ปชช.เห็นชอบรธน.เกือบ70% โพลล์เปิดผลสำรวจหลังปิดหีบ

หลังปิดหีบลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญปี 2550

พบผลสำรวจของหลายสำนักประชาชนเห็นชอบเกือบ 70 % อาทิ สวนดุสิตโพลล์เห็นชอบ 67.94 ไม่เห็นชอบ 32.06 ขณะที่เอแบคโพลล์เห็นชอบ 70.7% ส่วนไม่เห็นชอบ 29.9%


การลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 น.

ของวันที่ 19 สิงหาคมเป็นต้นมา มีประชาชนต่างทยอยเดินทางไปใช้สิทธิ์ตามลำดับ จนถึงเวลา 16.00 น. เป็นเวลาปิดหีบ สำนักโพลล์ต่าง ๆ ได้เปิดเผยผลการสำรวจของผู้ไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนปรากฏว่าส่วนใหญ่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550  

เริ่มจากสวนดุสิตโพลล์ มีผลดังนี้

1. ภาพรวม การลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ผลการลงประชามติ ภาพรวม  เห็นชอบ 67.94 ไม่เห็นชอบ 32.06 

2. เปรียบเทียบการลงประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 (ระหว่างคนกรุงเทพฯ กับต่างจังหวัด) ผลการลงประชามติ ภาพรวม กทม. ต่างจังหวัด เห็นชอบ 67.94 75.49 67.56 ไม่เห็นชอบ  32.06 24.51 32.44 

3. เปรียบเทียบการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 (ระหว่างภูมิภาค)ผลการลงประชามติ ภาพรวม ทั่วประเทศ ภูมิภาค  กทม. เหนือ กลาง อีสาน ใต้ เห็นชอบ 67.94 75.49 65.58 77.73 57.07 78.17  ไม่เห็นชอบ  32.06 24.51 34.42 22.27 42.93 21.83

4. เปรียบเทียบการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 (ระหว่างเพศชาย กับ เพศหญิง) ผลการลงประชามติ ภาพรวม ชาย หญิง เห็นชอบ 67.94 66.32 69.26 ไม่เห็นชอบ 32.06 33.68 30.74 

5. เหตุผลที่ “เห็นชอบ” ร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 อันดับที่ 1 รัฐธรรมนูญฉบับนี้คิดว่าน่าจะดีกว่าเดิม  16.19%  อันดับที่ 2 ต้องการให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นโดยเร็ว/ ต้องการรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง 14.98% อันดับที่ 3 รัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ประชาชนได้ประโยชน์มากขึ้น มีส่วนร่วมมากกว่าเดิม 14.57% อันดับที่ 4 ต้องการให้ประเทศสงบสุข เกิดความเรียบร้อย/ หากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประเทศชาติอาจจะเกิดความวุ่นวาย 9.72% 

อันดับที่ 5 ต้องการให้รัฐธรรมนูญเป็นตัวขับเคลื่อนการเมืองไทยให้ก้าวหน้าต่อไป 8.50% ฯลฯ   

6. เหตุผลที่ “ไม่เห็นชอบ” ร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 อันดับที่ 1 เป็นวิธีการรับรองรัฐธรรมนูญที่ผิดให้ถูกต้อง / เป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่สมบูรณ์แบบ /ไม่เป็นอัตตาธิปไตย 45.68% อันดับที่ 2 มีช่องว่างมากเกินไป / บางมาตรามีเนื้อหาไม่ชัดเจน 23.46% อันดับที่ 3 เนื้อหารัฐธรรมนูญที่ใช้เป็นภาษากฎหมายที่ซ้ำซ้อน /ขาดความเข้าใจที่ชัดเจน 7.41% อันดับที่ 4 ไม่ชอบ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ / ไม่ชอบการปฏิรูปแบบรัฐประหาร  6.17% อันดับที่ 5 คิดว่ารัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2540 ดีกว่า 6.17% 


ขณะที่ศูนย์ประชามติ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง มีผลจำนวนและร้อยละ ดังนี้ เห็นชอบ  10,440  60.19 ไม่เห็นชอบ  6,906   39.81 รวม     17,346  100.00 

ขณะที่เอแบคโพลล์ เห็นชอบ 70.7% ส่วนไม่เห็นชอบ 29.9%


กกต.-ตร.จี้ซีพี.ให้พนักงานไปใช้สิทธิ์

ส่วนบรรยากาศการลงประชามติที่ผ่านมานั้นเกิดปัญหาขึ้นที่โรงงาน CPF ของบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ ต.ท่าบอน อ.ระโนด จ.สงขลา เนื่องจากไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่และคนงานออกไปใช้สิทธิ์ออกเสียงลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 19 สิงหาคม 2550 ที่ผ่านมาโดยมีเจ้าหน้าที่และคนงานมาทำงานในวันนี้ประมาณ 512 คน ซึ่งทางบริษัทฯไม่ยอมหยุดให้ลูกจ้าง  และเจ้าหน้าที่ที่ ไปใช้สิทธิออกเสียงลงประชามติ พร้อมกับขู่ว่า หากผู้ใดออกไปใช้สิทธิ์ในวันนี้ก็จะตัดเงินค่าจ้างและให้หยุดทำงาน 7 วัน ทำให้เจ้าหน้าที่และลูกจ้างคนงานไม่มีใครกล้าออกไปใช้สิทธิ์ลงประชามติ มีบางคนที่ในช่วงหยุดพักกะทำงานได้นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างมาที่หน่วยออกเสียงลงประชามติใกล้บ้าน เมื่อใช้สิทธิ์แล้วก็รีบเดินทางกลับโรงงานทันที เพราะกลัวว่าทางโรงงานจะรู้และถูกตัดค่าแรงงานและถูกพักงาน

