รวมใจไทย เปิดที่ทำการกลุ่ม
ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มก๊วนและพรรค การเมืองต่างๆ ที่คึกคักขึ้นหลังรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีผลบังคับใช้นั้น เมื่อเวลา 08.30 น. ที่อาคารถลาง ถนน หลานหลวง แกนนำกลุ่มรวมใจไทย ประกอบด้วย นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ นายพิมล ศรีวิกรม์ รวมทั้งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และนายอุทัย พิมพ์ใจชน ที่ปรึกษากลุ่ม ได้จัดพิธีทำบุญเปิดที่ทำการกลุ่มรวมใจไทย โดยมีการทำพิธีพราหมณ์ บวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ และทำบุญเลี้ยงพระ มีพระธรรมโกศาจารย์ (หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ) เจ้าอาวาสวัด ชลประทานรังสฤษฏ์ เป็นประธานพิธีสงฆ์ โดยมีบุคคลทางการเมืองหลายคนมาร่วมแสดงความยินดี อาทิ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ สมาชิกกลุ่มกรุงเทพ 50
ยัน 30 ส.ค.ได้ข้อสรุปควบรวมกลุ่ม
ภายหลังเสร็จพิธี นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ แกนนำกลุ่มรวมใจไทย แถลงว่า การประสานงานกับกลุ่มการเมืองต่างๆ เพื่อให้มาร่วมงานทางการเมืองด้วยกัน ยังคงดำเนินการต่อไป ขึ้นอยู่กับว่าจะสำเร็จหรือไม่ จะได้ความชัดเจนในวันที่ 30 ส.ค.นี้ ต้องยอมรับว่าในช่วงที่การเมืองมีปัญหามาก ทำให้การประสานงานกับกลุ่มการเมืองมีปัญหาเพิ่มขึ้นหลายเท่า แต่ยืนยันว่าไม่มีเรื่องตำแหน่งหรือผลประโยชน์อื่นเข้ามาเกี่ยวข้องในการรวมกลุ่ม แต่ถ้าให้พูดทุกครั้งที่มีการประสานงานกันคงไม่ได้ จะต้องประสานจนเรียบร้อยทั้งหมดแล้วค่อยพูดทีเดียว
“สมคิด” ให้ข้อคิดอย่าเน้นปริมาณ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษากลุ่มรวมใจไทย กล่าวว่า มาแสดงความยินดีกับนายประดิษฐ์เนื่องในโอกาสเปิดที่ทำการกลุ่ม โดยให้คำแนะนำไปว่าขอให้ เน้นคุณภาพ ทำการเมืองให้เป็นสถาบันการเมือง ถ้าในอนาคตเปิดเป็นพรรคการเมืองได้ ก็อยากให้ทำการเมืองที่เน้นคุณภาพ ไม่ใช่ปริมาณ ที่สำคัญขอให้เป็นพรรคที่เน้นผลประโยชน์ของประชาชน ไม่เป็นนอมินีใคร แต่ เป็นนอมินีคนไทยทั้งประเทศ ตนพร้อมสนับสนุนและคิดนโยบายดีๆ เพื่อช่วยประเทศให้พ้นวิกฤตการณ์ รวมถึงจะพยายามหาคนดี มีคุณภาพ มาช่วยงานกลุ่มรวมใจไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ แสดงว่าไม่จำเป็นต้องรวมกลุ่มการเมืองอื่นใช่หรือไม่ นายสมคิดตอบว่า ไม่ใช่ สถานการณ์การเมืองขณะนี้ต้อง การการรวมพลังเพื่อให้ประเทศพ้นวิกฤติ แต่จะรวมได้ หรือไม่ เป็นเรื่องที่แต่ละกลุ่มต้องไปหารือกันเอง