กกต.ยื้อชี้ชะตา"ทักษิณ"-ก่อน 2 พ.ค.รู้ผลแน่
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 11 เมษายน 2549 23:29 น.
กกต.ยื้อชี้ชะตาทักษิณให้ความหวังปชช.ก่อน 2 พ.ค. รู้แน่ ส่งเลขาฯ รับหน้ากองทัพสื่อ ผลสรุป 5 ชั่วโมงเสียเวลา ไร้คำตอบ เหตุอนุกรรมการบ้อท่าเสียเวลาไล่สอบเทศกิจ ตำรวจ แม่ค้า และคาราวานคนจน ว่าทำนายกฯทำผิดกม.เลือกตั้งตามข้อกล่าวหาพันธมิตรจริงหรือไม่
พล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา เลขาธิการกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงภายหลังการประชุม กกต.ว่าที่ประชุมได้มีการพิจารณา ผลการสอบสวนข้อเท้จริงของคณะ อนุกรรมการสืบสวนสอบสวน กรณี พันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำผิกฎหมายเลือกตั้งและกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาว่า มีการแก้ไขฐานข้อมุลพรรคการเมืองเพื่อให้พรรคการเมืองขนาดเล็ก มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งโดยที่ประชุมมีมติ ให้เลขาคณะอนุกรรมการไปสอบสวนเพิ่มเติม
โดยในประเด็น การกล่าวหานายกรัฐมนตรีนั้น พันธมิตรฯได้ร้องมา 7ประเด็น กกต.เห็นว่า ข้อมูลที่มีความชัดเจน และยุติแล้ว มี 3 ประเด็น แต่ไม่สามารถบอกได้ว่า เป็นประเด็นใดบ้าง หากต้องการทราบให้ถาม กกต. ส่วนอีก 4 ประเด็น ให้มีการสอบพยานแวดล้อมเพิ่มเติม ซึ่งทั้ง 4 ประเด็น เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตาม มาตรา 44 อนุ 1 และ 2 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้ง คือการใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้ได้รับการเลือกตั้ง ส่วนกรณีของนายสุเทพ นั้นให้ไปสอบพยายนบุคคลเพิ่มเติมที่ต่างจังหวัด และให้รายงานมายัง กกต.ในวันนี้ เวลา 10.00 น. แต่ก็ไม่สามารถยืนยีนได้ว่า จะสรุปผลในคดีนี้ในวันเดียวกันได้หรือไม่
ส่วนกรณีกล่าวหานายกฯกระทำผิดใน 4 ประเด็น มีอะไรบางนั้น เลขา กกต.กล่าวว่า ไม่สามารถเปิดเผยได้ เมื่อถามต่อว่า พยานแวดล้อมที่ให้สอบเพิ่ม ร่วมถึงกรณีที่แม่ยายนายกฯ และนายกฯ ด้วยหรือไม่ เลขากกต.กล่าวว่า กรณีแม่ยายนายกฯ จ่ายเงิน 20 บาท ซื้อของแจกให้คาราวานคนจนนั้น ให้ไปสอบพยานเพิ่มเติม เพราะที่ไปสอบมา คือ ไปสอบพยานมาเป็นร้อยปาก สำนวนตั้งเบ้อเริ่ม ทั้งเทศกิจ และตำรวจ ที่อยู่ในเหตุการณ์และเขาฟังอยู่ ซึ่งตอนนี้ยังไม่เพียงพอ จึงขอเวลาไปสอบพยานแวดล้อมในเหตุการณ์เพิ่มเติมอีก
เมื่อถามว่าเวลา 10 วันที่ขยายเวลามา ทำไมไม่เรียกสอบทั้งตัวแม่ยายนายกฯ และนายกฯ เลย แต่กลับไปเสียเวลาสอบเทศกิจ และพยายนแวดล้อม เลขากกต.กล่าวว่า พยานมาก เขาไปปราศรัยหลายที่เราก็ต้องไปฟังคนที่เขารับฟังคำปราศรัย ประเด็นที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่ ก็ต้องลงไปสอบ ผู้ว่าฯ นายอำเภอ ซึ่งถ้าข้อมูลหลักฐานชี้ชัดว่า เกี่ยวข้องกับทั้งสองคน ก็จะเรียกมาสอบ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น การทำงานของอนุกรรมการไม่ได้กำหนดเวลา เพราะ มีการสอบพยานเยอะมาก แต่ก็ให้สรุปโดยเร็ว ซึ่งตนก็คิดว่าต้องเสร็จก่อนรับรองผลเพราะผู้ถูกร้องเป็นผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อ
เมื่อถามว่า กรณีที่นายกฯให้เงินกับนักเรียนในงานอาชีวะสร้างชาติ ต้องเรียน นายจุตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ มาสอบหรือไม่ พล.ต.ต.เอกชัย กล่าวว่า ประเด็นนี้ไม่มีปัญหา เขามีหลักฐานเป็นใบเสร็จรับเงินชัดเจน ตั้งนานแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กกต.ได้เริ่มประชุม เมื่อเวลา 16.00 น.ทั้งที่ได้นัดกันไว้ว่า จะประชุมเวลา 14.00 น. และการประชุมเสร็จสิ้นเมื่อเวลาประมาณ 19.10 น. โดย พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต.ได้แจ้งให้ผู้สื่อข่าวทราบว่า ได้มอบให้ พล.ต.ต.เอกชัย ในฐานะเลขากกต.เป็นผู้แถลง ซึ่งเลขากกต.ได้แจ้งให้ผู้สื่อข่าวมารอที่ห้องแถลง ทำให้ผู้สื่อข่าวตั้งตารอเจ้าหน้าเปิดห้องแถลงเตรียมตั้งแต่เวลา 19.20. น. แต่เมื่อเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง ก็ยังไม่ลงมาแถลง ผู้สื่อได้ติดต่อไปยัง กกต.คือ นายปริญญา นาคฉัตรีย์ เพื่อขอทราบผลการประชุม แต่นายปริญญาได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยบอกว่าได้มอบให้เลขากกต.เป็นผู้แถลงก่อนที่จะตัดสายทิ้งไปทันที ทำให้กองทัพผู้สื่อข่าวพร้อมใจกันขึ้นไปรอสัมภาษณ์ที่หน้าห้องทำงานของเลขากกต. และเมื่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่หน้าห้องเลขา ก็ได้รับแจ้งว่ากำลังร่างคำแถลง เพราะต้องลำดับความคิด
อย่างไรก็ตาม จนเมื่อเวลา 21.20 น. เลขากกต.จึงยอมออกมาพบนักข่าวอย่างเสียไม่ได้ โดยให้ผู้สื่อข่าวตั้งคำถามแทนการแถลง ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวได้ตั้งคำถามเพื่อให้ได้ข้อเท็จริง เลขา กกต.ก็จะพยายามบ่ายเบี่ยงโดนโยนให้ไปถามกับกรรมการ โดยอ้างว่าไม่ใช่หน้าที่ของตน เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามจะบอกว่า กกต.มอบให้ท่านเลขาแถลง พล.ต.ต.เอกชัย ก็กล่าวว่า เขาให้ผมแถลงแค่นี้