ส่วนของหน่วยออกเสียงลงประชามติที่ 11
 
อาคารอเนกประสงค์ โรงเรียนวัดศาลาหลวงบน หมู่ 10 ต.ท่าบอน อ.ระโนด จ.สงขลา ซึ่งเป็นหน่วยออกเสียงลงประชามติที่อยู่ใกล้โรงงานฯ มีผู้มีสิทธิออกเสียงลงประชามติ 677 คน ในจำนวนครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงลงประชามติจะเป็นคนงานที่เข้าไปทำงานในโรงงาน CPF ของบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ ต.ท่าบอน ทำให้บรรยากาศในช่วงเช้าตั้งแต่เปิดหีบจนถึงช่วงเที่ยงวัน มีผู้มาใช้สิทธิบางตาไม่คึกคัก โดยเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งทุกคนทราบว่า ทางโรงงาน CPF ของบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ ต.ท่าบอน ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่และคนงานออกมาใช้สิทธิ์ โดยได้มีการประสานเพื่อให้ทางศูนย์อำนวยการออกเสียงลงประชามติอำเภอระโนด ได้ดำเนินการในเรื่องนี้เป็นการด่วนก่อนที่จะหมดเวลาในการออกเสียงลงประชามติ 

ด้านนายธานี กมลชิโน นายอำเภอระโนดในฐานะหัวหน้าศูนย์อำนวยการออกเสียงลงประชามติอำเภอระโนด ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้จัดการโรงงาน CPF ของบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ ต.ท่าบอนและประสาน พ.ต.ท.สีนาท จันทรมณี รอง ผกก.สภ.อ.ระโนด เดินทางไปยังโรงงานเพื่อแจ้งให้ทราบถึงความผิด  ในการขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่และคนงานออกไปใช้สิทธิ์ออกเสียงลงประชามติ มีโทษจำคุก 2 ปี ตามมาตรา 7 ของ พรบ.รักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อกดดันทางโรงงานฯ

รายงานล่าสุดแจ้งว่า ทางโรงงาน CPF ของบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ ต.ท่าบอน ได้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่และคนงานออกไปใช้สิทธิ์ออกเสียงลงประชามติได้แล้วโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น พร้อมทั้งจัดรถยนต์รับ-ส่ง อำนวยความสะดวกให้ หลังจากนั้นก็ให้มาทำงานได้ตามปกติ



“ป๋าเปรม”ใช้สิทธิ์คนแรกเขตดุสิต


ขณะที่หน่วยที่ 19  สำนักงานเขตดุสิต   พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรษ ได้เดินทางไปใช้สิทธิ์ โดยมีรายชื่อออกเสียงอยู่ในลำดับที่ 1,561 ของหน่วยที่ 19 และเป็นผู้ใช้สิทธิ์ลำดับที่ 1 ของหน่วย


หลังจากนั้น พล.อ.เปรม กล่าวว่า วันนี้(19ส.ค.)

น่าจะเป็นการเริ่มต้นขั้นตอนต่อไปของการเลือกตั้ง ซึ่งคนไทยน่าจะหยุดความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน โดยร่วมกันหันหน้าเดินไปสู่การเลือกตั้ง ที่มีความบริสุทธ์ ยุติธรรม ที่เรียกว่าประเทศชาติสามารถก้าวเดินต่อไป  เมื่อถามว่าถ้าผลการลงประชามติปรากฎว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยรับร่างรัฐธรรมนูญแนวโน้มจะเป็นอย่างไร พล.อ.เปรม กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ปรารถนาเช่นนั้น ที่ผ่านมาก็เคยพูดไปแล้ว สิ่งใดที่คนไทยให้อภัยกันได้ก็ให้อภัยกัน สิ่งใดที่เป็นความคิดไม่ดีขอให้คิดใหม่ให้ดี เพื่อความสงบสุขของชาติบ้านเมือง 


"ผมอยากให้บ้านเมืองของเราที่ปัญหามานาน ใครๆก็ไม่ได้รับผลดีทั้งนั้น พวกเราที่ไม่ได้ไปอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง ก็พลอยลำบากไปด้วย ตรงนี้ไม่ใช้เรื่องที่ดีของคนไทย เพราะฉะนั้นสิ่งที่คนไทยควรจะทำคือ บ้านเมืองจะสงบสุขได้อย่างไร” พล.อ.เปรม กล่าวและว่า กระแสข่าวรณรงค์คว่ำรัฐธรรมนูญที่มีอยู่ในขณะนี้นั้น ตนไม่ทราบ 

อย่างไรก็ตามหากผลการลงประชามติประชาชนส่วนใหญ่ไม่รับร่างเป็นจำนวนมากจะเกิดความวุ่นวายหรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวคงคาดเดาลำบาก อย่าไปเดาเลย คิดในทางที่ดีก็แล้วกัน 


เมื่อถามว่าถึงขณะนี้สิ่งที่เป็นห่วงหรือกังวลเกี่ยวกับประชามติในสิ่งใด พล.อ.เปรมกล่าวว่า ตนไม่ทราบมาลงประชามติตามสิทธิ์


ขณะที่"เบิร์ด"ธงไชย แมคอินไตย เดินทางไปใช้สิทธิ์ออกเสียงลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ที่หน่วยออกเสียงประชามติที่ 66 ซอยวชิรธรรมสาธิต 44 สุขุมวิท 101/1 เขตบางนา กทม. 


