ปชป.อัดซ้ำ กกต.ปิดข้อมูลช่วยบางพรรค - ตลกปฏิรูปฉบับ แม้ว

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 12 เมษายน 2549 18:33 น.

ปชป.แฉพิรุธ กกต.ร่วมด้วยช่วยเหลือบางพรรค ปกปิดฐานข้อมูลพรรคนอมินี อัดคำพูด ทักษิณ ปลุกขวัญลูกพรรคคุยจะชนะประชาธิปัตย์ไปอีก 4 ชั่วชีวิต ว่าเป็นแค่คำพูดกลบเกลื่อนการแย่งชิงภายในไทยรักไทยเท่านั้น ชี้การเว้นวรรคเป็นการหลบหลังม่านอำพรางรุกกินรวบเบ็ดเสร็จมากขึ้นเท่านั้น ตลกปฏิรูปฯฉบับแม้ว

วันนี้ (12 เม.ย.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดรับสมัครผู้สมัครเวียนเทียนใหม่ ทั้งที่บางคนถูกตัดสิทธิ ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติงาน 2 มาตรฐาน นอกจากนี้ ในช่วงการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ขอข้อมูลเกี่ยวกับพรรคเล็ก แต่กลับถูก กกต.ยึกยักไม่ให้ข้อมูล โดยครั้งแรกที่ขอข้อมูล กกต.ให้มาเพียงแค่ 3 พรรคเล็ก โดยไม่ให้ข้อมูลพรรคอื่นๆ เนื่องจากระบุว่าไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม แต่ล่าสุดไปขอข้อมูลผู้สมัครพรรคเล็กอีกรอบ กกต.กลับระบุว่า มีการมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพิ่มเติม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ 1 เดือน กกต.ระบุว่า ไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม

นายองอาจ กล่าวว่า ผู้สมัครของพรรคเล็กในรอบหลังน่าจะป็นสมาชิกพรรคไม่ครบ 90 วัน และน่าจะถูกตัดสิทธิในหลายเขต เนื่องจากครั้งแรกที่ขอข้อมูลนั้น กกต.บอกว่าไม่มีข้อมูล จึงเป็นไปได้ว่าครั้งแรก กกต.โกหกพรรคประชาธิปัตย์ ว่าไม่มีฐานข้อมูลเพิ่มเติม หรือมาโกหกครั้งหลังว่ามีข้อมูลเพิ่มเติม อีกทั้ง กกต.ยังไม่ยินยอมให้ตรวจสอบข้อมูลการเป็นสมาชิกครั้งนี้อีก

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า กกต.พยายามเข้าไปช่วยเหลือพรรคบางพรรคหรือไม่ ในการแก้ไขฐานข้อมูลให้มีสิทธิลงสมัครหรือไม่ จากการตรวจสอบของพรรคประชาธิปัตย์ทราบว่ามีการแก้ไขฐานข้อมูล ให้มีสมาชิกพรรคครบ 90 วัน เพื่อไม่ให้พรรคไทยรักไทย แข่งขันพรรคเดียว และไม่ต้องใช้เกณฑ์ 20% โดยจากพฤติกรรมดังกล่าวจะทำให้การเลือกตั้งพิกลพิการมากขึ้น

นายองอาจ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า อีก 4 ชั่วชีวิตพรรคประชาธิปัตย์ก็ชนะพรรคไทยรักไทยไม่ได้ และพรรคประชาธิปัตย์จ้องทำลายพรรคไทยรักไทย โดยย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีวัตถุประสงค์ในการทำลายพรรคการเมืองใด แต่สิ่งที่ต้องการทำลายล้าง คือ ระบอบทักษิณที่ไม่ถูกต้อง เพราะความชั่วร้ายแผ่ขยายไปทุกองค์กรของสังคมไทย ก่อให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบาย และก่อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน

นายองอาจ กล่าวว่า ส่วนที่ระบุว่า อีก 4 ชั่วชีวิตจะชนะพรรคไทยรักไทยไม่ได้ นั้น ต้องถามว่าพรรคไทยรักไทยคิดจะซื้อเสียงอีก 4 ชั่วชีวิต หรือคิดจะขายสมบัติของชาติยาวถึง 4 ชั่วชีวิตหรือถ้าพรรคไทยรักไทยอยู่ถึงอีก 4 ชั่วชีวิต ไม่ทราบว่าวันนั้นจะยังมีชื่อประเทศไทยอยู่ในแผนที่โลกหรือไม่ หรือจะถูกขายให้เป็นสมบัติของประเทศไหนไม่ทราบ อย่างที่ทำมา เมื่อ 4-5 ปี ที่ผ่านมา

