อมธ.ลั่นล่าต่อให้ถึง 80,000 ชื่อ ไม่สนยุบสภายังตรวจสอบได้

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 กุมภาพันธ์ 2549 16:36 น.

อมธ.แถลงแนวทางขับเคลื่อน 50,000 รายชื่อ เผยแม้ได้ครบแล้ว แต่จะขอล่าให้ถึง 80,000 ชื่อยัน แม้นายกฯประกาศยุบสภาไปแล้วก็ไม่มีผล เพราะนอกจากยื่นถอดถอนแล้วยังเป็นการยื่นเพื่อตรวจสอบการทำงานด้วย ถ้ามีการชี้มูลความผิดจริง ทักษิณต้องเว้นวรรคการเมือง 5 ปี และถูกดำเนินคดีอาญา

วันนี้(25 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น.กลุ่มนิสิตนักศึกษารักประชาชนนำโดย องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสต์(อมธ.)ได้แถลงแนวทางกระบวนการ 50,000 รายชื่อภายหลังการยุบสภา ที่ห้อง 221 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

นายธนาชัย สุนทรอนันตชัย อดีตนายกอมธ.ปี 2548 กล่าวว่า ขณะนี้การล่ารายชื่อเพื่อยื่นถอดถอนและตรวจสอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ครบ 50,000 รายชื่อแล้ว โดยรายชื่อดังกล่าวยังไม่ได้รวมกับเครือข่ายในต่างจังหวัดและรายชื่อที่ส่งมาทางไปรษณีย์ ซึ่งคาดว่าทางอมธ.จะตั้งโต๊ะล่ารายชื่อต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 7 มี.ค. โดยตั้งเป้าว่า จะล่ารายชื่อให้ครบ 80,000 รายชื่อ และขอให้ประชาชนมาร่วมลงชื่อให้ครบตามจำนวนดังกล่าวเพื่อตรวจสอบการบริหารงานของพ.ต.ท.ทักษิณ

ด้านนายจักรกฤษณ์ ด่านเฉลิมนนท์ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทีมกฎหมายอมธ. กล่าวว่า มีผู้ตั้งคำถามว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาแล้ว รายชื่อที่รวบรวมได้จะเอาไปทำอะไรนั้น ขอทำความเขาใจก่อนว่า การล่ารายชื่อไม่เพียงแค่ถอดถอนแต่ยังต้องการให้มีการตรวจสอบการบริหารงานด้วย ดังนั้น อมธ.จะนำรายชื่อยื่นให้กับวุฒิสภาภายในวันที่ 7 มี.ค.นี้ หรืออาจจะต้องดูประเด็นเรื่องการทำสำนวนเป็นหลัก เนื่องจากหากสำนวนไม่มีเหตุมีผลเพียงพอ ก็อาจจะถูกวุฒิสภาตีกลับ ซึ่งอมธ.มีเวลาถึง 7 ส.ค. ซึ่งจะครบ 180 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด อย่างไรก็ตาม การยื่นสำนวนให้วุฒิสภามีข้อกำหนดเส้นตายว่าต้องส่งก่อนวันที่ 24 มี.ค. เนื่องจากวุฒิสภาชุดปัจจุบันจะหมดวาระลง

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า การยื่นรายชื่อขณะที่รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลรักษาการจะส่งผลอย่างไรหรือไม่ นายจักรกฤษณ์ กล่าวว่า อมธ.ต้องการยื่นก่อนที่วุฒิสภาจะหมดวาระ ซึ่งก็ควรมีการตรวจสอบ และหากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในวงราชการ(ปปช.)ชี้ว่าการบริหารของพ.ต.ท.ทักษิณมีมูลความผิดจริง เรื่องก็จะกลับมาที่สภาซึ่งเป็นเวลาหลังเลือกตั้งสส.และจะมีวุฒิสภาชุดใหม่ แต่ปัญหาก็คือ ขณะนี้ยังไม่มีปปช.และจะมีปปช.ก่อนที่วุฒิสภาจะหมดวาระในวันที่ 24 มี.ค.นี้ได้หรือไม่

หากวุฒิสภาพบว่าการบริหารงานของนายกรัฐมนตรีมีมูลความผิดจริง ปปช.ก็จะต้องส่งเรื่องกลับมาที่วุฒิสภาเพื่อตรวจสอบและลงมติ และเมื่อลงมติแล้ว หากพ.ต.ท.ทักษิณมีความผิดจริงก็ต้องถูกเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี ซึ่งในเวลานั้นหากพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งก็ต้องถูกเว้นวรรคทางการเมือง และถูกดำเนินคดีทางอาญา แต่หากไม่ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็ต้องถูกดำเนินคดีอาญาตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมยื่นรายชื่อในขณะที่มีรัฐบาลรักษาการ นายจักรกฤษณ์ กล่าวว่า เรื่องตรงนี้ไม่ใช่ประเด็น เพราะอมธ.ยื่นให้กับประธานวุฒิสภาซึ่งเป็นตำแหน่งไม่เกี่ยวกับตัวบุคคล ไม่ว่าใครขึ้นมาเป็นประธานวุฒิสภาก็สามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้

นายจักรกฤษณ์ยังได้กล่าวถึงการตัดสินใจยุบสภาของพ.ต.ท.ทักษิณว่า ไม่แน่ใจว่าการยุบสภาขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือมา หากขัดต่อรัฐธรรมนูญก็ต้องมีคนร้องขึ้นมาและหาว่าการยุบสภาสร้างความเสียหายอย่างไรจึงจะฟ้องร้องได้ อย่างไรก็ตาม การที่นายกรัฐมนตรียุบสภาไม่สามารถลดกระแสการชุมนุมได้ และนายกรัฐมนตรีก็ไม่ควรเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาลมาเป็นข้ออ้างในการยุบสภาเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบและยืนยันว่าการชุมนุมของประชาชนในวันพรุ่งนี้(26 ก.พ.) หากเป็นไปด้วยความสงบ ปราศจากอาวุธ ถือเป็รสิทธิของประชาชนที่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้อมธ.จะยังคงจัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิของประชาชนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดและรณรงค์เรื่องการเลือกตั้งทุกวันศุกร์ที่ลานโพธิ์ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณลานประติมากรรม มธ.กลามตัวแทน 12 องค์กรนักศึกษา อาทิ อมธ. สนนท. นักศึกษานิด้าเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มล้อการเมืองมธ. กลุ่มสังคมวิจารณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นต้น ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมคนไทยรวมใจลบเหลี่ยม โดยมีเวทีไฮด์ปาร์กวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของพ.ต.ท.ทักษิณ และเปิดให้ประชาชนมาร่วมลงคะแนนว่า พ.ต.ท.ทักษิณควรจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่ โดยได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งกิจกรรมบริเวณลานประติมากรรมจะยุติในเวลาประมาณ 17.00 น.