ส่วน "ดนัย อุดมโชค"  นักเทนนิสทีมชาติไทย ไปใช้สิทธิ์ออกเสียงประชามติ ที่หน่วย 49 แขวงศาลาธรรมสพน์ ภายในหมู่บ้านชวนชื่นพาร์ควิวล์ ถนนปิ่นเกล้านครชัยศรี กทม. เมื่อเวลา 08.40น.


ผญบ.ออกเสียงตามสาย"คว่ำร่าง"


ขณะที่ความเคลื่อนไหวกลุ่มแกนนำคว่ำร่างรัฐธรรมนูญในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ว่า หลังจากถูกเจ้าหน้าที่คุมเข้มสกัดการจ่ายเงิน และส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวในพื้นที่ รวมทั้งการตั้งด่านตรวจเพื่อป้องปรามหลายจุด ในช่วงคืนวันที่ 18 สิงหาคม ทำให้แกนนำดังกล่าวต้องมีการปรับแผนเฮือกสุดท้าย โดยเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง พบว่าในวันที่ 18 -19 สิงหาคม ที่ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ มีการเชิญชวนให้ประชาชนเป็นจำนวนมากเดินทางไปทัศนาจรนอกพื้นที่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อไม่ให้ไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติ


 ล่าสุดช่วงเช้าวันที่ 19 สิงหาคม

พ.อ.เจษฎา เงินกอบทอง ผบ. ร.7 พัน 1 พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนหนึ่งได้เดินทางเข้าตรวจสอบสถานการณ์ที่ อ.แม่วาง พบว่ามีชาวบ้านส่วนหนึ่งเดินทางออกนอกพื้นที่จริง ล่าสุดกำลังตรวจสอบแกนนำว่าเป็นกลุ่มใด ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าในช่วงเช้าวันเดียวกันผู้ใหญ่บ้านใน ต.สันผีเสื้อ อ.เมืองเชียงใหม่ ใช้หอกระจายข่าวชุมชนประกาศเสียงตามสายให้ประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ โดยมีการบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญหลายข้อ เจ้าหน้าที่จาก มทบ.33 พร้อมตำรวจ สภ.ต.แม่ปิง จึงเข้าตรวจสอบหาพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีแล้ว


พีเน็ตแฉ“นายใหญ่”ต่อสายคว่ำ


 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนเพื่อการเลือกตั้ง (พีเน็ต) กล่าวถึงผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันนี้ว่า ผลสำรวจของโพลทุกสำนักที่ดำเนินการมาก่อนหน้านี้ 2-3 วัน อาจคลาดเคลื่อน เพราะล่าสุดมีข่าวว่าเมื่อวันศุกร์ที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา “นายใหญ่” จากต่างประเทศส่งสัญญาณไปยังกลุ่มหัวคะแนนเก่าให้พยายามคว่ำร่างรัฐธรรมนูญด้วยวิธีการต่างๆ โดยใช้เครดิตของตัวเองยืนยันว่าจะให้ผลตอบแทนภายหลัง ทั้งนี้ ทางกลุ่มหัวคะแนนเก่าจะใช้วิธีการเดินรณรงค์แจกแผ่นพับให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิลงประชามติ แต่มีการชี้ชวนให้ลงช่องขวามือ ซึ่งเป็นช่องไม่เห็นชอบ


ผู้ประสานงานพีเน็ต เชื่อว่า ประชาชนจะออกมาใช้สิทธิในการลงประชามติประมาณร้อยละ 50-60 และเดิมพบข้อมูลว่าประชาชนเกินร้อยละ 50 จะเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 แต่หลังจากช่วง 2 วันที่ผ่านมากลุ่มอำนาจเก่าปลุกกระแสคว่ำร่างรัฐธรรมนูญอย่างหนักหน่วง อีกทั้งมีการต่อท่อสายตรงจาก “นายใหญ่” ลงไปตามจุดต่างๆ ทำให้มีแนวโน้มว่าคะแนนความเห็นชอบและไม่เห็นชอบอาจจะใกล้เคียงกัน ประมาณการว่าเห็นชอบร้อยละ 35 และไม่เห็นชอบร้อยละ 25 ซึ่งตรงนี้คงต้องติดตามผลการลงคะแนนหลังปิดหีบลงคะแนนเวลา 16.00 น. ต่อไป

“ประพันธ์”เผยเกิดระเบิดที่รือเสาะ-ยันนับคะแนนที่หน่วย

นายประพันธ์  นัยโกวิท  กกต. ด้านกิจการบริหารเลือกตั้ง แถลงถึงสถานการณ์การออกเสียงประชามติล่าสุดว่า จนถึงขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนแล้วทั้งสิ้น 155 เรื่อง และเป็นกรณีแจกเงินมากที่สุด ตามมาด้วยกรณีแจกใบปลิวบิดเบือน และแจกสื้อ สถานการณ์ทั่วไปยังอยู่ในภาวะปกติ 

