ซัด ทนายทักษิณ ชี้ผลงานพิสูจน์ที่ศาล

 นายแก้วสรร อติโพธิ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) ในฐานะเลขานุการ คตส.กล่าวตอบโต้กรณีที่ นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุคัดค้านการต่ออายุของ คตส.จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2551 ว่า ไม่มีความจำเป็นและไม่เหมาะสม เพราะสามารถโอนงานที่คั่งค้างให้ ป.ป.ช.หรือ ปปง.ตรวจสอบได้ ถือเป็นการสืบทอดอำนาจ และไม่ไว้ใจการทำงานของ ป.ป.ช.และ ปปง.ว่า การต่ออายุให้ คตส.ต่อนั้น ไม่ใช่เป็นการสืบทอดอำนาจอย่างที่เข้าใจ แต่เป็นการให้เวลาต่อในการทำงานที่คั่งค้างอยู่ ซึ่ง คตส.ได้เร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ในช่วงที่ผ่านมา เพราะทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาแล้วเห็นว่า เรื่องต่างๆ ที่ คตส.ทำไว้แม้จะสามารถส่งต่อให้ทาง ป.ป.ช.หรือ ปปง.ดำเนินการต่อได้จริง แต่จะเสียเวลาในการต้องมาจับหรือศึกษางานในสำนวนนั้นๆ ใหม่อีก ซึ่งเมื่อทาง สนช.เห็นชอบ และมีมติดังนั้นแล้ว เรา คตส.ก็ต้องเร่งดำเนินการทำงานต่อให้แล้วเสร็จ มันก็เท่านั้น

         ผู้สื่อข่าวถามว่า นายวิชิต กล่าวพาดพิงถึง คตส.บางคนที่เคยระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับการต่ออายุ โดยให้รับผิดชอบคำพูด เมื่อ คตส.หมดอายุตามวาระในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ด้วยการไม่รับตำแหน่งต่อว่า ตนไม่สามารถตอบแทนกรรมการ คตส.ท่านอื่นได้ แต่สำหรับส่วนตัว ที่เคยระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับการต่ออายุ คตส.เพราะไม่อยากให้ คตส.ตั้งขึ้นมาเป็นองค์กรที่อยู่ยาวนาน เพราะในขั้นตอนการตรวจสอบมีองค์กรอย่าง ป.ป.ช.อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาถือดาบคู่กับ ป.ป.ช. แต่ที่อยู่ต่อนี้ก็เพื่อทำงานเก่าที่คั่งค้างให้เสร็จตั้งแต่ต้นจนจบเท่านั้น มันเป็นเพียงการต่อเวลาให้คนทำงานต่อให้จบ ส่วนทางทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะว่าอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา เราก็ทำงานต่อไปตามหน้าที่ที่ สนช.ให้เวลามา

        ด้าน นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการ คตส.กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ทีมทนายของ พ.ต.ท.ทักษิณ อยากจะออกมาให้ความคิดเห็นก็เป็นเรื่องของเขา เพราะตนคิดว่าเป็นความคิดเห็นนอกกรอบการทำงานของ คตส.ซึ่งตนมองว่า หากทีมทนายเห็นว่า สิ่งที่ คตส.ทำไม่ถูกต้อง ก็ควรทำเป็นสำนวนระบุเหตุผลมาให้ คตส.พิจารณา แต่ถ้าออกผ่านสื่อเช่นนี้ ทำไม่ถูกต้องเหมือนดูลิเก หรือดูละคร ซึ่งทุกอย่างที่ คตส.ตรวจสอบไม่ได้จบที่สื่อ แต่จะจบที่กระบวนการยุติธรรม เพราะฉะนั้นอยากให้ ทีมทนายไปสู้กันที่ศาลจะดีกว่า

          “เราก็พอรู้ทันว่า เขาอยากสร้างราคาให้ตัวเอง ซึ่งมีผู้ใหญ่บางคนก็คอยไปโต้ตอบเขาเขาก็เท่ากับไปสร้างราคาให้เขา และบางคนที่ออกมาพูดเรื่องนี้ก็มีป้าหมายในเรื่องอื่น ซึ่งเรารู้ทันจึงไม่อยากแสดงความคิดเห็นออกไปมากกว่านี้ เพราะกลัวตกลงไปในบ่อโคลนที่เข้าล่อเอาไว้จะทำให้เราเปื้อนโคลนเปล่าๆ” นายอุดม กล่าว