นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ระบุ
ผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่เฉียดฉิว ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมาย เพราะเดิมฐานเสียงของไทยรักไทยก็เกินกว่า 10 ล้านเสียงแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือ ซึ่งการที่จะให้ฐานเสียงวูบเร็วจนเกินไปจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก และผลที่ออกมายังสะท้อนว่า กลุ่มไทยรักไทย หรือพลังประชาชน จะยังคงเป็นเสียงข้างมาก แต่คงไม่เกินกึ่งหนึ่ง หรือไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เว้นแต่จะไปจับขั้วทางการเมืองกับกลุ่มมัชฌิมา ของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ซึ่งถือว่าขณะนี้กลุ่มมัชฌิมาจะกลายเป็นตัวชี้ขาดทางการเมืองที่สำคัญ
นอกจากนี้ นายวัลลภ ยังระบุด้วยว่า
ผลการลงประชามติยังสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาล ไม่มีผลงานที่จะมาชี้แจงประชาชน เมื่อเทียบกับผลงานของรัฐบาลเดิมที่มีค่อนข้างเป็นรูปธรรม ดังนั้น จากนี้ไปรัฐบาลจึงต้องเดินหน้าในเรื่องของการทุจริตด้วยการเร่งออกกฎหมายปราบปรามการทุจริตออกมาให้มากๆ ซึ่งจะป้องกันรัฐบาลใหม่ที่จะทำอะไรให้เสียหายกับบ้านเมือง