นายประพันธ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ตนเพิ่งได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีเหตุระเบิดที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวน 2 ราย แต่ทั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง  ยืนยันว่าในการนับคะแนนจะต้องนับที่หน่วย เนื่องจากมีหลักเกณฑ์ของ สสร.กำหนดไว้ชัดเจน และหลังจากนี้ตนจะหารือเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยว่าจะมีการเพิ่มเติมอย่างไร คาดว่าเจ้าที่ตำรวจน่าจะควบคุมสถานการณ์ได้

บึ้มทหารขณะรณงรค์ชาวบ้านไปใข้สิทธิ์รือเสาะบาดเจ็บ 2 คน 


เมื่อเวลา 11.40 น. พ.ต.ต.เรืองศักดิ์ บัวแดง สว.เวร สภ.อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุระเบิดขึ้นที่ร้านขายเสื้อผ้าและของชำ เลขที่ 12 บ้านบริจ๊ะ ม.7 ต.ลาโล๊ะ ซึ่งตั้งอยู่หลังสถานีรถไฟลาโล๊ะ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบก.ภ.จ.นราธิวงาส, พ.ต.อ.บรรลือ ชูเวทย์ ผกก.สภ.อ.รือเสาะ, พ.ต.ท.สุกิจ ขำมาก สว.นปพ.จ.นราธิวาสและนายจำลอง ไกรดิษฐ์ นอภ.รือเสาะ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตำรวจและทหารรวมทั้งฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ 


เกิดเหตุเป็นพื้นที่บ้านของนางลัดดา สุดธานี อายุ 70 ปี โดยมีหลุมระเบิด ลึก 6 นิ้ว กว้าง 7 นิ้ว อยู่ใต้โคนต้นกระดังงาหน้าร้าน โดยมีซากเศษชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่อง หนัก 3 ก.ก.ที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในท่อเหล็กทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว ยาว 7 นิ้ว อาทิ ปุ๋ยยูเรีย เชื้อปะทุ เหล็กเส้นตัดสั้น ซากท่อเหล็ก รวมทั้งเศษซากชิ้นส่วนของโทรศัพท์มือถือ ตกกระจายเกลื่อนหน้าร้านและบนถนน เป็นรัศมีกว้าง 10 เมตร  

โดยเฉพาะที่บริเวณหน้าร้านมีกองเลือดจำนวนหนึ่งตกอยู่ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย ได้มีพลเมืองดีนำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลรือเสาะ ไปก่อนหน้าแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ 


และได้เดินทางไปดูอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลทราบชื่อคือ 1. พ.จ.อ.อมรศักดิ์ ผลมาก อายุ 49 ปี รองผู้บังคับหมวดยมราช 3 สังกัด ฉก.33 ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขาขวา 2. นางลัดดา สุดธานี อายุ 70 ปี เจ้าของร้าน ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณแขนซ้าย อาการไม่สาหัสมากนัก เมื่อแพทย์ปฐมพยาบาลแล้วเสร็จได้อนุญาตให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านพักและฐานปฏิบัติการณ์


สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ จ.ส.อ.วิเชษฐ์ ไกรสกุล อายุ 43 ปี หน.ชุด สังกัด ร้อย ร.ที่1 ฉก.33 ได้สนธิกำลังกับ พ.จ.อ.อมรศักดิ์ ผู้บาดเจ็บ รวม 1 ชุดปฏิบัติการณ์ จำนวน 12 นาย ออกรณรงค์ประชาสัมพันธ์ชาวบ้านให้ออกไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และให้การรักษาความปลอดภัยชาวบ้าน อยู่ที่หน้าร้านของนางลัดดา ก่อนที่คนร้ายจะจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือระเบิดที่นำไปฝังไว้ใต้โคนต้นกระดังงาหน้าร้าน จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่ระเบิดทำงานไม่ครบวงจร ทำให้ พ.จ.อ.อมรศักดิ์และนางลัดดาได้รับบาดเจ็บไม่สาหัส ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของสมาชิกแนวร่วมกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพราะลอบสร้างสถานการณ์ร้ายรายวัน


ยะลาคึกคักชาวบ้านออกไปใช้สิทธิ์


เมื่อเวลา 10.00 น.นายกฤษฎา บุญราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า จากการออกไปตรวจเยี่ยมหน่วยลงประชามติในพื้นที่ต่างๆ ในเขต อ.เมือง อ.ยะหา พบว่า ในเขตเทศบาลนครยะลาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นแต่อย่างใด และในพื้นที่รอบนอก ต.ตาเซะ ต.ยุโป ต.ท่าสาป ต.ลิดล ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งถือเป็นพื้นที่สีแดงและมีการก่อเหตุร้ายเกิดอย่างต่อเนื่อง เป็นที่น่าชื่นใจตั้งแต่เช้ามีชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวออกมาลงประชามติกันอย่างพร้อมเพรียงกัน 


"จากการสอบถามชาวบ้านบอกว่าในช่วงเช้าอากาศดี ขอเวลาไปกรีดยางก่อน และในช่วงบ่ายจะไปลงประชามติมากขึ้น จึงได้ขอความร่วมมือผ่านทางนายอำเภอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยแจ้งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ช่วยออกเสียงตามสายตามหมู่บ้านและมัสยิด ประกาศประชาสัมพันธ์ย้ำให้ประชาชนออกมาลงประชามติด้วยในช่วงบ่ายนี้ด้วย "


รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ยังได้เปิดเผยอีกว่า สำหรับในพื้นที่สีแดงในบางพื้นที่ ใน อ.ยะหา อ.บันนังสตา และ อ.ธารโต ได้รับรายงานจากนายอำเภอทั้งสามอำเภอว่า มีประชาชนออกมาใช้สิทธิลงเสียงประชามติเป็นระยะๆ คาดว่าไม่น่าจะน้อยกว่าร้อยละ 50


สื่อต่างชาติสนใจข่าวลงประชามติรัฐธรรมนูญไทย


สำนักข่าวเอเอฟพี เอพี สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น และบรรษัทกระจายเสียงอังกฤษ (บีบีซี) ต่างนำเสนอข่าวประชาชนไทยไปใช้สิทธิออกเสียงลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ครั้งประวัติศาสตร์ของไทยในวันนี้


สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า

ผู้มีสิทธิเลือกตั้งราว 45 ล้านคน มีสิทธิที่จะไปออกเสียงว่าเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญไทยฉบับใหม่นี้ เพื่อปูทางไปสู่การจัดการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยภายในเดือนธันวาคมนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้จัดการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนไปลงประชามติกันในวันนี้


ด้านสำนักข่าวเอพี รายงานว่า

ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวไทยนับล้าน ๆ คนได้ไปใช้สิทธิลงประชามติเพื่อรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งหากเสียงส่วนใหญ่ของผู้มีสิทธิ 45.6 ล้านคน เห็นชอบก็จะปูทางไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปในปลายปีนี้ แต่หากส่วนใหญ่ไม่เห็นชอบก็จะทำให้การเลือกตั้งล่าช้าออกไปอีก โดยมีการวางกำลังตำรวจและทหารโดยรอบ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้เพื่อป้องกันการก่อเหตุร้ายบริเวณที่จัดการลงประชามติ


ส่วนสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นของสหรัฐนำเสนอข่าวการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญของไทยเช่นกัน โดยรายงานว่า

หลายคนคาดหวังว่าการออกเสียงเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้จัดการเลือกตั้งได้ทันตามกำหนดในปลายปีนี้ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้สดใสขึ้นตามไปด้วย

บรรษัทกระจายเสียงอังกฤษ (บีบีซี) รายงานว่า

ประชาชนไทยได้ไปใช้สิทธิออกเสียงลงประชามติครั้งประวัติศาสตร์ เพื่อใช้สิทธิเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว ซึ่งผู้สื่อข่าวบีบีซีบอกว่า รัฐบาลหวังว่าคนไทยจะรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ เพื่อผลักดันไปสู่ความก้าวหน้าทางการเมืองของไทย

“ปู่เย็น”ร่วมใช้สิทธิ์ลงประชามติด้วย

นายเย็น แก้วมณี อายุ 107 ปี เดินทางไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติ พร้อมกับนายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งปู่เย็นกล่าวเชิญชวนประชาชนให้ออกไปใช้สิทธิลงประชามติให้มาก ๆ

อดีตอาจารย์ใหญ่ร้อยเอ็ดฉีกบัตรลงคะแนน

บรรยากาศการไปออกเสียงประชามติที่จังหวัดร้อยเอ็ด ในช่วงเช้าเป็นไปด้วยความคึกคัก ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 13 - 15 หมู่ 11 บ้านหนองตากล้า ต.เหนือเมือง มีความคึกคักเป็นพิเศษนอกจากจะมีประชาชนเข้าแถวรอรับบัตรออกเสียงจำนวนมากแล้ว ยังมีทหารจาก ค่ายประเสริฐสงคราม และค่าย ร.16 พัน 1 เดินทางมาใช้สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง 

ขณะเดียวกันที่ศูนย์ปฏิบัติงานออกเสียงประชามติ ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด พ.ต.อ.พลศักดิ์ บรรจงศิริ รอง ผบก.ตร.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ศรายุท ชื่นพิชัย ผกก.สภ.อ.เมืองสรวง ว่าเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 8 ต.คูเมือง อ.เมืองสรวง ได้จับกุมตัวนายทวี วรรณละ อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 63 หมู่ 8 ต.คูเมืองไปทำการสอบสวน หลังพบว่านำบัตรออกเสียงลงประชามติไปกากบาทแล้วฉีกส่วนที่กากบาทไปหย่อนลงในหีบบัตร เก็บส่วนที่เหลือไว้กับตน ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าไม่รู้  


ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ทราบจากญาติว่านายทวี เป็นอดีตอาจารย์ใหญ่ ร.ร.บ้านป่าดวน ต.คูเมือง อ.เมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด เป็นคนสติไม่สมประกอบเนื่องจากเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ได้ประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำประสาทไม่ค่อยดี จึงต้องลาออกจากราชการ แต่ก็เคยไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในระดับต่างๆมาตลอดแต่เจ้าหน้าที่ถือว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิดตาม พรบ.มาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.รักษาความสงบเรียบร้อยในการลงประชามติ จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ตัวแทนทูตญี่ปุ่นร่วมสังเกตการณ์


นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ประธาน กกต.จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ประชาชนตื่นตัวมาใช้สิทธิลงประชามติจำนวนมากทั้ง 2,690 หน่วย เนื่องจากการประชาสัมพันธ์เป็นไปอย่างทั่วถึง และยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนใด ๆ ส่วนที่หน่วยออกเสียงนอกเขตจังหวัด ที่ว่าการ อ.เมืองศรีสะเกษ มีตัวแทนจากสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย มาร่วมสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด


