กกต.เริ่มตัดสิทธิผู้สมัครแล้ว - เขต ทรท.คนเดียวพุ่ง 11 เขต

กกต.เริ่มตัดสิทธิผู้สมัครแล้ว - เขต ทรท.คนเดียวพุ่ง 11 เขต

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 เมษายน 2549 21:12 น.

กกต.เริ่มตัดสิทธิผู้สมัครแล้ว เขต ทรท.คนเดียวพุ่ง 11 เขต คณะกรรมการการเลือกตั้งตัดสิทธิผู้สมัครพรรคการเมืองไม้ประดับ 5 ราย สงขลาเหมา 3 เขต ส่วนชุมพร พังงา จังหวัดละ 1 เขต ส่งผลให้ผู้สมัคร ทรท.ต้องลุ้น 20 เปอร์เซ็นต์ ถึง 11 เขต ขณะเดียวกันเตรียมสอยผู้สมัครเพิ่มอีกวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ปิดรับผู้สมัคร ส.ส.ใหม่ ทั้ง 39 เขต รวมจังหวัดนนทบุรี โดยขณะนี้ กกต.กลางได้แจ้งให้ ผอ.กต.เขต เร่งตรวจสอบคุณสมบัติให้เสร็จสิ้นภายใน 2 วัน นับแต่ปิดรับสมัครนั้น ปรากฏว่า ขณะนี้ ผอ.กกต.จังหวัดได้รับรายงานการตัดสิทธิผู้สมัครจาก ผอ.กต.เขต บ้างแล้ว เช่น จังหวัดสงขลา คณะกรรมการวินิจฉัยคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.มีมติตัดสิทธิ์ผู้สมัครจากพรรคเล็กจำนวน 3 คน ประกอบด้วย น.ส.กนกพร สวัสดิ์ฤทธิรน ผู้สมัครเขต 2 พรรคพลังประชาชน เหตุเพราะมีรายชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้สมัครปาตี้ลิสต์ของพรรคพลังประชาชน, นายวีวัฒน์ พรหมคง ผู้สมัคร เขต 3 พรรคประชากรไทย เนื่องจากศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิ เพราะใช้เอกสารปลอมในการสมัครครั้งที่แล้ว และนายนิติธรรมวัฒน์ รัตนสุวรรณ ผู้สมัครเขต 4 พรรคนขอปลดหนี้ เหตุเพราะเนื่องจากยังมีชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 จ.สงขลา ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

เช่นเดียวกับจังหวัดชุมพร ผอ.กต.เขต 1 ได้ตัดสิทธินายอาคม หญีตน้อย ผู้สมัครพรรคเพื่อนเกษตรไทย ทำให้เขต 1 และ 3 มีผู้สมัครของพรรคไทยรักไทยเลือกเพียงคนเดียว รวมถึงเขต 1 จังหวัดพังงา ที่ ผอ.กต.เขต ตัดสิทธินายสุริยน หมีเหม ผู้สมัครจากพรรคที่ดีกว่า และก่อนหน้านี้ได้มีการไม่รับสมัครนายนิกร นิติธรรมธนากุล ผู้สมัครพรรคประชากรไทย เนื่องจากเอกสารไม่ครบ จึงทำให้เหลือเพียงนายปราโมทย์ แหล่ทองคำ จากพรรคไทยรักไทย เป็นผู้สมัครคนเดียวของเขต

ขณะที่จังหวัดเพชรบุรีก็ได้มีการประกาศรายชื่อผู้สมัครทั้ง 3 คน ของเขตเลือกตั้งที่ 1 เป็นผู้มีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งแล้ว ส่วนจังหวัดอื่นๆ นั้นมีรายงานว่าเตรียมที่จะตัดสิทธิ์ผู้สมัครพรรคการเมืองเล็กอีกหลายคน แต่ขณะนี้รอเพียงข้อมูลการยืนยันจาก กกต.กลาง และจะประกาศผลการตัดสิทธิ์ในวันนี้ (11 เม.ย.)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการตัดสิทธิผู้สมัครลงรับเลือกตั้งดังกล่าวทำให้ในขณะนี้ใน 38 เขตเลือกตั้ง มีเขตเลือกตั้งที่มีผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยเพียงคนเดียวลงสมัครเพิ่มจากเดิมที่มี 6 เขต เป็น 11 เขตเลือกตั้งแล้ว

ถาวร เชื่อ 23 เม.ย.ได้ข้อยุติสมัครเลือกตั้งใหม่ผิด กม.หรือไม่

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 เมษายน 2549 21:02 น.

