วันที่ 21 ก.ย. ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาคดีบุกรุกที่เขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายพรชัย ฟ้าทวีพร อายุ 51 ปี, นายสามารถ เรืองศรี อายุ 59 ปี , นายแทน เทือกสุบรรณ อายุ 35 ปี บุตรชายของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายบรรเจิด เหล่าปิยะสกุล อายุ 61 ปี อดีตเลขานุการส่วนตัวของนายสุเทพ ในความผิดร่วมฐาน ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถางป่า หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองและผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต และฐานเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ก่อสร้าง หรือเผาป่าในที่ดินของรัฐโดยมิได้มีสิทธิครอบครองหรือไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ในคำฟ้องบรรยายความผิดสรุปว่า จำเลยที่ 1-2 ร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ทำลาย แผ่วถางป่าเขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 31 ไร่ 2 งาน 97 ตารางวา จำเลยที่ 3-4 ร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ทำลาย แผ่วถางป่าเขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 14 ไร่ ด้วยการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งชั้นพิจารณาจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์ พยานหลักฐานสองฝ่ายแล้วพบว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามฟ้อง จึงพิพากษาให้ นายพงษ์ชัย และนายสามารถ จำเลยที่ 1-2 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ ให้จำคุกคนละ 5ปี ขณะที่นายแทน และนายบรรเจิด จำเลยที่ 3-4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน และ พ.ร.บ. ป่าไม้ฯ ให้จำคุกคนละ 3ปี ศาลพิเคราะห์เห็นว่าสภาพความผิดเป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ นอกจากนี้ยังให้ จำเลยทั้งสี่และบริวารออกจากที่ดินและป่าไม้บริเวณที่เกิดเหตุ
หลังจากศาลมีคำพากษา ทนายความจำเลยได้ยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ต่อสู้คดี โดยศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยตีราคาประกันจำเลยที่ 1-2 คนละ 800,000 บาท และจำเลยที่ 3-4 คนละ 500,000 บาท พร้อมห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล