ล่าสุด ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.5 กล่าวถึงการดำเนินคดี ว่า พนักงานสอบสวน สน.บางนา ได้ตั้งข้อหากับนายปิยะรัตน์ 4 ข้อหา คือ ความผิดตาม พ.ร.บ.ประชามติ 2 ข้อหา คือ ฉีกทำลายบัตร และรบกวนขัดขวางการลงประชามติ ความผิดตามคดีอาญา 2 ข้อหา คือ ฉีกทำลายเอกสารทางราชการ และทำให้เสียทรัพย์ แต่ทางผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ทั้งยังให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงอนุญาตให้ประกันตัวไปตั้งแต่ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังดำเนินคดีกับผู้ถ่ายคลิป และผู้ติดตามอีก 1 คน เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าเข้าข่ายจงใจ กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ประชามติ ข้อหารบกวนขัดขวางการลงประชามติ ทั้งนี้ ได้มีการแจ้งข้อหากับทั้งสองคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนการดำเนินคดีรวบรวมพยานหลักฐานและทำสำนวน เบื้องต้นได้ให้เวลาพนักงานสอบสวน สน.บางนา เป็นเวลา 3 - 4 วัน ก่อนจะให้รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เข้าไปตรวจสอบสำนวนอย่างละเอียดอีกครั้ง หากยังไม่เรียบร้อยก็ต้องมีการแก้ไข แต่จะไม่เกินในกรอบเวลาตามกฎหมาย คือ 1 เดือน ก่อนยื่นต่ออัยการ และส่งต่อให้ศาลพิจารณา แต่เชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากคดีนี้ไม่มีความซับซ้อน และมีความผิดชัดเจน
พล.ต.ต.สมประสงค์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ได้ส่งโทรศัพท์มือถือของผู้ที่ถ่ายคลิป ไปให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่า มีการส่งคลิปการฉีกบัตรไปให้กับใครบ้าง และจงใจจะเผยแพร่หรือยุยงส่งเสริมให้เกิดการฉีดบัตรในพื้นที่อื่นๆ อีกหรือไม่ เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า มีการส่งคลิปภาพไปให้กับสื่อมวลชนราย 1 โดยในวันนี้จะมีการพิจารณาว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือข้อกฎหมายอื่นหรือไม่ คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน