เว็บไซต์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ ของฮ่องกง รายงานอ้างว่า นายโจชัว หว่อง นักศึกษาวัย 19 ปี อดีตแกนนำเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลจีนในฮ่องกง ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุท้องถิ่นของฮ่องกง เกี่ยวกับกรณีที่ถูกทางการไทยห้ามเข้าประเทศ และส่งตัวกลับเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยนายหว่อง เรียกร้องให้หน่วยงานความมั่นคง และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของฮ่องกงติดตามกรณีดังกล่าวกับทางการไทย
ทั้งนี้ นายหว่อง ได้รับเชิญจากนักศึกษานักเคลื่อนไหวชาวไทยให้เข้าร่วมกล่าวปาฐกถา 6 ตุลา ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ขณะเดินทางถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม กลับถูกเจ้าหน้าที่ ตม.ของไทยกักตัวเอาไว้นาน 12 ชั่วโมง ก่อนส่งตัวกลับ
นายหว่อง ระบุว่า ประเทศใดประเทศหนึ่งมีสิทธิที่จะปฏิเสธการเดินทางเข้าประเทศของใครก็ได้ที่ต้องการ แต่การดำเนินการตามบัญชีดำของประเทศอื่นนั้นเป็นสิ่งที่ยากเกินกว่าจะเข้าใจ การพิจารณาว่าผมเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสาธารณะหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประเทศนั้นๆ
‘แต่เมื่อพวกเขาบอกผมว่าผมเป็นที่ต้องการของอีกประเทศหนึ่ง ผมค่อนข้างช็อกจริงๆ ผมคิดว่าหน่วยงานความมั่นคง และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของฮ่องกง มีหน้าที่ในการติดตามกรณีนี้ ผมจะไม่เดินทางเข้าประเทศไทยหรือมาเลเซีย ประเทศซึ่งปฏิเสธไม่ให้ผมเข้าประเทศอีก' นายหว่อง กล่าว
นายหว่องเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่เขาถูกควบคุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิของไทย โดยระบุว่า เขาถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองราว 20 นาย ที่งวงช้างเครื่องบินขณะลงจากเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเจ้าหน้าที่สั่งให้ยืนยันชื่อ ก่อนจะยึดพาสปอร์ตและนำตัวไปยังห้องขัง ตอนนั้นคิดว่ามีโอกาส 50/50 ที่จะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง เพราะเคยโดนส่งกลับจากที่มาเลเซียมาแล้ว แต่ไม่ได้คิดเลยว่าจะถูกคุมตัวก่อนที่จะเหยียบไปบนสนามบินด้วยซ้ำ
‘ผมร้องขอให้เจ้าหน้าที่อธิบายเหตุผลว่าตนทำผิดกฎหมายใดของไทย ร้องขอทนายและขอติดต่อกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองฮ่องกงและครอบครัว คำขอทั้งสามนั้นถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธทั้งหมด ผมไม่ได้รับการจัดหาล่าม และถูกคุมตัวอยู่ในห้องขังขนาด 50 ตารางฟุต และแยกออกจากผู้ถูกควบคุมตัวคนอื่นๆที่อยู่รวมเป็นกลุ่ม แต่ก็ได้รับน้ำและอาหารจากเจ้าหน้าที่ไทย' นายหว่อง กล่าว
ขณะที่รายงานของเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ทางการไทยยืนยันว่าการส่งตัวนายหว่องกลับนั้นเป็นไปตามคำร้องขอของรัฐบาลจีน ขณะที่กระทรวงต่างประเทศจีนระบุว่า จีนเคารพกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองของทางการไทย