“นพดล” เสนอหน้าการันตีเส้นทางการเงิน 1.7 พันล้าน ที่ใช้ในการซื้อกิจการสโมสรแมนฯซิตี้ ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย อ้างระเบียบการนั่งบริหารฟุตบอลอังกฤษเข้มงวด พร้อมให้ความร่วมมือตรวจสอบได้ทุกเมื่อ โอ้อวด “แม้
...วันนี้ (28 ส.ค.) นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายตระกูลชินวัตร กล่าวถึงกรณีที่คณะอนุกรรมการพิจารณาตรวจสอบทรัพย์สินของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่มี คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เป็นประธาน พบว่า มีการนำเงินบางส่วน จำนวน 1.7 พันล้านบาท จากบัญชีของนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร ไปซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ชิตี้ ว่า เงินดังกล่าวเป็นเงินที่ได้มาโดยชอบ และเป็นเงินคนละส่วนกับเงินที่ คตส.มีคำสั่งอายัดไปก่อนหน้านี้ จำนวน 7.3 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม ครอบครัวชินวัตรพร้อมให้ความร่วมมือในการพิสูจน์ทรัพย์ดังกล่าวอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่า นอกเหนือเงินจำนวน 1.7 พันล้านบาทดังกล่าวแล้ว เงินส่วนที่เหลือที่นำไปซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีราคากว่า 5,000 ล้านบาท มาจากไหน นายนพดล กล่าวว่า เงินที่เหลือได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของครอบครัวชินวัตร และได้มาโดยชอบ ซึ่งข้อกำหนดคุณสมบัติความเหมาะสมของบุคคล ที่เข้ามาซื้อสโมสรฟุตบอลในประเทศอังกฤษเอง ก็มีการตรวจตราอย่างเข้มงวด ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ปฏิบัติตามในกฎระเบียบทุกอย่าง
“ดังนั้น การที่ คตส.ตรวจพบเงินที่นำไปซื้อสโมสรฟุตบอล จำนวน 1.7 พันล้านบาท จะไม่มีผลกระทบต่อการซื้อหุ้นในสโมสรอย่างแน่นอน เนื่องจากกระบวนการการซื้อได้เสร็จสิ้นเด็ดขาดไปแล้ว ขณะนี้สโมสรมีจุดมุ่งหมายเดียว คือ ทำอย่างไรให้แมนฯซิตี้ ไต่ไปอยู่บนหัวตาราง และยิงประตูชนะทุกนัดเท่านั้น” นายนพดล กล่าว
คณะอนุกรรมการได้ตรวจสอบพบการโอนเงินของคนในครอบครัวชินวัตร กว่า 1.7 พันล้านบาท ไปยังประทศอังกฤษ เพื่อซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ใช่เงินที่กลุ่มชินวัตร-ดามาพงศ์ ได้มาจากการขายหุ้นชินคอร์ปให้กับเทมาเส็ก เมื่อเดือน ม.ค.2549 โดยเป็นเงินที่ได้มาก่อนการขายหุ้น และเป็นเงินที่คนในครอบครัวชินวัตรมีอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
ทั้งนี้ เงินดังกล่าวโอนออกไปจากประเทศไทยเมื่อเดือน เม.ย.2550 แต่ คตส.เพิ่งจะอายัดทรัพย์เมื่อ 11 มิ.ย.2550 ดังนั้น ในขณะนี้ คตส.จึงไม่มีอำนาจในการสั่งอายัดเงินจำนวนดังกล่าว