อะไรคือธรรมาภิบาล...? พุทธะอิสระ จวก พวกคนพาลไม่รู้จักธรรมาภิบาล เชื่อ ลุงตู่ห่วงบ้านเมือง

อะไรคือธรรมาภิบาล...? พุทธะอิสระ จวก พวกคนพาลไม่รู้จักธรรมาภิบาล เชื่อ ลุงตู่ห่วงบ้านเมือง

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย และอดีตแกนนำกปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊ก แสดงความเห็นทางการเมือง กรณี ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้ง 4 คำถามให้ประชาชนช่วยตอบ ก่อนจะมีนักการเมืองวิจารณ์กลับในประเด็นธรรมาภิบาล ที่นายกฯกังวลว่ารัฐบาลใหม่อาจมีปัญหาธรรมาภิบาล โดยพุทธะอิสระ ระบุว่า

"อะไรคือธรรมาภิบาล ตั้งแต่ท่านนายกออกมาตั้งคำถามกับประชาชนว่า เราจะป้องกันไม่ให้นักการเมืองที่ไม่มีธรรมาภิบาลเข้ามามีอำนาจได้อย่างไร ก็มีบรรดาลูกยก พ่อยก แม่ยก และลูกเหยียบ พ่อเหยียบ แม่เหยียบทั้งหลาย ต่างพากันออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นธรรมาภิบาลกันให้ขโมงโฉงเฉง บางคนที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้าท่านนายกถึงกับออกมาพูดว่า "นักการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาจะมีธรรมาภิบาลหรือไม่มี ก็เป็นเรื่องของประชาชน ไม่เกี่ยวอะไรกับนายก" "ประเทศนี้ไม่ใช่ของนายกคนเดียว เขาจะเลือกคนแบบไหนมาก็ช่างเขา หากไม่พอใจรออีก ๔ ปี ค่อยมาเลือกตั้งกันใหม่"
"จะรู้ว่านักการเมือง พรรคการเมือง มีธรรมาภิบาลหรือไม่ ก็ต้องรอให้เลือกตั้งเขามาก่อน" บางคนถึงขนาดโวยวายว่า "นายกจะมาพูดถึงธรรมาภิบาลได้อย่างไร ก็ตัวนายกเองยังปล้นอำนาจมาจากพวกได้รับการเลือกตั้งเลย" คำพูดเหล่านี้คือคำพูดของพวกไม่ชอบขี้หน้านายก ส่วนพวกที่ชอบหน้านายกก็จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า

"รอให้น้ำท่วมหลังเป็ดก่อน นักการเมืองประเทศนี้ถึงจะมีธรรมาภิบาล" "ถ้าจะหาธรรมาภิบาลจากนักการเมืองไทย งมหาเข็มในมหาสมุทรยังจะง่ายเสียกว่า" "หากนักการเมืองไทยมีธรรมาภิบาลแล้ว ทหารจะเอาเหตุผลอะไรมาปฏิวัติ" "จะมาถามหาธรรมาภิบาลอะไรกับพวกกินรวบประเทศไทย" "หากนักการเมืองมีธรรมาภิบาลจริง คดีทุจริตมันจะมีได้อย่างไร และคดีธรรมกายมันจะยืดเยื้อมาจนถึงวันนี้หรือ" "หากนักการเมืองและข้าราชการมีธรรมาภิบาล คนไทยคงจะมีความมั่งคั่งยั่งยืนมากกว่านี้" "เหตุที่บ้านเมืองมีปัญหามากมายเพราะประเทศไทยมีข้าราชการและนักการเมืองที่ไม่มีธรรมาภิบาล" บางคนถึงขนาดว่า "หากธรรมาภิบาลมันหายากนักจากนักการเมือง เช่นนั้นก็ไม่ต้องเลือกต้งเลือกตั้งมันก็ได้" "ทุกวันนี้ไม่มีนักการเมือง บ้านเมืองก็ไม่เห็นวอดวาย ผู้คนก็ไม่ต้องมาประท้วงให้วุ่นวาย ขืนปล่อยให้พวกนักการเมืองขี้โกง กินรวบประเทศไทยเข้ามามีอำนาจ เดี๋ยวประชาชนก็ต้องออกมาเดินขบวนขับไล่กันวุ่นวายอีกอยู่อย่างนี้แหละ พวกสุจริตชนไม่เห็นมีใครเดือดร้อน" เหล่านี้คือความคิดเห็นและคำวิพากษ์วิจารณ์ของพวกที่ชอบหน้าท่านนายก รวมความว่า ทั้งผู้ไม่เห็นด้วยและผู้เห็นด้วยกับหลักธรรมาภิบาล กำลังจะต่อสู้กันอย่างรุนแรงในด้านความรู้สึกนึกคิด เหล่านี้ล้วนเกิดมาจากข้าราชการ นักการเมือง ที่ไม่มี ธรรมาภิบาลทั้งสิ้น บ้านเมือง ผู้คน คงจะหาความสงบสุขร่มเย็นได้ยาก