ด้านนายก้องเกียรติ อัครประเสริฐกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้มีรายงานว่า มีการแจกจ่ายเงินซื้อเสียงในหลายเขตพื้นที่ ซึ่งกำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว แต่ยังไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน ส่วนที่มีการร้องเรียนว่า มีการจัดรถสามล้อเพื่อให้บริการฟรีแก่ประชาชนที่จะไปลงประชามตินั้น ไม่ใช่เป็นการกระทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด เนื่องจากไม่ได้เป็นการชักจูงหรือชี้นำให้ทำผิด และสิ่งที่น่ายินดีมาก คือ พบว่าประชาชนตื่นตัวอย่างมากที่มาใช้สิทธิครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศ

ปธ.คูหาอ.สองเป็นลมเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่


เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 19 สิงหาคม

พ.ต.ต.อุทัย เวียงทอง สารวัตรเวร สภ.อ.สอง จ.แพร่ รับแจ้งว่ามีเหตุผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลสอง จึงเดินทางไปสอบสอน ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายไพโรจน์ มหาวงศ์ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/1 หมู่ 6 ต.บ้านหนุน อ.สอง จ.แพร่ ประธานกรรมการหน่วยออกเสียงหน่วยที่ 8 ศาลาวัดบ้านลอง ต.บ้านหนุน อ.สอง จ.แพร่ 


จากการชันสูตรร่วมกับแพทย์ เกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลว จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นประธานกรรมการหน่วยออกเสียง หน่วยที่ 8 ศาลาวัดบ้านลอง ต.บ้านหนุน องสอง จ.แพร่ และจะดำเนินการให้ประชาชนมาใช้สิทธิ์ในเวลา 08.00 น.วันเดียวกัน 


ต่อมานายชนะ แพ่งพิบูลย์ นายอำเภอสอง ประธานคณะอนุกรรมการออกเสียงประชามติประจำอำเภอสอง หลังจากได้รับแจ้งเหตุดังกล่าว ได้มีคำสั่งแต่งตั้ง นายอุดม ตันประยูรณ์ ครูโรงเรียนสองวิทยา เป็นประธานกรรมการหน่วยออกเสียง หน่วยที่ 8 ศาลาวัดบ้านลอง ต.บ้านหนุน อ.สอง จ.แพร่ ทันที  


นายชนะ แพ่งพิบูลย์ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับรายงานจึงได้เดินทางไปสอบสวนในที่เกิดเหตุทราบว่านายไพโรจน์ มหาวงศ์ ประธานฯ กำลังดำเนินการจัดสถานที่เลือกตั้งเพื่อเตรียมให้ประชาชนมาลงใช้สิทธิ์ ขณะยกหีบ นายไพโรจน์ได้เกิดเป็นลมล้มลงไปท่ามกลางความตกใจของกรรมการหน่วยเลือกตั้ง โดยกรรมการประจำหน่ายได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลสองและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางศูนย์ฯจึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งประธานคนใหม่ให้ดำเนินการเตรียมลงประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญ2550


ทางด้าน พ.ต.อ.ดนัย เลขาวิจิตร ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานแล้ว ถือว่านายไพโรจน์  เสียชีวิตขณะปฎิบัติหน้าที่ เพราะเราถือเอาตั้งแต่รับหีบบัตรลงประชามติตั้งแต่เมื่อวานแล้ว และทาง กกต.แพร่ จะดำเนินการให้การช่วยเหลือดูแลอย่างเต็มที่ และได้รายงานให้ กกต.กลางรับทราบ เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือ  


ส่วนการออกเสียงประชามติตั้งในเขตเทศบาลเมืองแพร่ ที่ หน่วยออกเสียงหน่วยที่ 2 ศาลาวัดหัวข่วง เทศบาลเมืองแพร่ ได้มีการจัดทำบัตรคิวให้กับผู้สมาใช้สิทธิ โดยนางทัศนีย์ มหาวรรณ ผู้อำนวยการประจำหน่วยออกเสียง เปิดเผยว่า ในช่วยเช้ามีประชาชนมาใช้สิทธิ์จำนวนมาก จึงได้จัดทำบัตรคิวให้กับผู้มาใช้สิทธิ์ เหมือนกับที่หมอเขาใช้กัน ใครมาก่อนก็เข้ามาใช้สิทธิก่อน ไม่ต้องแย่งกันซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้สิทธิ์ ส่วนจำนวนผู้มีสิทธิ์หน่วยที่ 2 มีค 577 คน มีประชาชนมาใช้สิทธิ์จำนวนมาก


นักร้อง -ภริยาพล.อ.สนธิ -มิสไทยแลนด์เวิล์ดร่วมลงประชามติ


เมื่อเวลา 08.00 น.ประชาชนในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ต่างพากันออกมาใช้สิทธิ์ลงประชามติกันอย่างคึกคัก จนเวลาประมาณ 10.00 น.นายสมพงษ์ คุนาประถม หรือ “อี๊ด โปงลางสะออน” อยู่บ้านเลขที่ 98/98 หมู่บ้านซื่อตรง ม.1 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้เดินทางมาใช้สิทธิ์ที่หน่วยที่ 3 ข้างที่ทำการ อบต.บึงยี่โถ โดย อี๊ด โปงลางสะออน กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ตนเองได้ออกมาใช้สิทธิ์ออกเสียงลงประชามติ เพราะที่ผ่านมานั้นยังไม่เคยไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งใดๆมาก่อนเลย  จึงอยากใช้สิทธิ์ในฐานะคนไทย 

