ปฏิรูปฯฉบับ แม้ว เริ่ม - โภคิน ชงเองอ้างใช้ 120 คนกลางร่วม
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 11 เมษายน 2549 18:51 น.
พรรคไทยรักไทย เดินหน้าปฏิรูปการเมือง ฉบับ แม้ว ตั้ง โภคิน หัวเรือใหญ่แก้ไขรัฐธรรมนูญ เตรียมเสนอคนกลาง 120 คน อ้างจะมาจากทุกสาขาอาชีพโดยยึดรูปแบบการคัดเลือกแบบเดียวกับการคัดเลือกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจฯ ขณะเดียวกัน เตรียมเสนอร่างแก้ไขขึ้นมาเป็นตุ๊กตาให้สังคมได้วิจารณ์ก่อนเสนอเข้าสภา
วันนี้ (11 เม.ย.) นายโภคิน พลกุล รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แถลงถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค ภายหลังมีข่าวว่า พรรคปฏิเสธรูปแบบสมัชชาสนามม้า ที่ตนเองนำเสนอว่า ไม่เป็นความจริง คณะผู้บริหารเพียงแต่เป็นห่วงว่ารูปแบบที่นำเสนอไปนั้น จะมีอิสระและได้คนที่เป็นกลางอย่างแท้จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม รูปแบบที่พรรคเตรียมนำเสนอล่าสุดนั้น จะให้มีตัวแทนจากคนกลางจำนวน 120 คน โดยอิงกฎหมายสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมเป็นหลัก โดยองค์ประกอบมาจาก 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มภาคเศรษฐกิจ กับ ภาคสังคม อย่างละ 40 คน และก็มีกลุ่มภาคเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีจำนวนมาก อีกประมาณ 20 คน โดยตัวแทน 100 คนนี้เป็นคนละอาชีพกัน ดังนั้น โอกาสที่จะถูกบล็อกเป็นเรื่องยาก
นายโภคิน กล่าวต่อว่า ส่วนตัวแทนจังหวัด จะให้องค์กรอาชีพ ซึ่งเราจะให้มาจดทะเบียน โดยจะใช้แบบเดียวกับสภาที่ปรึกษาฯ แล้วเราจะให้หน่วยธุรการที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียน ประกอบด้วย เลขาธิการ 5 องค์กร คือ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการวุฒิสภา เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการสภาที่ปรึกษาฯ ตั้งเป็นองค์กรร่วมในการดูหลักเกณฑ์ตรงนี้ ส่วนอีก 20 คนที่เหลือ เราก็จะใช้แนวทางของ ส.ส.ร.โดยส่วนแรกมาจากผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมหาชน นักรัฐศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญในการบริหารราชการแผ่นดิน หรือ นักสังคมศาสตร์ รวมถึงอดีต ส.ส.ร.ส่วนที่ 2.จากตัวแทนของศาล เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ศาลยุติธรรม ส่วนที่ 3.ตัวแทนองค์กรอิสระอีก 7-8 องค์กร
รูปแบบนี้เบื้องต้นเป็นตุ๊กตา จะเหมาะสมหรือไม่ ก็มาว่ากัน แต่ต้องเสนอให้สังคมเห็นก่อนเพื่อให้วิจารณ์ได้ แต่พรรคยืนยันว่า เราไม่มีความต้องการที่จะครอบงำการยกร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้เหมือนที่เป็นข่าว เพียงแต่คณะผู้บริหารกังวลว่า ที่ผมเสนออย่างนี้ จะมีใครหาว่า ครอบงำอะไรได้อีกไหม พรรคเข้าไปเกี่ยวข้องได้อีกไหม นายโภคิน กล่าว
