คมช.ปูทางบิ๊กบังลุยการเมือง ยันไม่ได้เป็นผู้เขียนกติกาเอง

4 สิงหาคม 2550 15:17 น.
คมช.สอนประชาธิปไตย ระบุ ทางแก้ปฎิวัติรัฐประหาร ต้องกำหนดบทบาททหารในรธน. ยกพม่า-อัฟริกา แม้ไม่พัฒนายังระบุชัดให้ทหารเป็นส.ส.-ส.ว.กี่เปอร์เซนต์ บ่น “อึดอัด”เห็นม็อบเย้วๆ แต่ทำอะไรไม่ได้ สุดทนแต่กม.ห้ามไว้ ปูทาง “บิ๊กบัง” ลุยการเมือง ยันชัดไม่ได้เขียนกติกาเอง ทำไมจะเล่นไม่ได้

(4สค.) งานมหกรรมประชาธิปไตย ปฎิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550 พล.อ.ภาษิต สนธิขันธ์ รองผ.อ.สำนักงานเลขาธิการ คมช. กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง“ทหารกับการพัฒนาประชาธิปไตย” ตอนหนึ่งว่า ตั้งแต่ยึดอำนาจมาคมช.ดำเนินการตามกฎหมายมาตลอด แม้แต่การเดินขบวนเย้วๆกันก็ต้องให้ตำรวจดำเนินการ ไม่ใช่ว่าเอาเปรียบตำรวจ แต่กฎหมายระบุว่าให้เราเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน เราอยู่ในหน่วยรู้สึกอึดอัด และสงสารตำรวจที่ต้องใช้ความอดทนอดกลั้น เพราะถ้าทำอะไรลงไปก็จะเข้าล็อกเขาทันที

ทั้งนี้การที่ทหารจะมีบทบาทในการพัฒนาประชาธิปไตยต้องให้ทหารมีบทบาทในรัฐธรรมนูญ แต่ก่อนทหารไม่ได้สนใจรัฐธรรมนูญเท่าไหร่ เพราะคิดว่าเขียนอะไรก็เขียนไปถ้าไม่ดีฉันก็ปฎิวัติเลยไม่สนใจ สมัยก่อนอาจจะเป็นไปได้ แต่สมัยนี้ไม่ได้แล้ว บทบาทในรัฐธรรมนูญของเราไม่มีอะไรที่บอกไว้เลยแม้แต่ในฉบับปี 50 ก็ยังไม่แตกต่างกับปี 40 ในอดีตอาจจะมีพรรคการเมืองใหญ่บางพรรคที่ไม่ชอบทหาร จึงพยายามกด ทหารเมื่อถูกกดจึงใช้ทางออกแบบทหาร แล้วเกิดความเสียหายเป็นหมื่นล้านจากการปฎิวัติ ประชาธิปไตยต้องหยุด วันนี้ต้องให้บทบาททหารอยู่ในรัฐธรรมนูญเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว ยืนยันว่าจะไม่เป็นการทำให้ทหารเบ่งเพราะถ้าใครทำอย่างนั้นถือว่าโง่และบ้าด้วย

“แม้แต่พม่า อัฟริกา ประเทศที่เราคิดว่าเขาไม่เจริญกว่าเรา เขายังกำหนดในรัฐธรรมนูญว่าในภาคการเมืองส.ส.หรือส.ว.จะต้องมีทหารอยู่ในเป็นอัตราส่วนเท่าไหร่ เป็นส.ส.เท่าไหร่ เป็นส.ว.เท่าไหร่ เพื่อให้มีบทบาทตรงนั้น ให้ทหารระบายออกตรงนั้นหาทางแก้ตรงนั้นได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องปฎิวัติ รัฐธรรมนูญต้องบอกเลยว่าต้องมีส.ส.หรือส.ว.5 เปอร์เซนต์ ต้องเป็นทหาร ระดับผู้บังคับหน่วยระดับเหล่าทัพ หรือแม่ทัพภาคให้เป็นส.ว. ผมไม่ได้เรียกร้องให้ทหารเข้าไปแต่เป็นแง่คิดอีกมุมหนึ่ง กำหนดให้ชัดเจน ทหารจะได้มีทางออกในรัฐธรรมนูญ”ผู้แทนคมช. กล่าว

พล.อ.ภาษิต กล่าวต่อไปว่า การแก้ปัญหาของกองทัพนั้นต้องให้กองทัพปลอดจากการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง ที่ผ่านมาพอถึงฤดูทีก็วิ่งไปบ้านนักการเมือง เข้าหน้าบ้านไม่ได้ก็เข้าหลังบ้าน ทำให้เกิดปรากฎการณ์ย้ายข้ามรุ่นถึง 5-6 ปี ก็ข้ามหัวขึ้นได้

“ในการโยกย้ายครั้งนี้ผู้นำกองทัพปัจจุบันรวมทั้งตำรวจด้วย ถ้าใครวิ่งให้ตัดชื่อออกไปเลย ขอยืนยันว่าผู้บัญชาการที่ดีนั้นจะมีญาณวิเศษ ไม่ต้องไปเสนอหน้า เขาจะรู้เองว่าใครทำงานหรือใครเป็นพวกไม่ทำงานแต่วิ่งเต้น ผมยืนยันว่าฤดูโยกย้ายเดือนส.ค.-ก.ย.นี้ไม่มีใครกล้า เพราะผบ.ไม่เปิดทางให้ และต่อไปนี้การเมืองต้องไม่ยุ่งกับทหาร”ผู้แทนคมช กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้ซักถาม ปรากฎว่ามีผู้ถามว่าพล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ประธานคมช.จะลงเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ภาษิต กล่าวว่า อนาคตพล.อ.สนธิ ตนตอบไม่ได้ แต่ส่วนตัวเห็นว่าถ้าจะลงเล่นการเมือง ในกติกาที่ท่านไม่ได้เขียนขึ้นมาเอง ถามว่าผิดหรือไม่ ในเมื่อท่านไม่ใช่คนเขียนกติกาถามว่าท่านจะได้ประโยชน์อะไร ในอีก 2 เดือนท่านต้องเกษียณ ก็อาจต้องหาอะไรทำ เหมือนตนที่คิดว่าถ้ายังมีสมอง มีแรงก็จะทำในสิ่งที่ทำได้