ต่อมาเวลา10.20 น. นายสดใส โรจนวิชัย  หรือ สดใส รุ่งโพธิ์ทอง อยู่บ้านเลขที่ 596 หมู่บ้านสีวลี 2 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้เดินทางมาใช้สิทธิ์ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 49 ภายในหมู่บ้านสีวลี 2  นายสดใส กล่าวว่า ที่มาวันนี้ก็มาใช้สิทธิ์ตามหน้าที่ของคนไทย และอยากให้คนไทยออกมาใช้สิทธิ์

เวลาเดียวกันคุณหญิงปิยะดา บุญรัตกลิน ภริยา พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ประธาน คมช.ได้เดินทางมาใช้สิทธิ์ยังหน่วยที่ 48 ภายในหมู่บ้านสีวลี 2 โดยเดินทางมาลงคะแนนแล้วไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ก่อนจะนั่งรถออกไปในทันที


ส่วนที่หน่วยลงคะแนนที่ 14 ม.6 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งตั้งอยู่ภายในพัฒนาเด็กเล็ก อบต.บางพูน(ซอยรังสิต - ปทุมธานี 39) ได้มี น.ส.ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม เจ้าของตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิล์ด ปี 2550 ได้เดินทางมาใช้สิทธิ์พร้อมด้วยนายฟาร์เลย์ และนางประยูรศรี ยุติธรรม ซึ่งเป็นพ่อและแม่


น.ส.ฟ้ารุ่ง ได้กล่าวว่า วันนี้ตนและครอบครัว ได้มาใช้สิทธิ์ของตนเอง ในฐานะคนไทย โดยถือว่าการใช้สิทธิ์ในครั้งนี้ของตน ถือเป็นครั้งที่ 2 และอยากให้ประชาชนทุกคนออกมาใช้สิทธิ์ของตนเอง ในการมีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์ทางการเมืองในครั้งนี้


"สุรยุทธ์"ชวนปชช.ร่วมตัดสินใจครั้งสำคัญ
 


เมื่อเวลา 10.37 น. พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาหน่วยออกเสียงลงประชามติหน่วยที่ 20  ซ.พิบูลย์วัฒนา 4  หลังจากนั้นได้กว่าวว่า  ยังเหลือเวลาพอสมควร ขอความกรุณาให้พี่น้องประชาชน ได้ร่วมกันออกมาใช้สิทธิ์ลงประชามติ

และคิดว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกของประเทศไทย และเป็นการตัดสินใจที่สำคัญที่จะทำให้การแก้ปัญหาวิกฤติบ้านเมืองเรา ได้ผ่านพ้น ไปได้ ส่วนผลจะออกมาอย่างไรต้องรอผล และเท่าที่รับฟังรายงานตั้งแต่เช้าที่ผ่านมา ไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เกิดความวิตก

ทั้งนี้หลังจากมีการปิดหีบแล้ว ตนจะไปออกรายการเพื่อพูดคุยกับประชาชนทั่วประเทศ ที่ ช่อง 11 เวลา 16.00 น. 


เมื่อถามว่ารัฐบาลได้เตรียมการอย่างไรกรณีที่การลงประชามติ ไม่ผ่านความเห็นชอบ นายกฯ กล่าวว่า มีคนคิดเผื่อแล้วใน รธน.ฉบับชั่วคราว


จากนั้น คุณยายสำอางค์โฉม สันทัดเวช คุณแม่ ภรรยานายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาลงประชามติในเวลาไล่เลี่ยกัน  


นอกจากนี้บรรยากาศบริเวณหน้าหน่วยที่ 20 มีมูลนิธิเมาไม่ขับ ที่มีเหยื่อได้รับอุบัติจากการเมาแล้วขับนำบัตรมาให้ประชาชนที่มาลงประชามติแสดงความคิดเห็น ซึ่งมีทั้งช่องเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มาแจกให้กับประชาชน เพื่อลงมติ ให้วันเข้าพรรษาเป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่กลุ่มมูลนิธิฯรณรงค์อยู่ กลุ่มของแพทย์หญิงอรพรรณ เมธาดิลกกุล ได้เดินมาต่อว่า เป็นการชี้นำ ให้ประชาชน เห็นด้วยในการลงประชามติ ทำให้พ.ต.ต.อำนวย มาไกล่เกลี่ยและบอกว่าไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมาย มันไม่เกี่ยวกับการลงประชามติ


"สมัคร"เชื่อประชามติคะแนนรับชนะไม่มาก


เมื่อเวลา 09.09 น.นายสมัคร สุนทรเวช สมาชิกพรรคพลังประชาชน พร้อมด้วยภริยาคุณหญิงสุรัตน์ สุทรเวช เดินทางไปใช้สิทธิ์ที่หน่วย 61  โดยได้ประเมินสถานการณ์ทางการเมืองว่าเชื่อว่าการลงประชามติครั้งนี้จะได้คะแนนชนะไม่มาก แต่ถือว่าชนะและเชื่อว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้น อย่างแน่นอน ตามที่พล.อ.สุรยุทธได้ประเมินไว้ อย่างไรก็ตามการเมืองนับจากนี้จะเข้าสู่การเลือกตั้ง ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติกำลังรอดูท่าที สถานการณ์การเมืองในประเทศไทยอยู่ 


