ปชป.เดินหน้าเช็คบิลแม้ว ลั่นไม่ปล่อยคนทุจริตลอยนวล

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 8 เมษายน 2549 21:04 น.

ประชาธิปัตย์ เดินหน้าตรวจสอบ ทักษิณ ใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ตัวเอง-พวกพ้อง ชี้รัฐอย่าแทรกแซงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปิดกั้นการให้ข้อมูล ลั่นไม่ปล่อยให้ทุจริตลอยนวล วอนศาลรธน.วินิจฉัยตั้งชิดชัยนั่งนายกฯรักษาการ ระบุไม่สามารถทำได้เพราะรัฐธรรมนูญไม่รองรับ

วันนี้(8 เม.ย.) นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานคณะทำงานตรวจสอบทุจริตพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าตรวจสอบการกระทำอันเป็นการทุจริตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ทั้งในสมัย ทักษิณ 1-2 ที่เอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้อง รวมทั้งจะตรวจสอบครอบครัวของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย โดยจะใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ก่อนยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบต่อไป

สำหรับการสอบสวนคดีทุจริตของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายอลงกรณ์ กล่าวว่า จะดำเนินการในห้วงเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตั้งแต่ปี 2544-2549 เน้นประเด็นหลักไปที่ผลประโยชน์ทับซ้อนในการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่เอื้อประโยชน์ให้กับคนในครอบครัว การขายหุ้นให้กับบริษัทเทมาเส็ก การทุจริตเชิงนโยบายต่าง ๆ อาทิ โครงการ CTX 9000

คณะทำงานของพรรคจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเข้มข้นต่อไปและขอร้องให้รัฐบาลรักษาการอย่าเข้ามาแทรกแซงหรือปิดกั้นข้อมูลด้วย นายอลงกรณ์ กล่าว

นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า จะเดินทางไป ป.ป.ช. เวลา 14.00 น. วันจันทร์ที่ 10 เมษายนนี้ เพื่อตรวจสอบคดีสำคัญต่าง ๆ ที่จะหมดอายุความ ในขณะที่ ป.ป.ช. ยังไม่มีผู้มาปฏิบัติหน้าที่ พรรคจะนำมาพิจารณาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อไม่ให้การทุจริตที่เกิดขึ้นลอยนวล

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงไม่ปล่อยให้หน้าที่การตรวจสอบเป็นของคณะกรรมการกลางที่มีอำนาจในการตัดสิน หรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดมากกว่าบทบาทการทำงานในพรรค นายอลงกรณ์ กล่าวว่า พรรคจะทำหน้าที่ตามขีดความสามารถเท่าที่ดำเนินการได้ โดยจะใช้ข้อมูลเดิมที่พรรคเคยเดินหน้าตรวจสอบในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาประกอบการพิจารณา ส่วนคณะกรรมการอิสระที่เป็นกลางนั้นเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องที่พรรคเคยเสนอแต่ได้รับการปฏิเสธจากนายกรัฐมนตรี พรรคจึงต้องเดินหน้าสอบสวนเพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศในการสอบสวน

นอกจากนี้ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มอบหมายให้ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี ทำให้เหมือนมีนายกรัฐมนตรีรักษาการ 2 คน ว่า ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญไม่สามารถทำได้ และการดำเนินการดังกล่าวอุปมาคล้ายกับรัฐบาลกัมพูชาในอดีตที่มีนายกรัฐมนตรี 2 คน แต่เวลานั้นกัมพูชามีรัฐธรรมนูญรับรอง

รัฐบาลไทยไม่มีรัฐธรรมนูญรับรองในเรื่องนี้ จึงเห็นควรที่ศาลรัฐธรรมนูญจะหยิบประเด็นนี้มาวินิจฉัยว่าการที่นายกรัฐมนตรีดำเนินการเช่นนี้จะถือว่านายกรัฐมนตรีพ้นสภาพจากการเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพ้นสภาพ ย่อมแสดงว่าคณะรัฐมนตรีรักษาการต้องพ้นสภาพไปด้วย นายอลงกรณ์ กล่าว

นายอลงกรณ์ ย้ำว่าศาลรัฐธรรมนูญควรหยิบยกประเด็นนี้มาวินิจฉัย เพื่อไม่ให้เกิดความคลุมเครือในการใช้รัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะหารืออีกครั้ง และจะขอความเห็นจากอดีตพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อเคลื่อนไหวในเรื่องดังกล่าวต่อไป

ส่วนข้อเสนอของนายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา ที่ให้ยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 313 เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองนั้น นายอลงกรณ์ กล่าวว่า เร็วเกินไปที่จะให้ยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญภายใน 12 สัปดาห์ และพรรคการเมืองก็ไม่ควรที่จะเข้าไปมีส่วนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