ชท.ถกเครียดข้อเสนอคว่ำบาตรเลือกตั้ง - ชี้ ทักษิณ เอาเปรียบ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 กุมภาพันธ์ 2549 14:57 น.

พรรคชาติไทยนัดประชุมเครียดตั้งแต่เช้า รับพิจารณาข้อเสนอคว่ำบาตรเลือกตั้งประท้วง ทักษิณ ยุบสภาไร้ความชอบธรรมเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น ระบุเลือกตั้งคราวนี้สาหัสกว่าครั้งที่แล้วเสียเปรียบทุกประตู

วันนี้ (25 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ได้เดินทางเข้าที่ทำการพรรคชาติไทย ตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อประชุมเพื่อกำหนดท่าทีของพรรคหลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เลือกใช้วิธีการยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยมีบรรดาแกนนำของพรรคชาติไทยต่างทยอยเดินทางเข้ามายังที่ทำการพรรค อาทิ นายนิกร จำนง นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย

โดย นายบรรหาร เดินทางเข้าพรรคด้วยสีหน้าที่ไม่เคร่งเครียด แต่เดินขากะเผลกเนื่องจากยังมีอาการเจ็บขาจากการลื่นล้มเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน พร้อมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ถึงขาเจ็บก็จะสู้ และพร้อมลงพื้นที่หาเสียงกับลูกพรรคทุกคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบรรหารได้ใช้เวลาทำงานอยู่ในที่ทำการพรรคชาติไทย ประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนที่จะเดินทางไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเตรียมความพร้อมในพื้นที่เพื่อเตรียมตัวเลือกตั้งและเดินทางกลับมายังที่ทำการพรรคชาติไทยอีกครั้งในเวลา 16.00 น.

นายนิกร กล่าวว่า ทางพรรคชาติไทยได้เรียกประชุมสมาชิกเพื่อหารือการเตรียมการเลือกตั้งและตรวจสอบคุณสมบัติ คัดเลือกตัวผู้สมัคร โดยมั่นใจว่าหลายเขตในภาคอีสานพรรคชาติไทยมีโอกาสที่จะได้รับการเลือกตั้งสูง ส่วนในภาคใต้ตนรับหน้าที่รับผิดชอบดูแลก็จะได้หารือกับนายกูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส เพื่อเตรียมยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคใต้ต่อไป ซึ่งมีแนวโน้มว่าเราจะส่งผู้สมัครของภาคใต้เพิ่มอีก 1 คนใน จ.นราธิวาส

นายนิกร กล่าวว่า การยุบสภาครั้งนี้เกิดจากปัญหาทางการเมือง ซึ่งระยะเวลาอันสั้นนี้พรรคชาติไทยจะไม่ใช้นโยบายของพรรคมาเป็นปัจจัยหลักในการหาเสียง แต่จะชูประเด็นการปฏิรูปการเมืองรอบสอง คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะเรื่องปลดล็อก 90 วัน

ขณะนี้นายบรรหารเองกำลังพิจารณาว่า ตัวเองจะลงสมัคร ส.ส.ระบบเขตหรือระบบบัญชีรายชื่อ เนื่องจาก จ.สุพรรณบุรี ประสบปัญหาว่าจำนวนเขตจะต้องลดลงจาก 6 เขต เหลือเพียง 5 เขตเท่านั้น เพราะจำนวนประชากรลดลง นายนิกร กล่าว

ด้าน นายสมศักดิ์ ปริศนานัทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย เรียกร้องให้พรรคการเมืองอื่นยกเว้นพรรคไทยรักไทยไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงสมัครทั้งระบบบัญชีรายชื่อ และเขตเลือกตั้ง เพื่อไม่ส่งเสริมระบอบทักษิณว่า พรรคชาติไทยได้ประกาศแนวทางที่ชัดเจน คือ พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย.

ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรฯ ถือเป็นอีกทางหนึ่งที่เขาเห็นว่าทางออกที่ดีควรที่จะให้มีการปฏิรูปทางการเมืองจริงๆ แต่พรรคการเมืองต้องอยู่ภายในระบบเป็นไปตามกลไกตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคชาติไทยมองเห็นว่าแนวทางในการเลือกตั้งใหม่เป็นแนวทางตามระบบ หากประชาชนช่วยกันก็สามารถไปได้ ซึ่งแนวคิดนี้ก็เป็นแนวคิดของคนบางกลุ่มหรือพรรคการเมืองบางพรรค ซึ่งพรรคชาติไทยจะได้หยิบประเด็นข้อเรียกร้องดังกล่าวหารือในที่ประชุมพรรควันนี้ เพราะเมื่อสังคมตั้งประเด็นขึ้นมาก็เป็นเรื่องที่น่าคิด พรรคชาติไทยก็จะเปิดให้สมาชิกได้แสดงความเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร

ถามว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน ประเมินสถานการณ์การเมืองว่าอาจจะไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 2 เม.ย.นี้ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า มีหลายๆ คนคิดแบบนี้ ซึ่ง พล.ต.สนั่นก็มีประสบการณ์การทางการเมืองสูง ท่านก็วิเคราะห์ไปได้ว่ายุบสภาแล้วให้มีการเลือกตั้งใหม่ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่แท้จริง เพราะการเลือกตั้งในช่วงนี้ทุกคนก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร รู้ว่าไม่ได้ช่วยให้แก้ปัญหาแต่ยิ่งทำให้ปัญหาบานปลาย

เมื่อถามว่า คาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคชาติไทยจะได้ ส.ส.เข้ามามากกว่าเดิมหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในห้วงเวลาและกติกาเช่นนี้ ข้อได้เปรียบของพรรคไทยรักไทยมีมาก คงยากที่พรรคชาติไทยจะได้ ส.ส.เข้ามามาก และคิดว่าน่าจะยากลำบากกว่าที่ผ่านมา ในความรู้สึกทุกคนคิดว่ายาก ซึ่งขณะนี้ผู้สมัคร ส.ส.เก่าของพรรคหลายคนก็ได้ลาออกจากพรรคเพื่อไปลงสมัคร ส.ว. ดังนั้นหากจะมาลงสมัครใหม่จึงติดปัญหาเรื่องการสังกัดพรรค 90 วัน จึงไม่แน่ใจว่าพรรคจะส่งผู้สมัครลงทั้ง 400 เขตหรือไม่ ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบกันอยู่

ต่อข้อซักถามที่ว่า การที่นายกฯ สั่งยุบสภาถือเป็นเหตุที่ชอบธรรมหรือไม่ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า เมื่ออำนาจกติกาได้กำหนดให้นายกฯ สามารถยุบสภาได้ แต่จะถูกใจว่าการยุบสภาครั้งนี้จะแก้ปัญหาให้กับสังคมได้หรือไม่นั้น คำตอบอยู่ในใจนักการเมืองและผู้ชุมนุมอยู่แล้วว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่นายกฯต้องหาทางออกเพื่อลดปัญหาการเผชิญหน้าไปสู่ความรุนแรง เมื่อนายกฯ เห็นว่าการยุบสภาดีที่สุดก็เป็นการตัดสินใจของท่าน ซึ่งเป็นทางออกที่ถูกต้องหรือไม่ท่านรู้ดี

เมื่อถามต่อว่า หลังการเลือกตั้งพรรคชาติไทยจะจับมือเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคไทยรักไทยหรือไม่หากคะแนนเขาไม่ถึง 300 เสียง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องอนาคตค่อยดูกันในระยะยาว เพราะเขาอาจจะได้คะแนนเสียงเกิน 480 เสียงก็ได้ อาจจะได้แบบถล่มทลายใครจะไปคาดเดาอนาคตได้ หลังการเลือกตั้งความชัดเจนก็จะเกิดขึ้น