ลิ่วล้อ ทรท.เหิมเกริมหนัก บุกขู่สื่อถึงทำเนียบฯ - ชิดชัย ชูนิ้วรักชาติ
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 11 เมษายน 2549 16:07 น.
ลิ่วล้อไทยรักไทยยังคุกคามสื่อไม่เลิก คราวนี้เหิมเกริมหนักข้อ บุกข่มขู่ด่าหยาบคายถึงห้องทำงานนักข่าวกลางทำเนียบรัฐบาล ยิ่งเห็นสติกเกอร์ ทักษิณโกงชาติ ติดข้างกระจกยิ่งทนไม่ได้ มันแสลงใจต้องฉีกทิ้งให้หมด ขณะที่ ชิดชัย ลงมารับช่อดอกไม้ให้กำลังใจหลังบี้ดำเนินคดี สนธิ-คมชัดลึก ด้วยหัวใจพองโตพร้อมชมเปาะเป็นพวกรักชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล ได้มีคนกลุ่มหนึ่งซึ่งใช้ชื่อว่าชมรมพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ประมาณ 30 คน อ้างว่า เป็นตัวแทนพลังเงียบมาจากเขตตลิ่งชัน กทม.มารอยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ ปฏิบัติราชการแทนรักษาการนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้เร่งรัดดำเนินคดีกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ หนึ่งในแกนนำเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และหนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก ทั้งนี้ ยังได้รอมอบช่อดอกไม้ให้ พล.ต.อ.ชิดชัย ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ตัวแทนชมรมฯ รอเวลาจะเข้าพบ พล.ต.อ.ชิดชัย ที่ห้องรับรอง ชั้น 1 ตึกบัญชาการ 1 นั้น นายปกรณ์ บูรณุปกรณ์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม และว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1 พรรคไทยรักไทย ได้พาประชาชนเดินมานั่งพักอยู่บริเวณรอบห้องทำงานผู้สื่อข่าวหลังเก่า ขณะนั้นได้ทราบว่า ได้สังเกตเห็นสติกเกอร์ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คำว่า ทักษิณ ออกไป และคำว่า โกงชาติ โกงแผ่นดิน ที่ขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากตำแหน่ง ซึ่งติดอยู่บริเวณกระจกของห้องทำงานนักข่าว ตัวแทนชมรมฯ หลายคนได้แสดงอาการไม่พอใจ โดยได้เคาะกระจก และชี้หน้า ตะโกนด่าผู้สื่อข่าวที่อยู่ภายในห้องด้วยถ้อยคำที่รุนแรง พร้อมกับพยายามดึงสติกเกอร์ออก
ขณะนั้นผู้สื่อข่าวคนหนึ่งได้สอบถามตัวแทนชมรมว่าจะทำอะไร กลุ่มชมรมฯกลับตะโกนขึ้นว่า เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเหรอ มีสิทธิอะไรเอาสติกเกอร์มาติดแบบนี้ หลังจากนั้น เริ่มมีการปะทะคารมกันระหว่างตัวแทนชมรมฯ กับผู้สื่อข่าวอาวุโสประจำทำเนียบรัฐบาล ซึ่งทางชมรมฯเริ่มใช้คำที่รุนแรง หยาบคายมากขึ้นและมีท่าทีคุกคามมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อผู้สื่อข่าวที่อยู่ภายในห้องเห็นว่าสถานการณ์จะเริ่มรุนแรงขึ้น จึงได้ติดต่อเลขานุการของ พล.ต.อ.ชิดชัย ให้เข้ามาดูแลจัดการนำคนกลุ่มเหล่านี้ไปรอที่ห้องรับรองแทน ระหว่างนั้น ตำรวจประจำตึกบัญชาการ และตำรวจสันติบาลส่วนหนึ่ง เห็นว่า สถานการณ์ไม่ดี จึงได้เข้ามากันกลุ่มชมรมฯออกไปจากบริเวณห้องผู้สื่อข่าว แต่มีบางคนไม่ยอมยังตะโกนด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคายอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องล็อกตัวและดึงออกไป
จากนั้นเวลา 12.10 น.พล.ต.อ.ชิดชัย ได้เดินทางมาถึงตึกบัญชาการ เพื่อเข้ารับหนังสือ และช่อดอกไม้จากตัวแทนชมรมฯ เพื่อเร่งรัดการจับกุมผู้กระทำผิด หลังจากที่ทางชมรมฯได้แจ้งความดำเนินคดีกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และปลุกปั่น ยุยง ล้มล้างระบบการปกครอง มาเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว ซึ่งจนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้ทำการจับกุมนายสนธิและพวก ที่ทำความเสียหายให้กับประเทศโดยส่วนรวม
จึงขอเรียกร้องในฐานะที่ พล.ต.อ.ชิดชัย ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี สั่งการเพื่อให้มีการจับกุมนายสนธิและพวกทันที เพราะจนถึงขณะนี้นายสนธิยังไม่มีสำนึก และยังทำผิดอยู่ทุกวัน ดังนั้น วิธีแก้ปัญหา คือ การบังคับใช้กฎหมายทันที ไม่เช่นนั้นประชาชนก็จะไปเดินขบวนร่วมกับนายสนธิกันหมด เพราะรู้สึกเท่ ทำแล้วเป็นข่าว ขนาดฟิลิปปินส์มีปัญหา และมีผู้นำเป็นผู้หญิงยังคุมสถานการณ์ได้ดีกว่าประเทศไทย
พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า สิ่งที่ผ่านมารัฐบาลพยายามประคับประคองความปรองดอง สมานฉันท์ ให้เกิดขึ้น รวมทั้งการรักษาประชาธิปไตยไว้ ส่วนการดำเนินคดีนั้นเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขณะนี้มีการรวบรวมพยานหลักฐานได้มาก ถึงขั้นออกหมายเรียก ซึ่งเป็นการดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ไม่ใช่ว่าจะไปออกหมายจับได้เลย ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการทำผิดกฎหมาย ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องการเมืองที่เราจะไปตามหาเรื่อง และตำรวจก็กำลังเร่งรัด ทำงานอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ขอบคุณที่ทุกคนมาให้กำลังใจ และส่งสัญญาณที่ชัดเจน สื่อมวลชนก็จะส่งสัญญาณไปถึงประชาชนทุกกลุ่ม ที่จะได้รู้การมาของกลุ่มพลังเงียบในวันนี้
หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณีกลุ่มชมรมฯแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมบริเวณห้องนักข่าว โดยมีการใช้ถ้อยคำที่รุนแรง พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า เหรอ อย่าไปโกรธเขาสิ อย่าไปคิดว่าเขาใช้คำรุนแรง สื่อต้องอดทน อดกลั้น กลุ่มนี้เขาเป็นกลุ่มคนมีความรู้นะ เขาก็รักประเทศเขา อย่าไปคิดอะไรมาก เมื่อถามต่อว่าแต่การกระทำอย่างนี้ถือเป็นการข่มขู่ คุกคาม พล.ต.อ.ชิดชัย ปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้
เมื่อถามถึงการเร่งรัดจับกุม นายสนธิ พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า ตนไม่ได้เร่งรัด เป็นเรื่องที่ตำรวจต้องดำเนินการ ส่วนประชาชนเขาก็มาเร่งรัดของเขาไป เมื่อถามถึงกรณีที่ นายสนธิ เดินทางไปประเทศจีน พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า ไม่มีปัญหา อย่าเพิ่งไปลงรายละเอียดเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก มาให้ปากคำเพิ่มเช่นเดียวกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ในคดีถูกกล่าวหาว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในวันที่ 17 เมษายนนี้