นายโภคิน กล่าวว่า สัปดาห์หน้าหลังเทศกาลสงกรานต์ พรรคจะพยายามเอาต้นร่างมาเสนอต่อสาธารณะว่าใช้ได้หรือไม่ เป็นคนกลาง อิสระจริงหรือไม่ เพื่อให้วิจารณ์ ช่วงนี้เป็นช่วงเหมาะที่สุด เพราะกว่าสภาจะเรียบร้อย เราก็มาดีเบตตุ๊กตาตัวนี้เสียก่อน ยืนยันว่า พรรคไทยรักไทยไม่ต้องการไปแทรกแซง หรือไปยุ่งอะไร และจะไม่เอากลับมาให้รัฐสภาเห็นชอบ แม้แต่ยกร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเปิดโอกาสให้ภาคสังคมมีส่วนร่วมกับการยกร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้อย่างไร นายโภคิน กล่าวว่า พอเราร่างเสร็จ ก็นำเสนอต่อสื่อ ท่านก็เอาไปเสนอต่อสังคม ก็จะมีข้อวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา เราก็จะรับเพื่อไปปรับปรุงข้อบกพร่อง แต่ถ้าเราไม่เอาตุ๊กตามาก่อน ก็ไม่รู้จะวิจารณ์กันอย่างไร อย่างไรก็ตาม พอสภาเปิดก็ต้องให้วุฒิสภาพร้อมด้วย ตอนนั้นก็อาจจะมีญัตติแก้รัฐธรรมนูญในร่างของเรา แต่ถ้าใครมีข้อเสนออะไรที่ดีกว่า เราก็จะเอาตามนั้น แต่ถ้าอันไหนมีปัญหา เราก็ต้องชี้แจง ที่แน่ ๆ เราต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม โดยในชั้นยกร่าง ถ้าได้คนกลางมาแล้ว โดยไม่มีข้อสงสัย จากนั้นในขั้นการพิจารณาแก้มาตรา 313 ซึ่งจะมีคณะกรรมาธิการวิสามัญที่จะมาแก้ไข โดยปกติพรรคก็จะถูกต่อว่า ว่า เราครอบงำทั้งหมด เพราะเรามี ส.ส.ส่วนใหญ่อยู่พรรคไทยรักไทย เราก็คิดทางออกว่า เราอาจจะงดเว้นข้อบังคับการประชุมรัฐสภา เราก็จะขอแก้ข้อบังคับ ขอให้มีคนนอกเข้ามา เช่น สมมติจะมีจำนวนคณะกรรมาธิการวิสามัญ 50 คน เราอาจจะชวนตัวแทนพรรคการเมืองทุกพรรค ที่จดทะเบียนกับ กกต.ทั้งยังมีตัวแทนจากสื่อมวลชนให้หลากหลายเข้ามาดูเพื่อให้ได้ คนกลางมายกร่างรัฐธรรมนูญ อีกที เท่ากับว่า เราเปิดสองรอบ รอบแรกเรกไม่ต้องการให้เราเป็นเสียงข้างมาก ให้ว่าไปตามกรรมาธิการ ดังนั้น จึงไม่มีประเด็นใดๆ ที่จะถูกต่อว่าได้
ส่วนที่มีข่าวว่า พรรคมอบหมายให้นายโภคินนำไปปรึกษากับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นั้น ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษนั้น นายโภคิน กล่าวว่า ตนไม่อยากไปเอ่ยถึงบุคคลอื่น มันไม่เหมาะสม และยิ่งท่านเป็นถึงประธานองคมนตรี แต่โดยหลักเมื่อร่างมาแล้ว เราก็เสนอต่อสาธารณะ ท่านใดเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง เช่น อดีตนายกฯ อย่าง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายบรรหาร ศิลปอาชา หรือ อดีตประธานศาลฎีกาต่าง ๆ ตนอาจจะไปหารือก็ได้ในช่วงที่เราเอาร่างรัฐธรรมนูญไปฟังความเห็นประชาชน เพื่อให้ได้คำตอบว่า คนกลางที่ดีที่สุด ควรเป็นอย่างไร
สำหรับกรณีที่หลายฝ่ายห่วงว่า สภาจะไม่ครบ 500 คนนั้น นายโภคิน กล่าวว่า ตนคงตอบไม่ได้ เป็นเรื่องของการเลือกตั้ง และ กกต.แต่อย่าลืมว่า สมมติ ถ้าได้ ส.ส.ครบในช่วงสิ้นเดือน ก็ต้องรอ ส.ว.ชุดใหม่อีก ซึ่งกว่าจะประกาศรับรองได้เสร็จ 200 คน ก็ไม่รู้เมื่อไร ดังนั้น การจะเริ่มกระบวนการได้ก็ต่อเมื่อสองสภาเรียบร้อยทำหน้าที่ได้ตามรัฐธรรมนูญ พร้อมเมื่อไรก็ต้องเรียกประชุมสองสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 313 ทันที ระหว่างที่เราเตรียมก็นำเสนอร่างของเราต่อสังคมเพื่อดูข้อบกพร่อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ ที่สนับสนุนรัฐบาลจะมีโอกาสร่วมด้วยหรือไม่ นายโภคิน กล่าวว่า แล้วแต่ เพราะเราอิงกฎหมายสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจฯ แล้วแต่เขา เขาก็อาจจะไปจดทะเบียนจัดตั้งเพิ่มเติมก็ได้ เราเปิดโอกาสในช่วง 15 วัน ว่า ใครอยากจะมีส่วนร่วม ก็ไปจดทะเบียนจัดตั้งเป็นองค์กรซะ และเสนอตัวแทนมาได้ ตัวแทนละ 1 คน พอเลือกกันแล้วก็ห้ามซ้ำอาชีพ ซ้ำองค์กร แต่เขาจะทำหรือไม่ ตนตอบไม่ได้ ความจริงมันอาจจะมีอาชีพอื่นอีก