การคุยโวว่าจะอยู่ 4 ชั่วชีวิตน่าจะเป็นการออกมาสำทับลูกพรรคในพรรคที่กำลังระส่ำระสายแย่งชิงความเป็นใหญ่ในพรรค เพียงแค่ให้เป็นนายกฯ เพื่อให้นายกฯ ทักษิณได้ชักใย ก็ยังแย่งกันถึงเพียงนี้ คงไม่ต้องห่วงว่าทรัพย์สมบัติของบ้านเมืองจะถูกแย่งชิงขนาดไหน นายองอาจ กล่าว

นายองอาจ กล่าวว่า คำพูดของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เลขาธิการพรรคไทยรักไทย กล่าวในงานรดน้ำดำหัว พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาอีกครั้ง รวมทั้งคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ระบุว่า ไม่ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญหรือกติกาอย่างไร ก็พร้อมที่จะกลับมาอีกครั้งนั้น วิเคราะห์ได้ชัดเจนว่าการออกมาบอกเว้นวรรคนั้นเป็นการถอยเพื่อรุก ซึ่งเป็นแผนที่ชัดเจน ว่าถอยเพื่อให้กลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านชะลอการคัดค้าน ทั้งฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และฝ่ายค้าน

ทันทีที่ประกาศถอย แผนการที่จะกลับมาอีกครั้งหนึ่งก็เริ่มปรากฏชัด เห็นได้จากการที่พยายามเข้าไปคอรบงำสื่อของรัฐ สถานีวิทยุหลายรายการ ทั้งการเปลี่ยนผู้จัดรายการ และมีการจัดรายการปลุกระดมไม่ต่างจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม แต่อย่างใด ดังนั้น การถอยเพื่อรุกนั้น ขณะนี้พยายามคืบคลานเช็กบิลกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ และหลังจากนั้นคงพยายามจะหาทางจัดการกับพรรคฝ่ายค้านและนักวิชาการที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ผู้นี้ กล่าว

นายองอาจ กล่าวอีกว่า เหตุที่นายกฯมั่นใจว่าจะกลับมาได้อีก เพราะได้กุมกลไกทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ว่ากลไกบริหารประเทศจะเป็นยังก็ถูกนายกฯ กุมไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ ข้าราชการ สื่อมวลชนของรัฐ เศรษฐกิจ ตลาดเงิน ตลาดทุน เมื่อคุมได้ไมว่าเปลี่ยนกติกาอย่างไร ก็คงไม่สามารถหยุดยั้งระบอบทักษิณได้

ส่วนกรณีที่ ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง คณะทำงานด้านการเมืองและกฎหมายพรรคไทยรักไทย ไปยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์ ว่ากระทำการขัดกับประชาธิปไตย นายองอาจ กล่าวว่า โจรไม่มีสิทธิที่จะยื่นตรวจสอบบุคคลอื่น โจรหน้าจะยื่นตรวจสอบตัวเองในฐานะที่เป็นโจรปล้นประชาธิปไตยก่อนดีกว่า และยังเอารัฐธรรมนูญไปบิดเบือนดัดแปลงจนแทบจะจำไม่ได้ว่า รัฐธรรมนูญที่ถูกต้องดีงามเป็นอย่างไรแล้ว อย่างไรก็ตาม เชิญให้ไปยื่นเรื่องตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์ได้ และพรรคก็เปิดประตูรอให้ กกต.มาตรวจสอบการใช้งบการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ และเชื่อว่า จะตรวจสอบไปอีก 4 ชั่วชีวิตก็ไม่มีวันพบว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำอะไรขัดต่อการใช้งบของ กกต.

นายองอาจ กล่าวอีกว่า กรณีที่ นายโภคิน พลกุล รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เสนอกรอบปฏิรูปการเมือง นั้น เป็นเรื่องเลอะเทอะเหลวไหลของนายโภคิน ซึ่งไม่รู้ว่าไปรับจ๊อบที่ใครมาเพื่อจะเบี่ยงเบนประเด็น ซึ่งจะรู้ได้อย่างไรว่าสภาจะสามารถเปิดได้ และมี ส.ส.ครบ 500 คน หรือนายโภคินเตรียมทำตัวเป็นตีนโรงตีนศาล ไปช่วยเหลือใครที่จะหลีกเลี่ยงกฎหมาย ปัญหาประเทศชาติขณะนี้ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยพรรคไทยรักไทยและคณะ คือ ความพยายามที่จะทำให้เปิดสภาให้ได้โดยได้ ส.ส.ไม่ครบ 500 คน การที่ออกมาพูดเรื่องตุ๊กตาในการปฏิรูปการเมือง แก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ต้องใจร้อนที่จะรีบเป็นนายกฯรอให้เปิดสภาได้ก่อนก็ยังทัน