พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ในฐานะ ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (จำกัด) มหาชน หรือ ทอท. กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการสัมมนา "ก้าวแรกสู่ธรรมาภิบาลของสนามบินสุวรรณภูมิ" ว่า ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายทั้งผู้บริหารและระดับปฏิบัติให้ความสำคัญกับการทำงานอย่างมีธรรมาภิบาล สนับสนุน ปกป้องคนดี ยึดหลักคุณธรรม 4 ประการ ตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบกับปัญหาด้านคุณธรรมอย่างหนัก
สพรั่งลั่นศัตรูกลุ่มสนามหลวง ขู่ก่อเหตุป่วนจัดการเด็ดขาด
ขณะนี้ประเทศไทยเหมือนคนที่แพ้สงครามโลกทางเศรษฐกิจ
"ขณะนี้สังคมไทยมีปัญหา ข้าราชการเอาตัวรอดกันมาก เห็นแก่ผลประโยชน์ ยอมให้อำนาจเงินอยู่เหนือกว่าความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ถึงขั้นไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ขณะนี้ประเทศไทยเหมือนคนที่แพ้สงครามโลกทางเศรษฐกิจ พวกที่ชอบสร้างความวุ่นวาย ความปั่นป่วนให้บ้านเมืองต้องถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาด และผู้ที่คิดร้ายกับบ้านเมืองไม่สมควรที่จะอยู่ในผืนแผ่นดินไทย เราควรที่จะสนับสนุน ปกป้องคนดี ให้คนดีได้เป็นผู้บริหาร และต้องไม่ประมาท มีความละอาย และอดทนอดกลั้น" พล.อ.สพรั่ง กล่าว
พล.อ.สพรั่ง กล่าวต่อว่า ขอประกาศเป็นศัตรูกับกลุ่มที่สร้างความวุ่นวายในชาติ คือ กลุ่มผู้ชุมนุมที่ท้องสนามหลวง
หากยังมีการเคลื่อนไหวใดๆ ที่ทำให้ประเทศชาติได้รับความเสียหาย จะต้องถูกจัดการอย่างเด็ดขาดไม่มีการละเว้น ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก กล่าวต่ออีกว่า ยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพกับฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะในช่วงรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่ค่อยดีนัก แต่หลังจากมีการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายเริ่มเป็นไปในทางที่ดีขึ้น เชื่อมั่นว่า แม้จะมีรัฐบาลที่มาการเลือกตั้ง ความสัมพันธ์ระหว่างทหารและรัฐบาลก็จะเดินไปด้วยกัน เหมือนปาท่องโก๋
พล.อ.สพรั่ง กล่าวต่อถึงประเด็นความขัดแย้ง
ระหว่าง พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กับ 2 รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ว่า ในวันนี้จะเชิญ พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รวมถึงประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคมมาเจรจาไกล่เกลี่ยยุติปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เชื่อว่าจะช่วยให้ทั้ง 2 ฝ่ายมีความเข้าใจอันดีต่อกันได้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การแสดงท่าทีของ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ ที่มีต่อหน่วยงานต่างๆ ผ่านทางสื่อมวลชน เป็นการกระทำที่มาจากเจตนาดีในการทำหน้าที่ และต้องการแก้ไขปัญหาในหน่วยงาน แต่ควรจะต้องปรับปรุงวิธีการแสดงออกจากการให้ข้อมูลผ่านสื่อ มาเป็นการเจรจาระหว่างกันโดยตรงมากกว่า