ตามคาด กกต.ตัดสิน แม้ว ปราศรัยฯ - ม็อบเชลียร์หนุนไม่ผิด กม.เลือกตั้ง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 เมษายน 2549 19:00 น.

คณะอนุกรรมการสืบสวนฯ กกต.ชงผลสอบถึงมือวาสนา ตัดสิน ทักษิณ ปราศรัยที่ จ.ขอนแก่น-คาราวานคนจนตั้งเวทีหนุน ทักษิณ เป็นนายกฯ ไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง อ้างปราศรัยงบเอสเอ็มแอลเป็นนโยบายของรัฐ ไม่ใช่เงินพรรค ทรท.หรือเงินส่วนตัว ขณะเดียวกัน ม็อบเชลียร์แม้วสามารถชุมนุมได้โดยสงบ ส่วนกรณี แม่ยายนายกฯ แจกผ้าโพกหัว ต้องสอบข้อมูลเพิ่มโดยขอภาพข่าวจากทีวีทุกช่อง

จากกรณีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ยื่นหนังสือให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สืบสวนสอบสวนการกระทำผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. พ.ศ.2541 และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย โดยได้ยื่นเรื่องให้สอบสวน 4 ประเด็น

1.เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2549 พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นประธานเปิดร้านค้าชุมชนเอสเอ็มแอลที่บ้านหนองผือ ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และปราศรัยตอนหนึ่งว่า ปีนี้หนองผือได้เอสเอ็มแอล 3 แสนบาทต่อปี ปีหน้า 3 แสนบาท ปีต่อไปได้ 3 แสนบาท แต่มีข้อแม้ตนต้องได้เป็นนายกฯ 2.เมื่อวันที่ 18 และ 24 มี.ค.2549 นายคำตา แคนบุญจันทร์ เลขาธิการคาราวานคนจน จัดแสดงบนเวทีสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยมีการแสดงตลกและดนตรีไปพร้อมกัน 3.เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2549 นางพจนีย์ ณ ป้อมเพชร ได้แจกผ้าโพกหัวและเสื้อ ทักษิณสู้ ๆ ต่อคาราวานคนจนที่เดินทางมาให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สวนจตุจักร 4.เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2549 ในการปราศรัยใหญ่ของพรรคไทยรักไทยที่วงเวียนใหญ่ กรุงเทพฯ มีการขายเสื้อและผ้าโพกหัว ราคา 20 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าตลาด

รายงานข่าวจากอนุกรรรมการสืบสวนฯ แจ้งว่า การสอบสวนกรณีดังกล่าวตามที่ได้ขอขยายเวลาเพิ่มอีก 10 วันนั้น ได้ข้อสรุปและได้รายงานให้ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต. ทราบถึงผลการสอบสวน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสรุปออกมาว่า ประเด็นแรก เรื่องการปราศรัยในลักษณะสัญญาว่าจะให้นั้น หากดูจากเจตนาเป็นการประกาศผลงานในนามของรัฐบาล ซึ่งเรื่องกองทุนหมู่บ้าน (เอสเอ็มแอล) ถือว่าเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่ได้ประกาศให้ประชาชนทราบ รวมทั้งได้พิจารณาว่าเงินที่จะนำมาแจกเป็นงบประมาณของรัฐบาล ไม่ใช่เป็นในนามส่วนตัว หรือพรรคไทยรักไทย จึงถือว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ ส่วนกรณีกลุ่มคาราวานที่ได้ปักหลักที่สวนจตุจักร สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ถือว่าเป็นการชุมนุมตามปกติที่รัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้มีการชุมนุมได้โดยสงบ

อย่างไรก็ตาม มีการถกเถียงอย่างกว้างขวางในที่ประชุมชุดที่มี นายไพฑูรย์ เนติโพธิ์ เป็นประธานอนุกรรมการฯ ในประเด็น นางพจนีย์ ณ ป้อมเพชร มารดาของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เนื่องจากยังขาดหลักฐานภาพถ่าย ขณะนางพจนีย์แจกจ่ายเสื้อและผ้าโพกหัว ข้อความ ทักษิณสู้ ๆ ให้กับกลุ่มคาราวานคนจนที่สวนจตุจักร ซึ่งที่ผ่านมาทางอนุกรรมการฯ ได้ประสานไปยังสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง เพื่อขอความร่วมมือนำภาพดังกล่าวมาประกอบการพิจารณา แต่ปรากฏว่า ไม่มีสถานีใดส่งภาพให้อนุกรรมการสอบสวนฯ

