สรุปเลือกตั้งรอบสอง ทรท.ลุ้น20%ถึง16เขต

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 12 เมษายน 2549 02:44 น.

คณะกรรมกรรมการการเลือกตั้งทยอยตัดสิทธิผู้สมัครพรรคเล็ก ส่งผลให้พรรคไทยรักไทยต้องลุ้นคะแนน 20 เปอร์เซ็นต์ พุ่งจากเดิม 11 เขต ล่าสุดเพิ่มเป็น 16 จาก 38 เขตแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันสุดท้ายของการพิจารณาคุณสมบัติของการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง และประกาศให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.39 เขตเลือกตั้ง ใน 16 จังหวัด ของผู้อำนวยการประจำเขตเลือกตั้ง(ผอ.กต.เขต)ต่างๆ ซึ่งปรากฏว่า เขตเลือกตั้งที่มีการตัดสิทธิการสมัครของผู้สมัคร ประกอบด้วย จ.นนทบุรี เขต 3 ตัดสิทธิ นายพงศ์พิชาญ โรจนสุวรรณ ผู้สมัครพรรคพลังประชาชน เนื่องจากยังมีชื่อเป็นผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 2 ของพรรค

น.ส.ยุพาภรณ์ มากกิตติ ผู้สมัครพรรคประชากรไทย เนื่องจากยังมีชื่อเป็นผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 7 ของพรรค นางศุภวัลย์ สร้างเขตร์ ผู้สมัครพรรคคนขอปลดหนี้ เนื่องจากสังกัดพรรคไม่ครบ 90 วัน จ.ตรัง เขต 2 นายสุชาติ ห่วงจริง พรรคประชากรไทย นายโยธิน พรัดเมือง พรรคคนขอปลดหนี้ สังกัดพรรคไม่ครบ 90 วัน ส่วนเขต 4 นายวิรัช ยิ้มเที่ยง ผู้สมัครพรรคประชากรไทย สังกัดพรรคไม่ครบ 90 วัน

จ.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 จ.ส.ต.บุญศรี เมืองมีบัว พรรคคนขอปลดหนี้ สังกัดพรรคการเมืองไม่ครบ 90 วัน จ.ชุมพร เขต 1 ตัดสิทธิ นายอาคม หญีตน้อย ผู้สมัครจากพรรคเกษตรไทย เนื่องจากมีชื่อเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเขต 2 ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา จ.ปัตตานี เขต 1 ตัดสิทธินายยาฮรี จิณรงค์ ผู้สมัครจากพรรคไทยช่วยไทย เนื่องจากเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่ครบ 90 วัน จ.พังงา เขต 1 ตัดสิทธิ นายสุริยน หมีเหม ผู้สมัครจากพรรคชีวิตที่ดีกว่า เนื่องจากไม่พบชื่อว่าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด

จ.พัทลุง เขต 2 ตัดสิทธิ นางจันทรา ตั้งปกาศิต ผู้สมัครจากพรรคคนขอปลดหนี้ เนื่องจากไม่พบชื่อการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด เขต 3 ตัดสิทธิ นายสวาท เดชเจริญ ผู้สมัครจากพรรคชีวิตที่ดีกว่า เนื่องจากไม่พบชื่อการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด จ.ภูเก็ต เขต 1 ตัดสิทธิ นายถาวร เพิ่มพูน ผู้สมัครพรรคไทยช่วยไทย และส.ต.อ.พันยา บริรักษ์ ผู้สมัครพรรคพัฒนาชาติไทย เนื่องจากศาลฎีกาเคยเพิกถอนการสมัคร เนื่องจากไม่พบชื่อเป็นสมาชิกการเมืองใดในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว

จ.ยะลา เขต 1 ตัดสิทธินายอ้วน เจียรบุตร ผู้สมัครพรรคเพื่อนเกษตรไทย เนื่องจากมีชื่อเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเกินกว่า 1 พรรค จ.สงขลา เขต 2 ตัดสิทธิ น.ส.กนกพร สวัสดิ์ฤทธิรณ ผู้สมัครพรรคพลังประชาชน เนื่องจากยังมีชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส.ระบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 4 ของพรรคพลังประชาชน เขต 3 ตัดสิทธินายวีระวัฒน์ พรหมคง ผู้สมัครจากพรรคประชากรไทย เนื่องจากศาลฎีกาเคยเพิกถอนสิทธิการสมัคร เพราะใช้เอกสารปลอมคราวลงสมัครรับเลือกตั้งเขต 5 ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เขต 4 นายนิติธรรมวิทย์ รัตนสุบรรณ พรรคคนขอปลดหนี้ เนื่องจากยังมีชื่อเป็นผู้สมัครส.ส.เขต 5 ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว

จ.สตูล เขต 1 ตัดสิทธิว่าที่ ร.ต.หญิงหยาดพิรุณ ธนูสาย ผู้สมัครพรรคคนขอปลดหนี้ เนื่องจากสังกัดพรรคการเมืองไม่ครบ 90 วัน จ.สุราษฎร์ธานี เขต 4 ตัดสิทธิ นายสิทธิชัย สุวรรณดวง ผู้สมัครพรรคคนขอปลดหนี้ เนื่องจากไม่พบชื่อเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด จ.นครศรีธรรมราช เขต 1 ตัดสิทธิ นายกิตติพงศ์ อัฐพร จากพรรคคนขอปลดหนี้ เนื่องจากสังกัดพรรคไม่ครบ 90 วัน เขต 2 ตัดสิทธิ นายนพรุจ ลิ้มประสิทธิ์วงศ์ ผู้สมัครจากพรรคไทยช่วยไทย นายสำราญ ก๋งเม่ง ผู้สมัครจากพรรคคนขอปลดหนี้ เนื่องจากสังกัดพรรคการเมืองไม่ครบ 90 วัน เขต 3 ตัดสิทธินายพันธมิตร ดวงทิพย์ จากพรรคแผ่นดินไทย และ นายพิเชษฐ์ ดารากัย จากพรรคไทยช่วยไทย เนื่องจากสังกัดพรรคไม่ครบ 90 วัน

เขต 6 ตัดสิทธิ นายสมยศ สมเขียวหวาน จากพรรคพัฒนาชาติไทย เนื่องจากสังกัดพรรคไม่ครบ 90 วัน นายวันธงชัย ชำนาญกิจ ผู้สมัครจากพรรคคนขอปลดหนี้ ไม่พบชื่อเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด เขต 8 ตัดสิทธินายเสริมศักดิ์ สัตตบงกช จากพรรคประชากรไทย เนื่องจากมีชื่อเป็นผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 3 พรรคประชากรไทย นายอำนาจ รอดช่วย พรรคพัฒนาชาติไทย เนื่องจากไม่พบชื่อว่าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด นายกฤษณะ ทองแก้ว พรรคคนขอปลดหนี้ เนื่องจากไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

รวม ผอ.กต.เขต ตัดสิทธิผู้สมัครไปทั้งสิ้น 30 คน จากจำนวนผู้ยื่นสมัครรับเลือกตั้ง 97 คน ทำให้เหลือผู้สมัครรับเลือกตั้งขณะนี้ 67 คน ทั้งนี้ จากการตัดสิทธิดังกล่าว ทำให้จะมีเขตเลือกตั้งที่ผู้สมัครของพรรคไทยรักไทย กลายเป็นผู้สมัครคนเดียวของเขต และต้องได้คะแนนเสียงมาไม่น้อยกว่า ร้อยละ 20 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งรวม 16 เขต

ประกอบด้วย จ.ชุมพร เขต 1,3 จ.ตรัง เขต 4 จ.ปัตตานี เขต 1 จ.พังงา เขต 1 จ.ยะลา เขต 1 จ.สงขลา เขต 1,2,3,4,6,7,8 จ.สตูล เขต 1 จ.นครศรีธรรมราช เขต 8 และ จ.นราธิวาส เขต 4 อย่างไรก็ตาม แม้กกต.จะมีหนังสือเวียนแจ้งไปยัง ผอ.กต.เขตต่างๆ ว่า ผู้สมัครที่ไม่ได้รับเลือกตั้งแล้วย้ายเขตมาลงสมัครใหม่ใน 38 เขต ไม่ถือว่ามีลักษณะต้องห้ามของการเป็นผู้ไม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ในบาง เขตเลือกตั้ง ผอ.กต.จังหวัดได้ใช้ดุลยพินิจตัดสิทธิผู้สมัครที่ย้ายข้ามเขตมาสมัครไปแล้ว ทำให้ผู้สมัครหลายราย ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อขอให้สั่งให้ ผอ.กต.เขต.รับตนเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส่วนเขตเลือกตั้งที่ ผอ.กต.เขต.ประกาศรับผู้สมัครทั้งหมดว่า เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ประกอบด้วย จ.กระบี่ เขต 1,2,3 จ.นราธิวาส เขต 1,2 จ.เพชรบุรี เขต 1

ด้านนายสมจิตร์ ทองศรี ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการเตรียมการเกี่ยวกับคดีเลือกตั้ง ส.ส.กล่าวว่า ในกรณีการเปิดรับสมัครเลือกตั้งใหม่ 38 เขต กกต.ได้ออกประกาศย่นระยะเวลา การร้องขอให้ศาลฎีกาพิจารณาคืนสิทธิการสมัครรับเลือกตั้งจากเดิม 7 วัน เหลือ 2 วัน นับแต่วันที่ ผอ.กต.เขตไม่ประกาศรายชื่อว่าเป็นผู้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ก็กังวลว่า หากผู้ที่ ผอ.กต.เขต ตัดสิทธิการสมัครมายื่นคำร้องภายหลังจากพ้นระยะเวลา 2 วัน ตามกกต.กำหนด โดยอ้างว่า ตามกฎหมายนั้นระยะเวลาการยื่นขอให้ศาลฎีกาพิจารณามีทั้งสิ้น 7 วัน จะกลายเป็นปัญหาเรื่องข้อกฎหมายหรือไม่