ผบ.ทบ.แนะทุกฝ่ายพูดคุย-สามัคคีกัน ย้ำกองทัพไม่เคลื่อนไหว

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 เมษายน 2549 18:07 น.

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ชี้ดูวัตถุประสงค์ที่พันธมิตรฯ ที่ไม่หยุดเคลื่อนไหวเป็นหลัก แนะทุกฝ่ายต้องคุยกันเพื่อหาทางออกบ้านเมือง ยืนยันกองทัพยังเป็นกลางไม่เอนเอียงข้างใด วอนคนไทยแยกแยะการรับรู้และสามัคคีกันไว้ ด้าน ผบ.สส.ย้ำ ทักษิณ ถอยแล้วควรเลิกชุมนุม ส่วนปรับย้ายทหารไม่มีการล้วงลูกเปลี่ยนโผเด็ดขาด

วันนี้ (10 เม.ย.) ที่กองทัพบก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังไม่เลิกเคลื่อนไหวแม้จะมีการถอยไปคนละก้าวแล้วว่า วัตถุประสงค์มันไม่เหมือนกัน ตนกำลังดูวัตถุประสงค์ของแต่ละฝ่ายแต่ละกลุ่มอยู่ การถอยหรือไม่ถอยคิดว่าไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ สิ่งสำคัญก็คือเราต้องทำวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันนั้นให้นำมาสู่ในส่วนที่มีความใกล้เคียงกัน ตนคิดว่าน่าจะคุยกันได้

เมื่อถามว่าทหารประกาศตัวว่าเป็นกลาง เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปโดยยังมีการชุมนุมเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ทหารมีจุดยืนอย่างไร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ทหารจะต้องอยู่ในกรมกอง และทำตัวของเราให้หนักแน่นเข้าไว้ ถ้าเราไปเอียงเข้าข้างใดข้างหนึ่งมันมีผลกระทบ อย่างที่เรียนว่า หากทหารออกไปเมื่อไหร่ สถานการณ์จะขยายตัวเร็ว จะเกิดปัญหาในประเทศเรามากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ตรวจสอบความรู้สึกของกำลังพลในกองทัพบกหรือไม่ว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรในอนาคต ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ความคิดของคนในกองทัพก็คงเหมือนความคิดของประชาชนทั่วไป ในความรู้สึกลึกๆ ก็คงมีอยู่ในตัวของเขา กองทัพต้องมีหน้าที่ให้เขาทำตัวให้เหมาะสม เป็นไปตามนโยบายที่กองทัพบกสั่งการไว้ คือเราจะต้องเป็นทหาร วางตัวเป็นกลาง

ผู้สื่อข่าวซักว่า หมายความว่าอยากให้ประชาธิปไตยเดินหน้าโดยให้มีการเลือกตั้งและตั้งรัฐบาลให้เรียบร้อยใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นในระบอบประชาธิปไตย แต่จะไปได้แค่ไหน ก็อย่างที่บอกว่าต้องมาดูถึงจุดประสงค์ของแต่ละกลุ่มให้ชัดเจน แล้วมันก็จะเดินไปได้ ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดคือการนั่งคุยกัน ถ้าจุดประสงค์แต่ละกลุ่มไม่ตรงกันและยังไม่ได้คุยกัน มันก็ยังแก้ไม่ได้

สิ่งที่ผมห่วงอย่างเดียว คือประชาชนต้องไม่คล้อยไปตามเหตุการณ์ เราต้องรัก ต้องสามัคคีกันเข้าไว้ อย่าไปนึกถึงปัญหาพวกนี้ ไม่เช่นนั้นคงจะลำบากพอสมควรในอนาคต พล.อ.สนธิ กล่าว

ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ในส่วนกองกองทัพที่เราทำได้ คือ กรอบงานกิจการพลเรือน และงานทางทหาร เราจะมุ่งไปสู่ 2 ประเด็น คือ เรื่องของความเป็นคนไทย และจุดสูงสุดในการดึงดูดให้คนไทยมาอยู่ในจุดร่วมเดียวกัน ตรงนี้จะทำให้คนรักและสามัคคีกัน ถ้าเราไปคิดเรื่องอื่นจะลำบาก ซึ่งทุกฝ่ายเราต้องพยายามช่วยกัน จะเห็นได้ว่าที่ตนพูดทุกครั้งจะพูดถึงเรื่องของความเป็นชาติ ความมีอุดมการณ์ของคนในชาติ และก็พระองค์ท่าน ทั้งหมดนี้จะเป็นจุดที่ทำให้คนไทยมีจุดศูนย์รวมอันเดียวกัน ความสามัคคีก็จะเกิด