นายสมัครกล่าวด้วยว่า

 วันที่ 24 ส.ค.นี้ตนจะเดินทางไปร่วมประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เพื่อแสดงเจตจำนงค์ให้สมาชิกเลือก  ขณะนี้มีสองตัวเลือกคือ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ  กับตน ส่วนสมาชิกจะเห็นเป็นอย่างไร ก็พร้อมฟังเสียงมติส่วนใหญ่  นายสมัคร ประเมินหลังการเลือกตั้งว่าพ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกฯจะเดินทางกลับมาต่อสู้คดีในประเทศไทยอย่างแน่นอน

 "เนวิน"สวมเสื้อสีแดงไปใช้สิทธิ์


ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 4 บ้านไทยสามัคคี ต.อิสาณ  อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นายเนวิน ชิดชอบ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้เดินทางพร้อมกับนางกรุณา ชิดชอบ ภรรยาซึ่งได้สวมเสื้อสีแดง ไปใช้สิทธิ์ และกล่าวว่า เป็นการมาใช้สิทธิ์ออกเสียงของประชาชนชั้นสอง และเป็นการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายเนื่องจากถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี


นายเนวิน กล่าวด้วยว่า การจัดการออกเสียงครั้งนี้ มีการใช้อำนาจรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น มากกว่าการเลือก ส.ส.ส.ว.ทุกครั้งที่ผ่านมา และร่างรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ  ดังนั้นจึงควรที่จะมีประชาชนให้ความเห็นชอบเกินกว่าครึ่งหนึ่ง หรือร้อยละ 50 หรือประมาณ 22 ล้านเสียง จึงถือว่ามีความชอบธรรม


"ประสงค์" ให้ปชช.ใช้ดุลพินิจตัวเอง


เมื่อเวลา 08.10 น.น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้เดินทางไปใช้สิทธิ์ที่หน่วยที่ 24 แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กทม. จากนั้นกล่าว ขอให้ประชาชนใช้ดุลพินิจของตัวเองในการออกเสียงลงประชามติว่าเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ทั้งนี้ร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ถือเป็นรัฐธรรมนูญที่เพิ่มสิทธิเสรีภาพของประชาชน ควบคุมอำนาจรัฐ อย่างเต็มที่ และ ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการออกเสียงลงประชามิตรในครั้งนี้


"ผมมั่นใจว่าร่าง รธน.ปี 50 จะผ่านการลงประชามติของประชาชน ด้วยคะแนนเสียงที่ลอยลำ เพราะ สิ่งที่ประชาชนจะได้ก็คือ รธน.ฉบับที่ให้ประโยชน์กับประชาชนมากกว่ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง นอกจากนี้ประชาชนหากไม่พอใจ มาตราใด ก็สามารถ ที่จะเข้าชื่อ 50,000หมื่นเพื่อขอแก้ไขได้ทันที" น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า


"วิจิตร"ใช้สิทธิ์ที่หน่วยออกเสียงที่46

นายวิจิตร ศรีสะอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เดินทางไปใช้สิทธิ์ที่หน่วยเลือกตั้ง 46 โรงเรียนวัดผาสุก มณีจักร อ.ปากเกร็ด นนทบุรี ขณะที่หน่วยที่ 44 โรงเรียนเดียวกัน นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธาน สนช. ได้ไปใช้สิทธิ์

นายวิจิตร กล่าวว่า

การออกเสียงมีทั้งรับและคว่ำ รธน.แต่คิดว่าประชามติครั้งนี้ หลายฝ่ายที่เกี่ยวขอ้งเช่น กมธ.ยกร่าง และ สสร.เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมเต็มที่ และการกระทำของฝ่ายรัฐที่ผ่านมานั้นไม่ใช่เป็นการชี้นำ แต่มันอยู่กับประชาชน ว่าจะเข้าถึงข้อมูลได้มากน้อยเพียงใดแต่เชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ


ซอยบางพลัดสวมเสื้อสีแดงใช้สิทธิ์


ขณะที่หน่วยที่15 ณ หอประชุม โรงเรียนพิมลวิทย์ ถ.จรัล 69 แขวงและเขตบางพลัด กทม. ซึ่งมีรายชื่อของ พ .ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายพานทองแท้ ชินวัตร นางสาวพิณทองทา ชินวัตร และนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร เป็นผู้มีสิทิ์ลำดับตั้งแต่ 567 -570 นอกจากนี้ยังมีรายชื่อของ พ.ต.อ.ชาญชัย เนติรัฐการ อดีตผู้กำกับ สภต.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีสินบนยุบพรรคและครอบครัว ก็ปรากฎในรายชื่อในบัญชีด้วยที่บ้านเลขที่ 562 โดยมีรายชื่อในลำดับ 673 -676 ด้วย


ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในการลงประชามติ เมื่อเวลาประมาณ 09.20 น. ที่ผ่านมาปรากฎว่ามีชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งเป็นหญิง อายุประมาณ 40-45 ปี ได้เดินทางมาลงคะแนนเสียงโดยสวมเสื้อสีแดง เขียนข้อความว่า We Vote No ด้วย โดย หญิงดังกล่าวเดินมาเพียงลำพัง หลังจากลงประชามติแล้วรีบเดินทางออกจากหน่วยทันที


"แพรทองธาร"สวมแซ็คดำลงประชามติ

ต่อมาเวลา 09.38 น. นางสาวแพรท

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์