แฉพื้นที่สีแดงในภาคอีสาน เคลื่อนไหวคว่ำรธน.50สูง

“วิฑูรย์” แฉพื้นที่สีแดงอีสาน เคลื่อนไหวคว่ำรธน.50 สูง มียุให้ประชาชนไม่ไปลงประชามติค่าหัว 300 บาท แถมซีดีปราศรัย นปก.-ประวัติแม้ว-เสื้อ เชื่อกระบวนการคว่ำรธน.50เพื่อจัดเกรดให้เงินว่าที่ผู้สมัครกลุ่มอำนาจเก่าหาเสียง “องอาจ”หวั่นวงจรอุบาทว์การเมืองกลับมา จี้ทุกภาคส่วนต่อต้าน

(12สค.) นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งดูแลพื้นที่ภาคอีสาน แถลงว่า ในเขตพื้นที่ 19 จังหวัดภาคอีสาน มีการณรงค์ให้ประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ โดยมีการแจกสิ่งของ อาทิ เสื้อยืด ที่มีข้อความ “We vote NO” และ “คนรักทักษิณ ไม่เอาเผด็จการ” แจกเอกสาร ที่ระบุว่า “ค้นบ้านไม่ต้องมีหมายจับ อันตรายของรธน. 50” และ “ถ้าอยากเลือกตั้งเร็ว ต้องคว่ำ รธน. 50” รวมไปถึงซีดีบันทึกการปราศรัยของกลุ่มแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตย ขับไล่เผด็จการ (นปก.) ที่มีการตัดต่อข้อความ ซึ่งจัดทำโดยกลุ่มไทยรักไทย อีกทั้งมีการจ่ายเงิน 2 รูปแบบ คือ 1.จ่ายเงินให้คนละ 200 บาท เพื่อไม่ให้ไปใช้สิทธิ์ ออกเสียงลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 และ 2. จ่ายเงินให้คนละ 300 บาท เพื่อให้ไปใช้สิทธิ์ โดยออกเสียงไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550

นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า กระบวนการเคลื่อนไหวเพื่อไม่ให้รับร่างรัฐธรรมนูญ ดังกล่าว มีผลต่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคการเมืองกลุ่มอำนาจเก่า โดยถ้าคะแนนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญมีคะแนนสูงมากในพื้นที่ใด ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในพื้นที่นั้นก็จะถูกจัดอันดับให้เป็นผู้สมัครเกรดเอ เพราะถือว่ามีศักยภาพ มีอำนาจ มีเครือข่ายจำนวนมาก และเพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการให้เงินสนับสนุน ส่วนหากพื้นที่ใด คะแนนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญมีน้อย ก็จะถือว่าว่าที่ผู้สมัครของพื้นที่นั้นไม่มีศักยภาพ อย่างไรก็ตามแม้จะมีการจ่ายเงินให้ประชาชนไม่ให้ไปลงประชามติ ตนเชื่อว่าประชาชนจะไปใช้สิทธิจำนวนมาก ส่วนที่มีการแจกเสื้อนั้นพบว่าประชาชนจำนวนมากไม่กล้าใส่ เพราะเกรงจะถูกมองว่าเป็นพวกก่อความวุ่นวาย จึงนำเสื้อที่ได้รับไปเป็นเพียงผ้ากันเปื้อน หรือผ้าเช็ดรถ

นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า พื้นที่สีแดงที่มีการจ่ายเงินกันมาก คือ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีษะเกษ หรือ จังหวัดที่อยู่ในเครือข่ายของนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มไทยรักไทย รวมทั้งพื้นที่ ที่มีผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคพลังประชาชนลงตัวแล้ว สำหรับในจ.อุบลราชธานี ที่มีการแจกเงินเพื่อคว่ำ ร่างรัฐธรรมนูญ มี 7 เขต ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมของกลุ่มอำนาจเก่า แต่อย่างไรก็ตามในอีก 1-2 วันกระแสรับร่างรัฐธรรมนูญจะมีมากกว่าไม่รับ ทั้งนี้อยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เพราะประชาชนไม่กล้ามาให้ข้อมูลให้กับ กกต. เอง เพราะไม่อยากเป็นคดีความ ซึ่งกระบวนการดังกล่าว ทางกกต. จังหวัดทราบดี จึงขอให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยด่วน

ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าสถานการณ์การเมืองปัจจุบันที่มีการเคลื่อนไหวทั้งให้รับ และไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ถือว่ามีความเชื่อมโยงกับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์ได้วิตกกังวลในเรื่องที่มีการใช้เงินเข้ามาเป็นเครื่องมือในการจูงใจประชาชนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่เป็นความต้องการของกลุ่ม พรรค และตนเอง ซึ่งจะทำให้เงินกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกตั้ง ส่งผลให้วงจรอุบาทว์กลับมาอีก

“ขอเรียกร้องประชาชน ข้าราชการ นักธุรกิจ และผู้ที่หวังดีต่อประเทศชาติ ต้องปฏิเสธการใช้เงินในการรงรงค์เห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบรัฐธรรมนูญ ปี 2550 เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าไปสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นอกจากนี้ กกต. ต้องประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนเห็นความชั่วร้ายของผลการใช้เงินที่จะทำให้เกิดวงจรอุบาทว์กลับมาอีก” นายองอาจกล่าว