นอกจากนี้ ยังถกเถียงว่า การแจกสิ่งของดังกล่าวนางพจนีย์ได้สนับสนุนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่ เช่น การพูดว่าให้เลือกพรรคไทยรักไทยเบอร์ 2 หรือให้เลือก พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาทำหน้าที่อีกครั้ง หากไม่มีการพูดลักษณะดังกล่าว อาจจะไม่เข้าข่ายทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง จึงยืนยันไปตามหลักฐานพยานที่เรียกมาสอบก่อนหน้านี้

แต่เพื่อความชัดเจน จึงอยากได้ภาพดังกล่าวพร้อมคำพูดว่าให้เลือกเบอร์ 2 เพื่อยืนยันเจตนาอีกครั้ง เพื่อคลายความสงสัยของคณะอนุกรรมการฯ ว่าที่ได้สรุปไปนั้นตรงตามข้อเท็จจริง

รายงานข่าวจากอนุกรรมการฯ แจ้งอีกว่า หากนำกรณีเทียบเคียงกันในขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปยังอิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ในการเปิดงาน พลังอาชีวะ สร้างชาติ ในช่วงที่มีพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง พร้อมทั้งควักเงินส่วนตัวแจกจ่ายให้นักเรียนจำนวน 1 พันบาทนั้น มาเทียบเคียง

โดยเรื่องนี้ได้เรียกพยานมาสอบสวนแล้ว ระบุว่า เป็นการให้เงินเพื่อสมัครสมาชิกนิตยสาร ไม่ได้แจกจ่ายเพื่อหวังผลทางการเมืองแต่อย่างใด และอนุกรรมการสอบสวนฯ ได้ยืนยันตามคำพูดพยานรายดังกล่าว

คณะอนุกรรรมการสืบสวนฯของ กกต. ส่งผลสอบกรณีพันธมิตรร้องให้ตรวจสอบ "ทักษิณ" ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง 4 ประเด็น ถึงมือ "วาสนา" แล้ว ชี้ปราศรัยที่ จ.ขอนแก่น คาราวานคนจนตั้งเวทีหนุนไม่ผิด ยังติดใจกรณี แม่ยาย แจกผ้าโพกหัวกับคาราวานคนจน ต้องสอบข้อมูลเพิ่ม เตรียมขอภาพข่าวจากทีวีทุกช่อง

กรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ยื่นหนังสือให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สืบสวนสอบสวนการกระทำผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. พ.ศ.2541 และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคไทยรักไทย โดยได้ยื่นเรื่องให้สอบสวน 4 ประเด็น

1.เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2549 พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นประธานเปิดร้านค้าชุมชนเอสเอ็มแอลที่บ้านหนองผือ ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และปราศรัยตอนหนึ่งว่า "ปีนี้หนองผือได้เอสเอ็มแอล 3 แสนบาทต่อปี ปีหน้า 3 แสนบาท ปีต่อไปได้ 3 แสนบาท แต่มีข้อแม้ตนต้องได้เป็นนายกฯ"

2.เมื่อวันที่ 18 และ 24 มี.ค.2549 นายคำตา แทนบุญจันทร์ เลขาธิการคาราวานคนจน จัดแสดงบนเวทีสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยมีการแสดงตลกและดนตรี

3.เมื่อวันที่ 24 มี.ค.49 นางพจนีย์ ณ ป้อมเพชร ได้แจกผ้าโพกหัวและเสื้อ "ทักษิณสู้ ๆ" ต่อคาราวานคนจนที่เดินทางมาให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สวนจตุจักร