ศาลปกครองเปิดไต่สวนฉุกเฉินเพื่อพิจารณาต้องสั่ง กกต.ระงับการรับสมัคร ส.ส.ใหม่ 38 เขตหรือไม่ เตรียมชี้ขาดไม่เกิน 12 เม.ย.นี้ ขณะที่รองเลขาฯ ปชป.เชื่อคดีลากยาวถึง 23 เม.ย. เผยเตรียมฟ้องคดีอาญา เหตุ กกต.ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม กรณีให้ผู้สมัครใหม่จับสลากหมายเลข ส่วนผู้สมัคร ทรท.ใช้หมายเลขเดิม

นายสมชัย วัฒนการุณ ตุลาการเจ้าของสำนวนได้เปิดไต่สวนฉุกเฉินเพื่อพิจารณาว่าจำเป็นที่จะต้องกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาสั่งระงับการประกาศรับสมัคร ส.ส.ใหม่ 38 เขตเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ไว้ก่อนมีคำพิพากษาหรือไม่ โดยนายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และนายยงเกียรติ อดิเศรษฐกุล รองผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย กกต.ได้เข้าให้ข้อมูล

นายถาวร กล่าวภายหลังการชี้แจงว่า ศาลปกครองจะพิจารณาว่าจำเป็นต้องกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวหรือไม่ ภายในวันที่ 12 เมษายนนี้ ซึ่งหากผลเป็นไปตามที่ร้องขอ จะส่งผลให้ กกต.ไม่สามารถจัดเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 23 เมษายนนี้ เว้นแต่จะออกประกาศใหม่โดยให้มีผู้สมัครเพียงรายเดิม อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าศาลปกครองจะสั่งออกมาในรูปแบบใด ทั้งตนและกกต.ก็ยังมีสิทธิ์อุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลปกครองสูงสุดอีกครั้ง แต่ทั้งหมดนี้จะต้องให้สิ้นสุดก่อนวันที่ 23 เมษายน ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง

นายถาวร กล่าวว่า ระหว่างให้ข้อมูลในชั้นไต่สวนนั้น ได้ยก พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส. และส.ว.มาตรา 74 ซึ่งระบุแนวทางปฏิบัติให้ กกต.จัดการเลือกตั้งใหม่เฉพาะผู้สมัครที่ได้คะแนนไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ไม่อาจเปิดรับสมัครใหม่ได้มาชี้แจงต่อตุลาการเจ้าของสำนวน แต่ฝ่าย กกต.กลับอ้างอำนาจตามมาตรา 145 แห่งรัฐธรรมนูญ ซึ่งบัญญัติอำนาจของ กกต.ไว้กว้างขวางมาก ทั้งที่เวลาปฏิบัติจะต้องดูกฎหมายลูกเป็นหลัก

ผมได้หยิบยกกรณีการเลือกตั้งที่เขต 3 จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2548 ระหว่างนายปราเมศ โพธารากุล ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ และนายเรวัต ศิรินุกูล ผู้สมัครพรรคไทยรักไทย ซึ่งนายปราเมศชนะมากกว่าหมื่นคะแนน แต่ภายหลัง กกต.ให้ใบแดงเนื่องจากตรวจพบว่านายปราเมศเป็นสมาชิกของพรรคมหาชนซ้ำซ้อนอยู่ ซึ่งครั้งนั้น กกต.ก็สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยไม่ประกาศรับสมัครเพิ่ม จึงมีผู้สมัครเพียงคนเดียว เมื่อเทียบเคียงกับกรณีนี้จะเห็นว่า กกต.ไปห่วงกังวลแทนพรรคไทยรักไทย และกลัวว่าจะได้ ส.ส.ไม่ครบ 500 คน ทำให้ไม่สามารถเปิดประชุมรัฐสภาได้ ทั้งนี้ กฎหมายไม่ได้ระบุว่าเป็นความผิดของ กกต.ถ้าไม่ได้ตามกำหนดก็แค่รายงานไปยังรัฐบาลหรือสภาเท่านั้น

นายถาวร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้การที่ กกต.ประกาศให้ผู้สมัครรายใหม่ต้องจับสลากหมายเลข ขณะที่ผู้สมัครพรรคไทยรักไทยสามารถใช้เบอร์เดิม ซึ่งเป็นการได้เปรียบเสียเปรียบแก่กัน เนื่องจากผู้สมัครของพรรคไทยรักไทยได้หาเสียงล่วงหน้ามานานแล้ว ตนจึงเตรียมจะยื่นฟ้องคดีอาญาต่อ กกต.ในข้อหาการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่โดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์