ฟัง เพื่อให้คนไทยทุกคนมีความสุข ส่วนบรรยากาศในการประชุม ครม.ก็เป็นไปด้วยดี นายกรัฐมนตรีมีสีหน้ายิ้มแย้ม เพราะการประชุม ครม.ครั้งนี้ตรงกับวันเกิดของ พล.อ.สุรยุทธ์ โดยนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นตัวแทนนำทีม ครม. มอบกระเช้าดอกไม้และกล่าวอวยพรแก่นายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็กล่าวขอบคุณรัฐมนตรีทุกคนที่ร่วมมือร่วมใจกันทำงานเป็นอย่างดีจนงานประสบความสำเร็จ
หวั่นเกิดปัญหาเพราะเร่งเลือกตั้ง
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการกำหนดวันเลือกตั้งของนายกรัฐมนตรีและ กกต.ว่ามีความเป็นห่วงปัญหาที่จะตามมาจากการรีบเร่งกำหนดวันเลือกตั้ง เพราะควรพิจารณาถึงความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งที่จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยของ กกต. หาก กกต.ยังไม่ได้ประชุมหารือยืนยันความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง การออกมากำหนดวันเลือกตั้งอาจเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ การทำงานร่วมกันในทางการเมืองต้องดูความพร้อมโดยพิจารณาถึงกระบวนการต่างๆ ทั้งการจัดการเลือกตั้ง ความพร้อมของพรรคการเมือง โดยพิจารณาระยะเวลาที่เหมาะสม
ห่วงนายกฯ ปากไวคิดไม่รอบคอบ
“ถ้าผมเป็นรัฐบาล ไม่มีหน้าที่กำหนดวันเลือกตั้ง แต่ผมมีหน้าที่สนับสนุนคนที่จัดการเลือกตั้ง ต้องถามไปยัง กกต.ว่าพร้อมหรือยัง ไม่ใช่ผมจะกำหนดเองได้ มิฉะนั้นแล้วเดี๋ยวจะพลาด ถ้าพลาดแล้วเราเป็นผู้ใหญ่มันจะเสียคำพูด” น.ต.ประสงค์กล่าวและว่า การกำหนดวันเลือกตั้งจะต้องทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จ รัฐบาลจึงจะหารือกับ กกต. นอกจากนี้ควรปรึกษากับพรรค การเมืองเพื่อให้เกิดปัญหาทางด้านความพร้อม และเพื่อไม่ให้ซ้ำรอยการเลือกตั้งในปี 2548 รู้สึกเป็นห่วงไม่อยากให้นายกฯ พูดเร็วหรือคิดอะไรไม่รอบคอบ การกำหนดเวลาต้องระมัดระวังมาก คนพูดก็ต้องรับผิดชอบเอง ไม่ใช่เร่งให้เลือกตั้งเร็วจะได้พ้นจากตำแหน่งไป ถ้าพ้นหน้าที่ออกไปแล้วทิ้งปัญหาไว้เดี๋ยวจะอยู่บ้านอย่างไม่มีความสุขจึงไม่อยากให้นายกฯพลาดในเรื่องนี้”