4.เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2549 ในการปราศรัยใหญ่ของพรรคไทยรักไทยที่วงเวียนใหญ่ กรุงเทพฯ มีการขายเสื้อและผ้าโพกหัว ราคา 20 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าตลาด

วันที่ 9 เม.ย.มีรายงานข่าวจากอนุกรรรมการสืบสวนฯแจ้งว่า การสอบสวนกรณีดังกล่าวตามที่ได้ขอขยายเวลาเพิ่มอีก 10 วันนั้น ได้ข้อสรุปและได้รายงานให้ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต. ทราบถึงผลการสอบสวน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสรุปออกมาว่า ประเด็นแรกเรื่องการปราศรัยในลักษณะสัญญาว่าจะให้นั้น หากดูจากเจตนาเป็นการประกาศผลงานในนามของรัฐบาล ซึ่งเรื่องกองทุนหมู่บ้าน (เอสเอ็มแอล) ถือว่าเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่ได้ประกาศให้ประชาชนทราบ รวมทั้งได้พิจารณาว่าเงินที่จะนำมาแจกเป็นงบประมาณของรัฐบาล ไม่ใช่เป็นในนามส่วนตัวหรือพรรคไทยรักไทย จึงถือว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ ส่วนกรณีกลุ่มคาราวานที่ได้ปักหลักที่สวนจตุจักร สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ถือว่าเป็นการชุมนุมตามปกติที่รัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้มีการชุมนุมได้โดยสงบ

อย่างไรก็ตาม มีการถกเถียงอย่างกว้างขวางในที่ประชุมชุดที่มี นายไพฑูรย์ เนติโพธิ์ เป็นประธานอนุกรรมการฯ ประเด็นนางพจนีย์ ณ ป้อมเพชร มารดาของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท. ทักษิณ นั้น ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เนื่องจากยังขาดหลักฐานภาพถ่าย ขณะนางพจนีย์แจกจ่ายเสื้อและผ้าโพกหัว ข้อความ ทักษิณสู้ ๆ ให้กับกลุ่มคาราวานคนจนที่สวนจตุจักร

ที่ผ่านมาทางอนุกรรมการฯ ได้ประสานไปยังสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง เพื่อขอความร่วมมือนำภาพดังกล่าวมาประกอบการพิจารณา แต่ปรากฏว่าไม่มีสถานีใดส่งภาพให้อนุกรรมการสอบสวนฯ นอกจากนี้ ยังถกเถียงว่าการแจกสิ่งของดังกล่าวนางพจนีย์ได้สนับสนุนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่ เช่น การพูดว่าให้เลือกพรรคไทยรักไทยเบอร์ 2 หรือให้เลือก พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาทำหน้าที่อีกครั้ง หากไม่มีการพูดลักษณะดังกล่าว อาจจะไม่เข้าข่ายทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง จึงยืนยันไปตามหลักฐานพยานที่เรียกมาสอบก่อนหน้านี้

แต่เพื่อความชัดเจน จึงอยากได้ภาพดังกล่าวพร้อมคำพูดว่าให้เลือกเบอร์ 2 เพื่อยืนยันเจตนาอีกครั้ง เพื่อคลายความสงสัยของคณะอนุกรรมการฯว่า ที่ได้สรุปไปนั้นตรงตามข้อเท็จจริง แหล่งข่าวคนเดิม กล่าวและว่า

หากนำกรณีเทียบเคียงกันขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปยังอิมแพค อารีนา เมืองทองธานี ในการเปิดงาน พลังอาชีวะ สร้างชาติ ช่วงที่มีพระราชกฤษฎีการเลือกตั้ง พร้อมทั้งควักเงินส่วนตัวแจกจ่ายให้นักเรียนจำนวน 1 พันบาทนั้นมาเทียบเคียง โดยเรื่องนี้ได้เรียกพยานมาสอบสวนแล้ว ระบุว่าเป็นการให้เงินเพื่อสมัครสมาชิกนิตยสาร ไม่ได้แจกจ่ายเพื่อหวังผลทางการเมืองแต่อย่างใด และอนุกรรมการสอบสวนฯ ได้ยืนยันตามคำพูดพยานรายดังกล่าว