อภิสิทธิ์ ลั่นไม่หวั่น บิ๊กจิ๋ว

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี อาจจะกลับเข้าสู่การเมือง


หลังมีหลายกลุ่มการเมืองเข้าไปทาบทามให้มาเป็นหัวหน้าพรรคว่า ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ พล.อ.ชวลิต ถ้าอยากจะสมัครรับเลือกตั้งก็เป็นสิทธิอยู่แล้ว ตนไม่มีความหวั่นไหวและวิตกใดๆทั้งนั้น เพราะเป็นนักการเมืองในวิถีทางนี้ อาสามาตรงนี้ ถ้าการเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม ใครจะลงมาก็ยินดีจะได้มาแข่งขันกันเพื่อนำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับบ้านเมืองและประชาชน ส่วนที่ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ระบุว่าการที่ตนเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะต้องการหาประโยชน์ในการเลือกตั้งนั้น อย่าไปกังวลตรงนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะไปแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนการเลือกตั้ง และตนไม่มีประวัติที่จะไปทำเพื่อตัวเอง เรื่องนี้เป็นการพูดถึงกติกาของประเทศในระยะยาว

ชวน ดักคอกลโกงซื้อเสียงรุนแรง

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปัจจัยในการลงประชามติกับการเลือกตั้งต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงมีขึ้นและอาจจะรุนแรงมากกว่าเดิมคือการซื้อเสียง เพราะกลุ่มอำนาจเก่าจะยังคงใช้วิธีนี้ และไม่เกรงกลัวกฎหมาย เห็นได้จากการที่กลุ่มนปก.บุกไปชุมนุมกันที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ และการซื้อเสียงจะเกิดขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอน ตรงนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องรีบแก้ไข และจะมีการซื้อในพื้นที่ภาคใต้ด้วย


ชท.ตีปีกเลือกตั้งใช้กติกาใหม่


นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึง การรวมกลุ่มของกลุ่มมัชฌิมากับกลุ่มรวมใจไทยว่า เป็นปรากฏการณ์ที่พรรคชาติไทยคาดการณ์ไว้แล้ว จึงไม่ใช่ เรื่องแปลก และไม่มีผลกระทบต่อพรรคชาติไทย โดยพรรคต้องดูที่มั่นในภาคกลาง และพื้นที่ที่เคยมี ส.ส.อยู่ การเลือกตั้งครั้งนี้เราสู้เต็มที่ เพราะจะเป็นกติกาใหม่ เขตเลือกตั้งใหม่ ระบบสัดส่วนใหม่ และโทษในการทุจริตเลือกตั้งก็ไม่เหมือนเดิม ฉะนั้นผลการเลือกตั้งจะให้เหมือนเดิมคงไม่มีทาง เชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬาร และมีการเดิมพันใหญ่หลวง แต่พรรคชาติไทยต้องการประสานใจให้เกิดขึ้น


เตรียมตั้งศูนย์บัญชาการเลือกตั้ง


นายนิกรกล่าวว่า วันที่ 27 ส.ค. นี้ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย จะเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พร้อมปรับเปลี่ยนคณะกรรมการนโยบายพรรคเป็นศูนย์ บัญชาการการเลือกตั้งอย่างเต็มรูปแบบ โดยจะกำหนดความรับผิดชอบในการเลือกตั้งแบบสัดส่วนทั้ง 8 กลุ่ม และกำหนดตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต สำหรับนโยบายการเลือกตั้งจะยึดหลัก “พรรคชาติไทยประสานใจเพื่อพัฒนาชาติ” แบ่งเป็น 3 ระดับคือ 1. การพัฒนาคน เน้นที่ด้านการศึกษาและการมีรายได้ของประชาชน 2. การพัฒนาสังคมและความเป็นอยู่ เน้นไปที่สาธารณสุข สาธารณูปโภคและสาธารณูปการ 3. การพัฒนาประเทศ เน้นที่ด้านเศรษฐกิจ การเกษตร


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์