กกต.ยันส่งผลประชามติ รธน. ต่อประธานสสร.ห้าโมงเย็นวันนี้

"สดศรี" ระบุ

คณะกีรรมการการเลือกตั้งจะส่งผลการลงประชามติรธน. ให้กับประธานสสร.ห้าโมงเย็นวันนี้ (20สค.)
 
นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึง

ผลล่าสุดการลงประชามติร่างรับธรรมนูญ 50 ว่า พื้นที่ กรุงเทพ เห็นชอบ 65.72 % ภาคกลาง เห็นชอบ 66.8 % ไม่เห็นชอบ 33.14 % ภาคอีสาน เห็นชอบ 36.52 % ไม่เห็นชอบ 63.48% เหนือ เห็นชอบ 53.72 % ไม่เห็นชอบ 46.28 % ภาคใต้เห็นชอบ 87.74 % ไม่เห็นชอบ 12.26 % จำนวนคนมาใช้สิทธิ์ 25 ล้านคนจากคนมีสิทธิ์ 45 ล้านคนเศษ หรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์คนมาใช้สิทธิ์ได้ 56.5 %

ทั้งนี้การมาใช้สิทธิ์ของประชาชนดังกล่าว

เหนือความคาดหมายซึ่งได้เกินครึ่งถือเป็นเรื่องดี เดิมคิดว่าคงใช้สิทธิ์น้อยเพราะเป็นวันหยุดราชการ แต่เมื่อวานคึกคักมาก การเผชิญหน้ากันหรือการกระทำทำผิดไม่มี ซึ่งจำนวนคนมาใช้สิทธิ์ 56.5 % หากเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งถือว่าน้อยกว่าเพราะการลงประชามติไม่มีตัวกระตุ้นที่เป็นการเลือกตัวบุคคล ส่วนเรื่องร้องเรียนมีกว่าร้อยกว่าเรื่อง เป็นความผิดฉีกบัตร ส่วนกระแสอื่นไม่มีหลักฐาน


"วันนี้บ่ายสี่โมงกกต.จะลงนามรับรองร่างรธน.เพื่อส่งผลเป็นทางการให้ประธานสสร.เวลาห้าโมงเย็น เพื่อให้ประธานสสร.ประกาศผลให้ประชาชนทราบผลการลงประชามติ"


นางสดศรี กล่าวว่า

คิดว่าจะมีการเลือกตั้งปีนี้ ตามกรอบรัฐธรรมนูญซึ่งคิดว่าความเหมาะสมน่าจะเป็นวันที่ 23 ธ.ค. เพราะผ่านพ้นช่วงงานพระราชพิธี หน่วยราชการน่าจะมีความพร้อมมากกว่า


ด้านนายอภิชาติ สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต.

แถลงผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 อย่างไม่เป็นทางการ ว่า ผู้มีสิทธิออกเสียงทั้งสิ้น 45,658,178 คน ผู้มาใช้สิทธิ 24,983,822 คิดเป็นร้อยละ 56.75 ผลของการลงคะแนนมีบัตรให้ความเห็นชอบคิดเป็นร้อยละ 58.21 บัตรไม่เห็นชอบ คิดเป็นร้อยละ 41.79 ซึ่งภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้ ส่วนใหญ่รับร่างรัฐธรรมนูญ ข

ณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คะแนนลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญน้อยกว่าไม่รับร่างฯ และในวันนี้ เวลา 16.00 น. กกต.ทั้ง 5 คนจะประชุมเพื่อสรุปผลการลงประชามติ ก่อนจะส่งเป็นหนังสือไปยังประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญต่อไป


ขณะที่พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
 
ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สรุปว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความเรียบร้อยในการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ตั้งแต่เวลา 8.00-16.00 น. วันที่ 19 สิงหาคม รวม 7 คดี โดย 4 คดี เป็นการทำลายบัตรออกเสียงประชามติ ในพื้นที่ อ.พระนครศรีอยุธยา, อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง, ต.ทะเมนชัยอ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ และ อ.เมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ทั้งหมด


นอกจากนี้

ยังพบการกระทำความผิดฐานหลอกลวงอีก 1 คดี ในพื้นที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ความผิดฐานให้ทรัพย์ 1 คดี ในพื้นที่ อ.ลอง จ.แพร่ สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 4 คน และการกระทำผิดฐานก่อความวุ่นวายและทำร้ายร่างกาย 1 คดี ที่ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท และในเวลาประมาณ 10.00 น. วันนี้ จะมีการแถลงสรุปสถานการณ์การกระทำความผิดเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติทั้งหมด ภายหลังปิดหีบและนับคะแนนเสร็จสิ้น
 

พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด และสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช.กล่าวถึงผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวานนี้ ว่า

ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งในปลายปีนี้ โดยในส่วนของ คมช.สามารถยอมรับได้ แต่ขอให้ทุกฝ่ายอย่าเพิ่งทะนงตน เพราะคะแนนทั้งฝ่ายที่เห็นชอบและไม่เห็นชอบ ไม่ต่างกันมากนักสำหรับร่างรัฐธรรมนูญที่ยังไม่สมบูรณ์แบบนั้น เชื่อว่าสามารถปรับแก้ไขได้ในภายหลัง พร้อมทั้งเรียกร้องให้สังคมไทยมีความรัก ความสามัคคี เพื่อที่ประเทศไทยจะสามารถพัฒนาเท่าทันนานาประเทศ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์