สถาบันการเงินของรัฐทยอยถังแตก

สถาบันการเงินของรัฐทยอยถังแตก

โดย หมายเหตุผู้จัดการ 11 เมษายน 2549 20:49 น.

ฐานะการเงินของรัฐบาลถังแตกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และปกปิดไว้ไม่มิดแล้ว แม้ว่าเคยปฏิเสธมาครั้งหนึ่งเมื่อสองเดือนก่อน แต่หลังสุดก็ต้องยอมรับความจริงว่ารัฐบาลถังแตก

เป็นภาวะถังแตกที่หนักหนาเอาการ ดังที่สื่อมวลชนถึงกับเรียกภาวะถังแตกนี้ว่า ถังแตกแตกดังโพละ

ที่ถังแตกก็เพราะรายได้ไม่พอกับรายจ่ายเนื่องจากการจ่ายเงินเกินตัว และส่งผลให้ต้องค้างค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าพาหนะแก่ทหาร ตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดนภาคใต้กว่า 3 เดือนมาแล้ว

ต้องชะลอการจ่ายเงินในโครงการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ต้องหยุดหรือชะลอโครงการลงทุนหรือโครงการที่จะจัดซื้อจัดจ้างต่อไป และถึงกับต้องเรียกคืนเงินที่ส่วนราชการเบิกไปแล้วแต่ยังไม่ทันจ่าย เพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายอย่างอื่นก่อน

ถึงขนาดต้องขู่กันว่าถ้าใครไม่คืนก็จะถูกพิจารณา หรือถ้าติดขัดด้วยระเบียบก็จะต้องแก้ด้วยระเบียบกัน

เป็นสภาพที่ฉีกหน้ากากข้ออ้างความสำเร็จในการบริหารประเทศอย่างล่อนจ้อนที่สุด

ความจริงการใช้จ่ายเงินของรัฐที่ว่าเกินตัวจนเกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้นั้นยังเกินตัวไปจากที่เป็นอยู่อีกมากมาย เป็นแต่ว่าได้หลบเลี่ยงหรือไปซุกไว้ที่อื่นด้วยความถนัดในการซุกเหลือประมาณนัก

นั่นคือการผลักรายจ่ายของรัฐบาลไปให้กับสถาบันการเงินของรัฐกว่า 1,800,000 ล้านบาท ยังไม่รวมที่จ่ายจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลอีกส่วนหนึ่ง

รายจ่ายที่ควรเป็นรายจ่ายของรัฐและต้องใช้จ่ายเงินตามงบประมาณก็ผลักไปใช้เงินของสถาบันการเงินของรัฐ หรือไม่ก็ควักออกไปจากสำนักงานสลากกินแบ่ง แทนที่สำนักงานสลากกินแบ่งจะต้องส่งเงินเข้าคลัง

จึงเป็นการใช้จ่ายเงินโดยไม่มีการควบคุม โดยไม่มีระเบียบแบบแผน ไม่มีโครงการหรือแผนงาน แต่เป็นการใช้จ่ายเงินตามใจชอบ

ดังนั้นนอกจากภาวะถังแตกของรัฐบาลแล้ว ถังก็ยังไปแตกลามไปถึงสถาบันการเงินของรัฐด้วย และภาวะถังแตกเช่นนี้อาจจะลากเอาสถาบันการเงินอื่น ๆ ของเอกชนให้พังพินาศตามไปด้วย

ดีร้ายเหตุการณ์ปิดธนาคารและสถาบันการเงินด้วยฝีมือของนายทนง พิทยะ ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2540 อาจจะเกิดซ้ำรอยอีกครั้งก็ได้!

ธนาคารของรัฐขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่มีภาระจัดเงินให้อีกแห่งหนึ่งยืมเดือนละ 30,000 กว่าล้านบาท ถูกดึงเงินไปใช้จนหมดตัว และไม่สามารถให้ยืมเงินตามข้อตกลงเดิมได้ นี่เป็นภาวะที่น่ากลัวมาก แต่ยังดีที่รัฐบาลเป็นประกัน คนฝากเงินจึงพออุ่นใจได้

ธนาคารของรัฐขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งที่ได้ใช้จ่ายเงินเกินตัวจนหมดตัวแล้ว และหวังจะได้เงินยืมเดือนละ 30,000 ล้านบาท พอไม่ได้ก็ขาดสภาพคล่อง ไม่สามารถให้กู้ยืมเงินได้อีกต่อไป

ลามไปถึงธนาคารอีกแห่งหนึ่งที่ต้องชะลอการให้สินเชื่อกับภาคเกษตร เพราะขาดสภาพคล่องเหมือนกัน

ส่วนสถาบันการเงินของรัฐอีก 2-3 แห่งก็โกงกันสะบั้นหั่นแหลกจนเกิดปัญหาสอบสวนกันวุ่นวาย และทำให้ขาดสภาพคล่องอย่างต่อเนื่องเหมือนกัน

ยังไม่รวมถึงปัญหาเงินกองทุนที่ถ้าตรวจกันจริง ๆ แล้วก็จะขาดหรือมีอัตราส่วนต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดไปมากมายแล้ว

ถังแตกแล้ว แตกลามไปยกใหญ่แล้ว

เฉพาะหน้านี้ต้องช่วยกันกดดันและเรียกร้องให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลยุติการเอาเงินไปใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองในการสร้างค่านิยมอันผิดกฎหมายเสียทันที

แล้วให้ส่งเงินเข้าคลังในทันที อย่างน้อยต้องเอาไปจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าพาหนะ ของทหาร ตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อนเพื่อน และใช้จ่ายเบี้ยเลี้ยงตลอดจนค่าสวัสดิการและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นก่อน

พนักงานสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลต้องช่วยกันขับไล่ร่างทรงพรรคการเมืองที่เข้ามาฉ้อฉลเอาเงินหลวงที่ได้มาจากการหลอกชาวบ้านให้เล่นหวยไปใช้จ่ายในทางการเมืองออกไปให้หมด

ประชาชนที่มีเงินฝากก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจและเตรียมความปลอดภัยให้กับเงินฝากของตนเอง

อย่ารอจนกระทั่งต้องเข้าโครงการและถอนเงินไม่ได้ 3 ปี 5 ปี เหมือนกับที่ผ่านมาในปี 2540

เห็นหน้านายทนง พิทยะ คราวใดก็หวั่นใจทุกที เพราะนอกจากเรื่องนี้แล้วค่าเงินบาทที่แข็งผิดปกติก็วิปริตพิกลพิการที่เงินบาทอาจถูกถล่มซ้ำรอยปี 2540 อีก

โอ๊ย! เกิดเป็นคนไทยในยุคนี้ทำไมมีแต่ความฉิบหายวายวอดทุกเรื่องทุกราวเช่นนี้หนอ

อ้อ! ก็เพราะมีฝูงปีศาจมาปล้นบ้านผลาญเมืองกันอย่างมันมือนี่เอง.

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์