นายกฯเชื่อทุ่มเงินล้มรธน.ไร้ผลยันไม่ยุ่งตั้งผบ.เหล่าทัพ

นายกฯ เชื่อ ประชาชนมีวิจารณญาณลงประชามติ มั่นใจ การซื้อเสียงในภาคอีสานเพื่อล้มรัฐธรรมนูญไม่มีน้ำหนักพอให้ประชาชนคล้อยตาม ยัน จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวการแต่งตั้ง ผบ.เหล่าทัพ ย้ำมาตรการดูแลค่าบาทเพื่อบริหารเสถียรภาพระยะยาว ชี้ปรับแก้ พ.ร.บ.ต่างด้าวเพื่อความสมดุล

พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ยืนยันผ่านรายการเปิดบ้านพิษณุโลกว่า

กระแสข่าวการล้มรัฐธรรมนูญ โดยผ่านการจ่ายเงินและการยึดบัตรประชาชนในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ทางภาคอีสานนั้น ไม่ได้มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ประชาชนปฏิบัติตาม ซึ่งตนเชื่อมั่นในวิจารณญาณของประชาชน ส่วนกรณีที่รัฐบาลอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทั้งเพิ่มวันหยุดและลดราคาค่าโดยสารนั้น ก็เพื่อให้ประชาชนเดินทางไปใช้สิทธิลงประชามติเกินกว่าร้อยละ 50 เพราะถือว่าเป็นเกณฑ์ที่ให้การยอมรับ

พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรี ระบุว่า

จากการลงพื้นที่ภาคอีสานนั้น พบว่าประชาชนจะเดินทางไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติเกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ ซึ่งนับว่าเป็นกำลังใจที่ดีระดับหนึ่ง

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยืนยันด้วยว่า
 
จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในการแต่งตั้ง ผบ.เหล่าทัพ โดยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งกระบวนการทุกอย่างนั้นก็จะเป็นไปตามขั้นตอน พร้อมยืนยันยังไม่มีบุคคลใดอยู่ในใจ โดยเฉพาะบุคคลที่อยู่ในดีเบต ขณะที่เห็นว่าทหารควรใชเวิจารณญาณในการตัดสินใจเองในการลงเล่นการเมืองว่าเหมาะสมหรือไม่ ต่างเริ่มมีทหารวมตัวกันเพื่อจัดตั้งพรรคการเมือง

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นว่า

นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นบุคคลใดเพราะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนแต่ก็ขอให้เลือกคนดี อย่างไรก็ตามยืนยันเมื่อพ้นจากตำแหน่งแล้ว ก็จะขอกลับไปเป็นคนไทยธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ขณะที่ได้สั่งกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยจับตาสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด ยันการออกมาตรการดูแลในปัจจุบัน เป็นการบริหารค่าเงินบาทเพื่อให้มีเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว

สำหรับการปรับแก้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หลังผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีไปแล้ว ถือว่า

เป็นการเปลี่ยนแปลงในระดับกรรมาธิการ เชื่อเป็นการปรับเพื่อสร้างจุดสมดุล นักลงทุนมีเวลาในการปรับตัว โดยยืนยันว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นระเบียบที่ใช้ดูแลนักลงทุน ไม่ใช่การกีดกัดการลงทุนจากต่างชาติ พร้อมกำชับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รับฟังเสียงสะท้อนจากทุกภาคส่วนใน 1 สัปดาห์