แล้วคำว่าธรรมาภิบาลนี้เหมายความว่าอย่างไร ซึ่งมีอยู่ในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี ๒๕๔๒ ความว่า ธรรมาภิบาล หมายถึง การบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดี เป็นแนวทางสำคัญในการจัดระเบียบให้สังคมรัฐ ภาคธุรกิจเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งคลอบคลุมถึงฝ่ายวิชาการ ฝ่ายปฏิบัติการ ฝ่ายราชการ และฝ่ายธุรกิจ สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข มีความรู้รักสามัคคีและร่วมกันเป็นพลัง ก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน และเป็นส่วนเสริมความเข้มแข็งหรือสร้างภูมิคุ้มกันแก่ประเทศ เพื่อบรรเทาป้องกันหรือแก้ไขเยียวยาภาวะวิกฤติ ภยันตรายที่หากจะมีมาในอนาคต เพราะสังคมจะรู้สึกถึงความยุติธรรม ความโปร่งใส และความมีส่วนร่วม อันเป็นคุณลักษณะสำคัญของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สอดคล้องกับความเป็นไทย รัฐธรรมนูญ และกระแสโลกยุคปัจจุบัน โดยมีหลักการพื้นฐานของการสร้างธรรมาภิบาลอยู่ ๖ ประการคือ (๑) หลักนิติธรรม ได้แก่ การตรากฎหมาย กฎข้อบังคับต่างๆ ให้ทันสมัยและเป็นธรรม เป็นที่ยอมรับของสังคมและสังคมยินยอมพร้อมใจปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ข้อบังคับเหล่านี้ โดยถือว่าเป็นการปกครองภายใต้กฎหมายมิใช่ตามอำเภอใจหรืออำนาจของตัวบุคคล ๒) หลักคุณธรรม ได้แก่ การยึดมั่นในความถูกต้องดีงาม โดยรณรงค์ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐยึดหลักนี้ในการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นตัวอย่างแก่สังคมและส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนพัฒนาตนเองไปพร้อมกัน เพื่อให้คนไทยมีความซื่อสัตย์ จริงใจ ขยัน อดทน มีระเบียบวินัย ประกอบอาชีพสุจริตเป็นนิสัยประจำชาติ

(๓) หลักความโปร่งใส ได้แก่ การสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันของคนในชาติ โดยปรับปรุงกลไกการทำงานขององค์กรทุกวงการให้มีความโปร่งใส มีการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์อย่างตรงไปตรงมาด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้สะดวกและมีกระบวนการให้ประชาชนตรวจสอบความถูกต้องชัดเจนได้ (๔) หลักความมีส่วนร่วม ได้แก่ การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้และเสนอความเห็นในการตัดสินใจปัญหาสำคัญของประเทศ ไม่ว่าด้วยการแจ้งความเห็น การไต่สวนสาธารณะ การแสดประชามติ หรืออื่นๆ (๕) หลักความรับผิดชอบ ได้แก่ การตระหนักในสิทธิหน้าที่ ความสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคม การใส่ใจปัญหาสาธารณะของบ้านเมืองและกระตือรือร้นในการแก้ปัญหา ตลอดจนการเคารพในความเห็นที่แตกต่าง และความกล้าที่จะยอมรับผลจากการกระทำของตน (๖) หลักความคุ้มค่า ได้แก่ การบริหารจัดการและใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดเพื่อให้เป็นประโยชน์สูงสุดแก่ส่วนรวม โดยรณรงค์ให้คนไทยมีความประหยัดใช้ของอย่างคุ้มค่า สร้างสรรค์สินค้า และบริการที่มีคุณภาพสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก และรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ยั่งยืน

สรุปความว่าหลักธรรมาภิบาลดังกล่าวนี้ มีกำหนดไว้ในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการสร้างระบบบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดี พ.ศ.๒๕๔๒ สมัยนายชวนหลีกภัยแล้วล่ะพี่น้อง ไม่ใช่สิ่งใหม่ที่ท่านนายกประยุทธ์กำหนดขึ้นเลย เมื่อหลักการธรรมาภิบาลนี้มันมีมาเนิ่นนานแล้วทำไมบ้านเมืองยังวุ่นวายยุ่งเหยิงจนทหารต้องออกมาปฏิวัติ ตอบง่ายมาก ก็เพราะพวกนักการเมืองและข้าราชการทั้งหลายไม่กระทำตามหลักธรรมาภิบาลไง ท่านนายกประยุทธ์เขาห่วงบ้านเมือง ไม่อยากให้บ้านเมืองต้องกลับมาวุ่นวายยุ่งเหยิงอีก เขาจึงออกมาตั้งคำถามว่า หากการเลือกตั้งครั้งต่อไปนี้นักการเมืองไม่มีธรรมาภิบาลอีก แล้วประชาชนจะแก้ปัญหากันอย่างไร ทำเอาพวกที่ไม่เคยรู้จักธรรมาภิบาลเลยพากันออกมาโวยวายฟาดหัวฟาดหางใส่ท่านนายกกันอย่างไม่ไว้หน้า นี่แหละที่เขาเรียกสันดานคนพาลล่ะ


ที่มา: มติชน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์