โดยมีบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรค น.ส.อนุตมา อมรวิวัฒน์ รักษาการรองเลขาธิการพรรค น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิช อดีต ส.ส.กทม. ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีต ส.ส.ขอนแก่น ร่วมให้กำลังใจ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย ทั้งนี้ ทันทีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์มาถึง กลุ่มมวลชนไม่ได้ตะโกนส่งเสียงโห่ร้องให้กำลังใจเหมือนทุกครั้ง มีเพียงการชูข้อความบนกระดาษให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์เท่านั้น
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าศาล กรณีกระทรวงการคลังส่งคำสั่งทางปกครองเรียกค่าเสียหาย ในคดีโครงการรับจำนำข้าวกว่า 35,000 ล้านบาท ว่า ได้รับหนังสือทางปกครองเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาแล้ว ส่วนจะทำอย่างไรต่อไปนั้น ขอเรียนว่าในช่วงที่คนไทยกำลังโศกเศร้า จะยังไม่ขอแถลงการณ์ใดๆ จนกว่าจะถึงเวลาอันควร ซึ่งการออกคำสั่งดังกล่าวไม่ถูกต้อง และไม่เป็นธรรมกับตนเป็นอย่างมาก เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องนโยบาย และยังไม่เคยมีใครถูกกระทำในเวลาอันเร่งรีบเช่นนี้มาก่อน
"ดิฉันขอยืนยันจะใช้สิทธิทุกช่องทางตามกฎหมายที่มีในการต่อสู้ครั้งนี้ และขอปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ รวมถึงการใช้คำสั่งที่ไม่ถูกต้องและเป็นธรรม และจะเปิดแถลงการณ์ในเวลาอันควร เพราะเป็นช่วงที่คนไทยทั้งประเทศโศกเศร้า เราคิดว่าเราคงจะไม่พูดอะไรมากในตอนนี้" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ในคำสั่งทางปกครองมีกรอบเวลาให้ร้องคัดค้านต่อศาลปกครอง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยืนยันจะทำตามข้อกฎหมายในทุกช่องทางที่มี เมื่อถามว่าการใช้มาตรา 44 คุ้มครองเจ้าหน้าที่ในการทำงาน มองว่าไม่เป็นธรรมกับตัวเองหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอเบ้าว่า ยืนยันว่า ขบวนการตั้งแต่เริ่มต้นก็ไม่เป็นธรรมอยู่แล้ว ซึ่งดิฉันก็ได้ร้องขอ ก็เรียนว่าใครเป็นอย่างดิฉัน คงรู้ว่ามันไม่ได้รับความเป็นธรรมแค่ไหน
อีกทั้งการดำเนินคดีนี้จะทำให้การบริหารนโยบายเพื่อชาวนาเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง การคิดถึงเรื่องกำไรขาดทุนนั้น รัฐบาลต่อไปคงจะดูแลประชาชนและชาวนาได้ยากขึ้น และมาตรการต่างๆ คงจะไม่สามารถมีได้อีกต่อจากนี้