ผู้สื่อข่าวถามว่า 2 เดือนที่ผ่านมาบ้านเมืองบอบช้ำเป็นอย่างมากจากการชุมนุม พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตนดูจากผลทางด้านเศรษฐกิจคงจะยังไม่มากนักจากผลตัวเลขที่ออกมา แต่ว่าที่มันอาจจะมีบอบช้ำลงไปคือเรื่องความคิดของคนที่แตกต่างกันออกไป อันนี้คือความน่าเป็นห่วงมากกว่า เมื่อคนเราเริ่มมีความคิดที่แตกต่างกันแล้ว เป็นจุดที่จะทำให้เกิดความยุ่งยากต่อไปในอนาคต

เมื่อถามว่า แนวคิดเรื่องนายกฯ พระราชทานมีโอกาสจะเกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ดูในทางกฎหมายคงมีขั้นตอนของเขา ตนตอบตรงนี้คงไม่ได้ ซึ่งเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญ แต่อย่างไรก็ตาม ตนมีจุดเดียวคือคนไทยทุกคนต้องมีจุดร่วมอันเดียวคือความเป็นคนไทย

พล.อ.สนธิ กล่าวถึงบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารที่ล่าช้าว่า ไม่มีปัญหาอะไร ในช่วงนี้ก็เดินช้าหน่อย แต่ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นไปตามขั้นตอนของมัน ซึ่งไม่กระทบต่อบุคคลที่อยู่ในโผทหาร เพียงแต่ว่าออกช้าไปหน่อย ทุกคนก็ทำงานในหน้าที่ของตัวเองอยู่

ด้าน พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.ทหารสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่มีทหารในกองทัพส่วนหนึ่งไม่พอใจต่อสถานการณ์บ้านเมืองที่ยังไม่ยุติ โดยเฉพาะการเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกนอกประเทศว่า เรื่องที่คนนึกในใจวัดกันไม่ได้ แต่การแสดงออกไม่มี ของทุกอย่างมันอยู่ในคนทุกคนว่ามีความรู้สึกอย่างไร ส่วนตัวก็ยังไม่อึดอัดอะไร ทั้งนี้ ในภาพรวมของกองทัพไม่มี เราจะไม่แสดงออกถึงเรื่องต่างๆ ที่ไม่ดี ตนและ ผบ.เหล่าทัพ พูดหลายครั้งว่าขณะนี้ทหารอยู่ในระเบียบวินัย จะไม่ทำอะไรที่ไม่ดี

เมื่อถามว่า พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการนายกรัฐมนตรี จะดำเนินการฟ้องร้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เกรงหรือไม่ว่าจะก่อให้เกิดเหตุการณ์บานปลายอีก พล.อ.เรืองโรจน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องทางด้านกฎหมายที่จะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน ซึ่งต่างคนต่างก็ใช้กฎหมาย อย่างไรก็ตาม หน่วยข่าวก็ได้ติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถอยไปหลายก้าวแล้ว แต่ในส่วนของกลุ่มผู้ชุมนุมยังแสดงท่าทีไม่พอใจ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีอำนาจในพรรคไทยรักไทย เกรงว่าการปฏิรูปการเมืองจะมีปัญหา พล.อ.เรืองโรจน์ กล่าวว่า เรื่องการเมืองตนไม่อยากพูดเพราะมันไม่ดี แต่คิดว่าขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองน่าจะสงบเรียบร้อยได้แล้ว หากถามทุก ๆ คน ทุกคนก็เบื่อหน่ายกันทุกคน ในเมื่อนายกรัฐมนตรีถอยจนสุดแล้วน่าจะเรียบร้อยกัน ประชาชนจะได้ไปทำมาหากินกันได้สะดวกสบาย

ส่วนที่หลายฝ่ายสับสนว่าเรานายกรัฐมนตรีถึง 2 คนนั้น พล.อ.เรืองโรจน์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปคิดเลย เพราะยังไม่ได้เกิดอะไรเพียงแต่ไปตีโพยตีพายกันขึ้นมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีตอนนี้อยู่ระหว่างการพักผ่อน สัปดาห์หน้าท่านก็จะเดินทางไปอังกฤษแล้ว จะบอกว่ามีนายกรัฐมนตรี 2 คนได้อย่างไร

พล.อ.เรืองโรจน์ กล่าวว่า สถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นไม่มีผลกระทบต่อการปรับย้ายทหารกลางปี เพราะว่าเป็นไปตามขั้นตอน แต่การปรับย้ายครั้งนี้อาจจะช้าไปเนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ สำหรับบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้าย ไม่มีการปรับเปลี่ยน เป็นไปตามที่ตน และ ผบ.เหล่าทัพ ทำเสนอขึ้นไป ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็ไม่ได้เปลี่ยน ยืนยันได้ ไม่มีใครกล้ามาล้วงอย่างที่เป็นข่าวอย่างเด็ดขาด ซึ่งเป็นอำนาจของตนและ ผบ.เหล่าทัพ ในการพิจารณาว่าใครเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งอะไร ไม่ใช่จะมาวิ่งเต้น หรือใช้อำนาจมืดมาบีบบังคับ เป็นอำนาจของ ผบ.เหล่าทัพที่พึงกระทำ